ปิยบุตร ย้ำจุดยืน ยกเลิกสว. ชี้ เหลือสภาเดียว ยังตรวจสอบถ่วงดุลได้

ที่อาคารรัฐสภา นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า กล่าวถึงการเลือกสมาชิกวุฒิสภา(สว.)ว่า ผลที่ออกมาแปลกประหลาดมาก หากมีปัญหาเช่นนี้คือ ไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ที่อยากได้สว. ที่มาจากหลากหลายอาชีพ ถึงเวลาที่ควรคิดทบทวนว่า ควรออกแบบที่มาสว.อย่างไร เป็นไปได้หรือไม่ ที่ควรจะเหลือสภาผู้แทนราษฎรเพียงสภาเดียว เมื่อเลือกมาแล้ว เห็นว่า แม้มีการร้องเรียนเรื่องคุณสมบัติจำนวนมาก เป็นเรื่องของตัวบุคคล ดังนั้น การที่จะนำไปสู่โมฆะทั้งระบบคงเป็นไปไม่ได้ และใครที่คิดฝันว่า อยากให้ สว. 250 คน รักษาการไปเรื่อยๆ คิดว่าเป็นการฝันเกินไป

เชื่อว่าอีกไม่นานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คงจะรับรอง และให้ สว.ชุดใหม่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ ส่วนตัวมองว่าควรรับรองก่อน สอยทีหลัง แม้ประกาศไปแล้วก็ยังมีช่องทางตรวจสอบได้ภายหลัง โดยเฉพาะกรณีคุณสมบัติต้องห้าม ก็ร้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ ถ้ามีการทุจริตก็ไปร้องที่ศาลฎีกา ดังนั้น ไม่ควรปล่อยให้การเมืองสะดุด ควรตรวจสอบเป็นรายบุคคล ใครมีปัญหาก็ตามไปตรวจสอบ มีช่องทางทั้งศาลรัฐธรรมนูญและศาลฎีกา

ถามว่าเมื่อมี สว.แล้วควรจะแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องที่มาของสว. หรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวว่า การจะเปลี่ยนที่มาของ สว. หรือยกเลิกการมีสว.จะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องอาศัยเสียงสว. ในการโหวต อาจจะเป็นปัญหา คงต้องไปหวังการยกร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ที่ให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ(สสร.) เข้ามา แต่ตอนนี้ก็ต้องรณรงค์ทางความคิดกันไปก่อนว่า ถ้ายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะเปลี่ยนที่มาของสว. หรือจะยกเลิกไปเลย แต่ครั้งนี้เมื่อเลือกมาแล้วก็ต้องเดินหน้าต่อ 

นายปิยบุตรกล่าวว่า มีจุดยืนมาตลอดว่าประเทศไทยถึงเวลาแล้ว ที่ควรจะมีสภาผู้แทนราษฎรเพียงสภาเดียว การตรวจสอบถ่วงดุลกับสภาผู้แทนราษฎร สามารถทำได้ ไม่ว่าจะเป็นกลไกของการแบ่งสรรปันส่วน การคัดเลือกองค์กรอิสระ ที่ยุติธรรมกับทุกฝ่าย โดยแต่ละฝ่ายเสนอมาด้วยจำนวนที่เท่าเทียมกัน ฝ่ายค้านเสนอมาส่วนหนึ่งและฝ่ายรัฐบาลเสนอมาส่วนหนึ่ง แล้วมาหาข้อยุติร่วมกัน ด้วยคะแนนเสียงที่สูงมาก

เชื่อว่า ไม่มีใครยึดองค์กรอิสระได้ ขณะเดียวกันก็มีคณะกรรมาธิการวิสามัญที่สามารถเชิญคนนอกเข้ามาร่วมพิจารณาเรื่องสำคัญๆ ได้ ถึงเวลาแล้วที่ควรจะยกเลิก สว. และมีสภาเดี่ยว เพราะเราเคยทดลองมี สว.มา 90 กว่าปีแล้ว ตั้งแต่ ปี 2475 ทั้งการแต่งตั้ง การเลือกตั้ง และการคัดสรร แต่ก็ไม่ตอบโจทย์ จึงควรคิดทบทวนว่าเรากลับมาใช้สภาเดี่ยว เหมือนกับหลายประเทศ