บนเส้นทางผู้นำ"นายกฯเศรษฐา"ลุ้นศาลรธน.ชี้ชะตาอนาคตการเมืองไทย

จนบัดนี้ การทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีของ "เศรษฐา ทวีสิน" ยังยืดเยื้อจากชะตากรรมที่อยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ คดี40สว.ยื่นตรวจสอบคุณสมบัติจากปมแต่งตั้งนายกพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ที่อาจจะส่งผลต่อการกำหนดทิศทางการเมือง ทั้งนี้ ต้องรอไปถึง 24ก.ค.67 ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญ นัดประชุมอีกรอบ แสดงให้เห็นว่ายังมีความเห็นที่แตกต่างกันหลายเรื่อง 

ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญได้รับพิจารณาโดยมีการอภิปรายแล้วเห็นว่า เพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณา ให้มีการเรียกข้อมูลเพิ่มเติมและรอฟังคำชี้แจง และรอฟังพยานหลักฐาน จากหน่วยงานหรือบุคคล ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญ เรียกไปก่อนหน้านี้ และกำหนดพิจาณาต่อไป 24ก.ค.67 
 

หมายความว่า อีกราว 2สัปดาห์ต่อจากนี้ไปลุ้นว่า ศาลนัดวินิจฉัยหรือไม่ หรือนัดพิจารณาต่อ

หากย้อนไทม์ไลน์ ปมการตรวจสอบคุณสมบัตินายกฯเศรษฐาของกลุ่ม 40สว. ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นดังนี้

• 17พ.ค.67 สว.40คนยื่นชื่อศาลรธน.วินิจฉัยปมนายกฯเศรษฐา ตั้งพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ 
• 23พ.ค.67 ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องของ40สว.
• 12มิ.ย.67 ศาลรัฐธรรมนูญเรียกให้คู่กรณียื่นบัญชีระบุพยานภายใน17มิ.ย.67 
• 18มิ.ย.67 ศาลรัฐธรรมนูญให้หน่วยงาน-บุคคลเกี่ยวข้องยื่นคำชี้แจงใน15วัน ตามประเด็นที่กำหนดยื่นภายใน15วัน 
• 10 ก.ค.67 มีการเรียกข้อมูลเพิ่ม รอคำชี้แจงจากหน่วยงาน-บุคคล
• 24ก.ค.67 ศาลรัฐธรรมนูญนัดอีกรอบ  

เมื่อกางปฏิทิน รวมเวลาตั้งแต่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง กว่า 48วันแล้วที่ประเทศไทยอยู่ในสภาวะสุญญากาศการบริหารราชการแผ่นดิน

ทว่าหาก 24 ก.ค.67 ศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัย ก็ต้องนับบระยะเวลาออกไปอีก 15 บวก 1 วัน ก็จะตกวันที่9ส.ค.67 "ลุ้นชี้ชะตาอนาคตการเมืองไทย" 

นักลงทุนต่างประเทศมีความกังวลต่อสถานะทางการเมืองของนายกฯเศรษฐา เพราะเกมแห่งอำนาจที่ยืดเยื้อ 

เมื่อเทียบกับการพิจารณาคดีตรวจสอบความเป็นนายกฯพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อ30ก.ย.65  ตุลาการขณะนั้นจำนวน4เสียงไม่เห็นด้วยให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ประกอบด้วย นายวรวิทย์ กังศศิเทียม ประธานศาลรัฐธรรมนูญ นายอดุมสิทธิวิรัชธรรม นายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์ นายปัญญา อุดชาชน 

ส่วนคดีตรวจสอบคุณสมบัตินายกฯเศรษฐา ตุลาการ5เสียงไม่เห็นด้วยให้หยุดปฎิบัติหน้าที่ ประกอบด้วย นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญคนปัจจุบัน นายนพดล เทพาพิทักษ์ นายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์ นายอุดม รัฐอมฤต นายสุเมธ รอยกุลเจริญ 

ความเหมือนมีให้เห็นทว่าการใช้เวลาในการนัดวินิจฉัยห่างกันมาก คดีพล.อ.ประยุทธ์ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ 38วัน ทำให้เกิดใจบันดาลแรง เพราะพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นั่งรักษาการ ขณะที่นายกฯเศรษฐา ต้องใช้เวลาในการพิจารณาไม่ต่ำกว่า80วัน 

มีคำถามตามมาว่า ใครได้ประโยชน์ ใครเสียหายจากเกมยืดเยื้ออำนาจที่ยาวนานขึ้น 

•  ประเทศเสียหาย จากสุญญากาศที่ยาวนาน
•  ข้าราชการเกียร์ว่าง 
•  การเมืองขาดเสถียรภาพ 
•  บัญชีรายชื่อนายกฯคนอื่น "ได้ลุ้น"
•  การขับเคลื่อนนโยบายไม่ราบรื่น

คดีการวินิจฉัยคุณสมบัตินายกฯเศรษฐาที่ยืดเยื้อ หากนับไทม์ไลน์ ใช้เวลาอย่างน้อย 78วัน เท่ากับนายกฯเศรษฐาเจอกับดักราว2เดือนกว่า

9 ส.ค.67 เราจะเห็นอนาคตทางการเมืองหรือไม่ เป็นเรื่องที่น่าติดตาม.