posttoday

จับตาเลือกสว.อำเภอ 9มิ.ย. โกลาหล กับขบวนการ เลื่อน-เลิก-ล้ม(รัฐบาล)สว.67

05 มิถุนายน 2567

นักวิชาการ รักษาการสว. ต่างเป็นห่วงต่อกระบวนการเลือกสว.67 อาจไปไม่ถึงปลายทาง ท่ามกลางข่าว เลื่อน-เลิก-ล้ม เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ กฎกติกาการเลือกอันซับซ้อน การควบคุมจากกกต.ที่ไม่เห็นถึงความชัดเจน ต่อปมข้อสงสัย ทำให้กระบวนการเลือกสว.ครั้งนี้น่าเป็นห่วงไม่น้อย

KEY

POINTS

  • พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต นักวิชาการ แสดงความเป็นห่วงการเลือกสว.ระดับอำเภอ 9 มิ.ย. อาจเกิดความโกลาหลขึ้น ท่ามกลางการโหมประโคม การเลือกสว.67ครั้งนี้ อาจนำมาสู่การ เลื่น เลิก ล้ม 
  • กกต.ยังไม่ประกาศความชัดเจน ผู้สมัครบางกลุ่มสาขาอาชีพที่มีความคลุมเครือทางคุณสมบัติ
  • วันชัย สอนศิริ รักษาการสว. ห่วงขบวนการ 3 ล้ม เชื่อมโยงเป็นขบวนการเดียวกัน 
  • ล้มรัฐบาลเศรษฐา ยุบพรรคก้าวไกล ล้มการเลือกสว.67

วันอาทิตย์ 9 มิ.ย. จะมีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา(สว.) ในระดับอำเภอ ท่ามกลางกติกาการเลือกสว.2567 อันงุนงง สับสน เลือกไขว้ แบ่งกลุ่มจาก 20 กลุ่มสาขาอาชีพ กฎกติกา ที่ยุ่งยาก จากผู้ออกแบบกฎกติกา เป็นผลพวงมาจาก รัฐธรรมนูญฉบับรัฐประหารเมื่อปี2557 ไปจนถึง ผู้ควบคุมกฎอย่าง คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ถูกตำหนิ ตั้งคำถามไม่น้อย ต่อการทำหน้าที่


โพยฮั้ว-บล็อกโหวตเลือกสว. 149 ราย ที่น่าจะทะลุด่านจากอำเภอ ไปสู่ ระดับจังหวัดได้เลย แพร่สะพัดในโลกโซเชียล นักวิชาการทางด้านรัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ สว.รักษาการบางคน ตั้งคำถามต่อกระบวนการเลือกครั้งนี้ เกิดเป็นกระแส เลื่อน-เลิก-ล้ม ยิ่งทำให้กระบวนการกว่าจะได้มาซึ่ง 200 สว.ชุดใหม่ ยังเป็นปมปริศนา ต่อไปว่า เราจะได้เห็นโฉมหน้าสว.2567 ตามกรอบกำหนดไทมน์ไลน์จาก กกต. ในเดือนกรกฎาคมนี้หรือไม่ 

นักวิชาการ ผู้ทรงคุณวุฒิ ที่อยู่ในแวดวง สะท้อนมุมมองอันน่าเป็นห่วงต่อการเลือกสว.เวอร์ชั่นปี2567 
 

'พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต' ผู้อำนวยการหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการเมืองและยุทธศาสตร์การพัฒนา สถาบันพัฒนาบริหารศาสตร์ เปิดเผยกับเนชั่นทีวี บางช่วงบางตอนว่า


“การเลือกสว.ครั้งนี้ มีขั้นตอนซับซ้อน นำมาสู่ความง่ายที่อาจทำให้เกิดความผิดพลาดได้ การเลือกสว. มีการเลือก6ขั้นตอน เลือกอำเภอ2ครั้ง จังหวัด2ครั้ง ประเทศ2ครั้ง ทำให้โอกาสการผิดพลาด ยังไม่รวมข้อบกพร่องกกต.ประชาสัมพันธ์น้อย ทำให้ผู้สมัครสว.บางอำเภอสมัครคนเดียว หรือ บางกลุ่มสมัครเพียงแค่คนเดียว เลยทำให้เกิดปัญหา คนที่ไปสมัครถูกตัดสิทธิโดยกติกา ส่วนหนึ่งเกิดจากการทำงานไร้ประสิทธิภาพของกกต. เมื่อมีปัญหาแบบนี้ ทำให้ได้โอกาสอย่างดี ต่อกระบวนการที่ไม่อยากให้มีการเลือกสว.เกิดขึ้น หรือ เลื่อนออกไป


มีความเคลื่อนไหวผิดปกติ มีการขยายเรื่องนี้เกินเหตุ เช่น โผ149 คน ที่บอกว่า โผนี้อาจจะเกิดการฮั้วเลือกสว. ซึ่งมาจากการวิเคราะห์ของนักวิชาการบางคนในเชิงตรรกะ ที่น่าจะผ่านจากอำเภอ ไปสู่จังหวัดเลย เนื่องจาก กลุ่มอาชีพนั้นสมัครเพียงแค่ 2 คน เมื่อสมัคร 2 คน จากอำเภอเลยได้แหงๆ ไม่ใช่ฮั้วอะไร แต่เป็นไปตามตรรกะของการเลือกเอง ถ้าคนมีเจตนาดี แชร์กันไป ทำให้เกิดความสงสัยมีการฮั้ว ล็อกกันไว้ล่วงหน้าหรือไม่

เมื่อคนมาสมัคร 2 คน ต้องโทษกกต. ประชาสัมพันธ์ไม่ดี หรือ คนออกแบบรัฐธรรมนูญ ออกแบบการเลือกสว.คิดไม่รอบครอบ ไม่รอบด้าน ไม่ได้มองสภาพความเป็นจริง เพราะบางอำเภออาจจะไม่มีคนในอาชีพในบางกลุ่มอาชีพนั้นๆเลย 
 

ขอให้ลองไปหาข้อมูล พื้นที่ควรเฝ้าระวัง บางจังหวัดที่มีการแต่งตัวเหมือนกันไปสมัครสว.กันเป็นแพค 10-20คน กลุ่มเกษตรกร กลุ่มทหารผ่านศึก บางจังหวัด อาจสมัครเยอะ เพราะจัดตั้งหลายกลุ่ม แม้แต่ในกทม. บางเขต บางบริษัทส่งคนไปสมัครเต็มไปหมด ไม่ใช่เฉพาะนักการเมืองบ้านใหญ่ แต่มีกลุ่มทุนขนาดใหญ่ กลุ่มข้าราชการ กลุ่มอสม. มีการตั้งคำถาม อสม.ถือเป็นวิชาชีพหรือไม่ หรือเป็นเพียงงานอาสาสมัคร ไม่ใช่วิชาชีพ ปล่อยให้สมัครในกลุ่มแพทย์ พยาบาล ได้อย่างไร บางคนจบแพทย์ 2ปี ยังสมัครไม่ได้ เพราะคุณสมบัติต้องมีความเชี่ยวชาญ 10 ปี ถึงจะสมัครได้ ต้องมีใบประกอบวิชาชีพ ซึ่งจะเข้าหลักการสว.ต้องเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ไม่ใช่อาสาสมัคร หรือ ถ้าอาสาสมัคร ถ้าจะสมัครก็ไปสมัครในกลุ่มอื่นๆได้ หรือไปสมัครในกลุ่มอาชีพจริง เช่น บางคนทำนา ควรไปสมัครในกลุ่มดังกล่าว


ตอนนี้กกต.ยังไม่กล้าประกาศตัดสิทธิปล่อยให้คลุมเครือ โดยเฉพาะบางกลุ่มสมัครคนเดียวในกลุ่มนั้น ถ้ามีหลายกลุ่มไม่เป็นอะไร แต่ถ้าสมัครคนเดียว แล้วไม่มีกลุ่มอื่นเลยจะทำอย่างไร เพราะจะไม่มีคนมาเลือกไขว้ด้วย ถ้ากกต.ตีความตามตัวอักษรทางกฎหมาย อาจจะตัดออก แต่ถ้าตีความตามนักวิชาการบางท่านเสนอ ควรขยายสิทธิ เพราะสิทธิเสรีภาพของประชาชนได้รับการรองรับตามรัฐธรรมนูญ และพรบ.อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ เมื่อเขาสมัคร ไม่ได้ทำผิดกติกาอะไร ควรให้เขาได้สิทธิไป


แต่อีกไม่กี่วัน(9มิ.ย.)จะมีการเลือกระดับอำเภอแล้ว กกต.ควรประกาศให้ชัด แต่ถ้ากกต.ไม่ประกาศ แล้วกกต.อำเภอ บอกไม่ให้คนนั้นใช้สิทธิจะทำอย่างไร


ถามว่า การเลือกระดับอำเภอ 9 มิ.ย. จะมีความวุ่นวายหรือไม่ นายพิชายกล่าวว่า มีบางจุดที่อาจมีความโกลาหลเกิดขึ้นอยู่ไม่น้อย แต่ในภาพรวมๆคิดว่าก็พอไปได้ สิ่งสำคัญตอนนี้คือ ต้องช่วยกันให้การเลือกสว.ให้สำเร็จให้ได้ ไม่เช่นนั้น สว.แต่งตั้งจากคณะรัฐประหารจะยังอยู่ต่อ สว.ชุดใหม่แม้ระบบการเลือกไม่ค่อยดี แต่ก็ดีกว่าสว.จากการแต่งตั้งจากคนกลุ่มเดียว คงต้องช่วยกันผลักดันจุดสังเกตุที่ดูคือ มีการส่งซิกแลกเปลี่ยนอะไรกันหรือไม่ หรือมอบอะไรให้กันหรือเปล่า แต่บางทีก็อาจทำกันมาก่อน      

'วันชัย สอนศิริ' รักษาการสมาชิกวุฒิสภา(สว.) 

"ขบวนการ 3 ล้มเกิดขึ้น เป็นการรวมการเฉพาะกิจของคณะบุคคล 3 กลุ่ม 3 พวก เพื่อล้มรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ลงให้ได้ เพราะถ้าล้มรัฐบาลเศรษฐาลงได้ จะมีการSet Zero ในอำนาจ เริ่มนับหนึ่งใหม่ ตัวเองจะได้เข้ามามีอำนาจในครั้งใหม่นี้ 


ล้มที่2 ล้มหรือยุบก้าวไกล ถ้ายุบก้าวไกลไปได้ พรรคก็จะแตกกระสานซ่านเซ็น สส.ต้องหาที่อยู่ใหม่ภายใน 30 วัน ตอนนั้นพรรคตัวเอง หรือพรรคพวกของตัวเอง จะตามช้อนหรือต้อนเข้าคอก ทำให้มีเสียงเพิ่มมากขึ้น แล้วมีอำนาจต่อรองกับอำนาจใหม่นี้ 
 

ล้มที่3 คือ ล้มกระดานการเลือก สว.ถ้าล้มได้ สว.ชุดเก่าก็ยังอยู่เหมือนเดิม คอยปฏิบัติภารกิจได้ต่อไป


คณะบุคคล 3 พวกที่ประสานงานจับมือกันเคลื่อนไหวเป็นขบวนการอย่างเข้มข้นอยู่ในขณะนี้ เพื่อหวังจะทำให้ 3 ล้มดังกล่าวประสบความสำเร็จ ประกอบด้วย พวกที่ผิดหวังอกหักทางการเมือง ไม่ได้เข้ามามีอำนาจ พวกที่เกลียดนายทักษิณ ชินวัตร และพวกนิยมเผด็จการซึ่งมีทหารเป็นหลัก


ทั้ง 3 พวกนี้ไม่เอาทั้งพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล รวมทั้งนายทักษิณ การออกมาให้ข่าวกล่าวหา โจมตีในประเด็นต่าง ๆ เป็นระลอก การยื่นคำร้องต่อองค์กรอิสระ คนเหล่านี้ปฏิบัติการเป็นแบบรวมการเฉพาะกิจ ไม่เป็นไปตามวิถีประชาธิปไตยที่ควรจะเป็น แต่ละคน แต่ละพวกอุดมการณ์ต่างกัน แต่เป้าหมายเดียวกันคือ การล้มรัฐบาลเศรษฐา ยุบพรรคก้าวไกล และล้มกระดานการเลือกสว.เพื่อให้ สว.ปัจจุบันยังอยู่ในตำแหน่งต่อไป


ขบวนการ 3 ล้มนี้ ทำงานแบบสอดประสานกัน  มีการวางแผน เตรียมการ และกำลังดำเนินการอยู่ ขอให้จับตาการเคลื่อนไหวต่างๆ เหล่านี้ให้ดี ความพยายามของพวกนี้ เป็นวิชามารที่สกปรก หวังแต่เพียงจะสร้างความสับสนวุ่นวาย เพื่อให้ตัวเองมีอำนาจต่อรองมากขึ้น หากล้มรัฐบาลเศรษฐา ได้ก็จะนับหนึ่งกันใหม่ หรือไม่ก็อาจจะไปถึงขั้น เปิดช่องให้อำนาจนอกระบบเข้ามาก่อรัฐประหาร ซึ่งประมาทไม่ได้"


ล่าสุด ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 8 ต่อ 1 รับคำร้อง 3 มาตราเกี่ยวกับ พ.ร.ป.การได้มาซึ่งสว. ไว้พิจารณาว่า จะเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ กระบวนการเลือกสว.67 ยังไม่ทันนับหนึ่ง เริ่มเลือก แต่จาก ปรากฎการณ์ทั้งหลายที่ปรากฎ ยิ่งโหมกระพือเลื่อน ล้ม เลิก ให้เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ