เปิดเบื้องหลัง เขี่ยพปชร.พ้นรัฐบาล ทอดไมตรี ปชป. โว 319 เสียงหนุน แพทองธาร

ที่อาคารชินวัตร3 นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย แถลงผลการประชุมว่า มีการพูดคุยในที่ประชุมว่าสส.หลายคนมีความไม่สบายใจ ถึงพฤติกรรมของพรรคร่วมรัฐบาลโดยเฉพาะหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ตั้งแต่มีการตั้งรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ให้ความสำคัญและไม่ได้มาร่วมโหวต ประกอบกับหลายสิ่งหลายอย่าง เช่นการยื่นถอดถอนนายเศรษฐา ที่ผู้อยู่เบื้องหลังก็เป็นที่ทราบกันดี เป็นสิ่งที่สส.ของพรรคสะท้อนมาในที่ประชุม ส่วนการที่จะดำเนินการทางนิติบัญญัติต่อไปในพรรคมีมติมอบหมายให้คณะกรรมการบริหารพรรค ไปรวบรวมเสียงสมาชิกในสภาฯ ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อที่จะสร้างเสถียรภาพให้กับรัฐบาล

เมื่อถามว่า หมายความว่าพรรคพลังประชารัฐจะไม่ได้อยู่ในพรรคร่วมรัฐบาลแล้วใช่หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ขอให้เป็นมติของที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคที่จะมีประชุมช่วงเย็นวันเดียวกันนี้ และคงจะมีความชัดเจนมากขึ้น แต่ในส่วนของการที่เราจะร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาลกับใคร จริงๆแล้วไม่ได้มีข้อกฎหมายอะไร แต่เป็นสิ่งที่เมื่อเราอยู่ร่วมกัน ต้องมีความสุขทุกฝ่าย 

เมื่อถามว่า การร่วมรัฐบาลจะต้องมาทั้งพรรคไม่ใช่เลือกบุคคลใดบุคคลหนึ่งใช่หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ในเรื่องของพรรคการเมืองก็มีข้อบังคับของพรรคเขาอยู่ ตรงนี้เราไม่ก้าวล่วง แต่ในนามของเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ก็จะรวบรวมเสียงสภาฯให้ได้มากที่สุด

เมื่อถามว่า จะนำมติของสส. ที่ไม่เอาพรรคพลังประชารัฐ เข้าสู่ที่ประชุมของกก.บห. ใช่หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ใช้คำว่ามีความไม่สบายใจดีกว่าครับ มีความไม่สบายใจของสส. ซึ่งเราจะนำประเด็นเหล่านี้มาถกกันในที่ประชุมของกรรมการบริหารพรรค แน่นอน  

เมื่อถามว่า การเดินหน้ารวบรวมเสียงต่อจากนี้จะมีการเทียบเชิญพรรคประชาธิปัตย์ใช่หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นพรรคประชาธิปัตย์อย่างเดียว ในฐานะเลขาธิการพรรค จะต้องรวบรวมเสียงในสภาฯให้ได้มากที่สุด เพื่อเสถียรภาพของรัฐบาล เมื่อถามต่อว่า เท่าที่มองตอนนี้มีพรรคใดบ้างนอกจากพรรคประชาธิปัตย์ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ยังมีพรรคเล็กๆอยู่ พรรคที่มี 1-2 ก็มีส่วนที่ทำให้รัฐบาลมีความเข้มแข็งเพิ่มมากขึ้นเพิ่มมากขึ้น

เมื่อถามอีกว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่พรรคไทยสร้างไทย 6 เสียง ที่โหวตให้น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ จะมาร่วมรัฐบาลด้วย นายสรวงศ์ กล่าวว่า ก็เป็นไปได้ ในเมื่อมีความเห็นตรงกันว่า ลงความเห็นว่าจะให้นายกฯของพรรคเพื่อไทย เป็นผู้นำรัฐบาล ก็อาจจะไปทำงานร่วมกันได้“
 

เมื่อถามถึงกลุ่มของร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่สนับสนุนพรรคร่วมรัฐบาลมาตลอด จะมีการพิจารณาอย่างไร นายสรวงศ์ กล่าวว่า สส. แต่ละคนมีเอกสิทธิ์และเอกภาพในการทำงานอยู่แล้ว ซึ่งในส่วนนี้ก็คงจะต้องมีการเชื้อเชิญกัน แต่ท่านใดสะดวกหรือไม่สะดวกก็เป็นเรื่องของทุกคน 

เมื่อถามต่อว่าการเชื้อเชิญจะเป็นรายกลุ่มหรือรายบุคคลเลยใช่หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า จะติดต่อทาบทามไป หากสะดวกใจที่จะมาทำงานร่วมกัน ก็มา แต่หากไม่สะดวกใจ ถือว่าแยกกันเดิน

เมื่อถามว่า หากกลุ่มของร.อ.ธรรมนัส พร้อมที่จะมาร่วมรัฐบาล จะมีตำแหน่งหรือโควตาในครม.หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า เป็นอำนาจของนายกฯ 

เมื่อถามอีกว่า การที่จะมอบตำแหน่งให้คนนอก กับพรรคอื่นที่ไม่ได้ร่วมรัฐบาล ตามกฎหมายจะสามารถทำได้หรือมีข้อห้ามอะไร หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ไม่มีข้อห้ามอะไรทั้งสิ้น ตนจึงบอกว่าเป็นอำนาจของนายกฯ คนเดียวที่จะเสนอชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ฉะนั้น ไม่ได้มีข้อกำหนดหรืออะไร มีเพียงแค่ข้อตกลงในเรื่องของโควตา ซึ่งตอนที่เป็นเรื่องของพรรคการเมืองก็เป็นโควตาของแต่ละพรรคนั้น ส่วนการแต่งตั้งครม.ในชุดนี้ ก็เป็นอำนาจของนายกฯ 

เมื่อถามว่า กรรมการบริหารพรรค จะเคาะเรื่องพรรคพลังประชารัฐเมื่อไหร่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ภายในวันนี้ จะเป็นมติของกก.บห. ชัดเจน ส่วนการเทียบเชิญเป็นทางการหรือภายในนั้น ต้องเป็นทางการ แต่อาจจะมีการประสานงานกันภายในก่อน แต่เพื่อเป็นการให้เกียรติกับคนที่เราพูดคุยกันไว้ ก็ต้องมีการเทียบเชิญอย่างเป็นทางการ

เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ ก็มีปัญหาภายใน จะมีปัญหาเข้ามาร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ต้องดูเป็นรายบุคคล และสถานการณ์ แต่จะให้ประนีประนอมที่สุด และราบรื่นที่สุด 

เมื่อถามว่าหากจะดูเป็นรายบุคคลหรือรายกลุ่ม ได้ดูเรื่องข้อกฎหมายแล้วหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า จริงๆ อย่างที่บอกว่าแต่ละพรรคการเมืองมีข้อบังคับ หากสมาชิกพรรคไม่ได้ทำตามมติพรรค อาจจะมีการพูดคุยในที่ประชุมพรรคกันเอง มีการขับออก หรือไม่มีการขับออกก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่การที่จะมีความเห็นทางการเมืองไปในทางใด ก็เป็นเอกสิทธิ์ของสส.แต่ละคน 

เมื่อถามว่า จะเป็นการส่งเสริมให้เกิดรัฐบาลงูเห่าหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ไม่ใช่เป็นงูเห่า เพราะเราบอกว่าใครที่พร้อม มีความคิดเห็นตรงกัน มีแนวคิดทางการเมืองตรงกันก็ทำงานร่วมกัน ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการที่เรามองว่าการบริหารจัดการประเทศในตอนนี้ เป็นไปในแนวทางเดียวกัน

เมื่อถามว่าในอนาคตจะยุ่งยากหรือไม่ เพราะในพรรคการเมืองก็ไม่เป็นเอกภาพ นายสรวงศ์ กล่าวว่า นั่นเป็นในส่วนของพรรคการเมือง เราไม่ก้าวล่วงจริงๆ เพราะแต่ละพรรคมีข้อบังคับที่แตกต่างกัน จริยธรรมที่แตกต่างกัน เช่น พรรคเพื่อไทย มีคณะทำงานเกี่ยวกับประมวลจริยธรรมของสส. แต่ละคนอยู่แล้ว หากใครทำผิดก็เอาเข้าที่ประชุม และถ้ามีมติขับออก ก็ต้องขับ หากมีมติไม่ให้ขับออกก็อยู่ และย้ำว่าไม่ก้าวล่วงแต่ละพรรคจริงๆ 

เมื่อถามว่า กระแสข่าวของร.อ.ธรรมนัส จะเสนอชื่อนายอัครา พรหมเผ่า เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แต่นายอัคราเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ทางพรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อตามนั้นหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ต้องมีการพูดคุยกัน และการแต่งตั้งรัฐมนตรีเป็นอำนาจของนายกฯ เมื่อถามย้ำว่า ในส่วนของพรรคเพื่อไทยวันนี้จะสะเด็ดน้ำเลยใช่หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ไม่น่าจะมีอะไร เพราะเท่าที่คุยกับนายกฯ ก็ไม่น่ามีอะไร 

เมื่อถามว่า รัฐบาลเดิมมี 314 เสียง จะหามาเติมเท่าไหร่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า เอาจากวันที่โหวตนายกฯ ซึ่งมี 319 เสียง ซึ่งหากเรายังอยู่ครบก็ดี หรือจะเพิ่มเข้ามาก็ยิ่งดี ประมาณนี้ไม่ต่ำกว่า 300 เสียง 

 เมื่อถามย้ำว่าจะเป็น 319 เสียง ใช่หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า น่าจะมากกว่า หรือได้เท่าเดิมก็มีความสุขแล้วครับ

เมื่อถามว่า หากเป็นกลุ่มจะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะสามารถคุมเสถียรภาพให้มีความเข้มแข็งได้ นายสรวงศ์ กล่าวว่า อย่างที่บอกว่าต้องมีการพูดคุยกันตั้งแต่แรก ในเรื่องของแนวทางการทำงาน หากแนวทางการทำงานไปในแนวทางเดียวกันได้ เราก็ยึดถือคำมั่นสัญญา ไม่ได้มีข้อกฎหมายอะไรที่จะไปบังคับพรรคแต่ละพรรค

รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า สำหรับการประชุมสส.พรรคเพื่อไทยในวันนี้ ได้เปิดให้สส.แสดงความเห็นต่อกรณีการเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคพลังประชารัฐ โดยสส.หลายคนได้แสดงความเห็นว่า ที่ผ่านมาพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มีพฤติกรรมในหลายกรณีที่สร้างความไม่พอใจให้กับพรรคเพื่อไทย เช่น การไม่มาโหวตให้กับนายเศรษฐา ทวีสิน ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกฯ กรณีการไม่มาโหวต น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกฯ รวมถึงกรณีอาจจอยู่เบื้องหลังกลุ่มสว. ที่ไปยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสถานการณ์เป็นนายกฯของนายเศรษฐา กรณีการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี แบบนี้เอาไว้ไม่ได้ เหมือนแทงข้างหลังการตลอดเวลา 

หากร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐต่อไป จะอยู่ด้วยความหวาดระแวง จึงเสนอไม่ให้ดึงพรรคพลังประชารัฐมาร่วมรัฐบาล ส่วนกรณีกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่จะให้สส.ในกลุ่มมาเป็นรัฐมนตรี เรื่องนี้ก็ไม่มีปัญหา ตรวจสอบในข้อกฎหมายกับกกต.แล้ว สามารถทำได้ โดยไม่จำเป็นที่กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยต้องพิจารณารับรองแต่อย่างใด 

ส่วนการดึงพรรคประชาธิปัตย์มาร่วมรัฐบาลด้วยนั้น เขาได้มีการส่งชื่อตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว เปรียบเหมือนการเทียบเชิญแล้ว แต่หลังจากนี้ต้องให้พรรคประชาธิปัตย์ ไปประชุมกรรมการบริหารพรรค เพื่อให้ได้ข้อยุติภายในพรรคของตนเอง  

ทั้งนี้ ภายหลังสส.ได้แสดงความเห็นอย่างกว้างขวางแล้ว นางสาวแพทองธาร ได้พูดกับที่ประชุมว่า จะทำให้ดีที่สุด และรอมชอมที่สุด