posttoday

ชูศักดิ์ สงสัย มีเบื้องหลังร้องศาล เอาผิดทักษิณ ภูมิธรรม ไม่เชื่อลามยุบพรรค

11 ตุลาคม 2567

ชูศักดิ์ ข้องใจมีเบื้องหลัง ธีรยุทธ ร้องศาลรัฐธรรมนูญ เล่นงาน ทักษิณ เพื่อไทย แจงข้อกล่าวหาไกลเกินเหตุ เผย หากศาลรับคำร้อง ก็ต้องไปชี้แจง ภูมิธรรม อ่าน6 ข้อกล่าวหา มั่นใจ 1000 เปอร์เซ็นต์ ไม่ลาม ยุบพรรค หัวเราะโดนถามปม ทักษิณ ครอบงำพรรค ย้ำ ไม่มีแผนเปลี่ยนตัว นายกรัฐมนตรี

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชูศักดิ์​ ศิริ​นิล​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทย​ กล่าวถึงกรณี นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความอิสระ ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ให้สั่งนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพรรคเพื่อไทย เลิกกระทำการล้มล้างการปกครอง เซาะกร่อน บ่อนทำลายสถาบันว่า การยื่นคำร้องตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49​ เป็นคำที่บัญญัติขึ้นเทียบความผิดประเภทนี้เท่ากับกบฎ​ เป็นการร้องขอเพื่อให้เลิกกระทำ ดูจากคำร้อง 6 ข้อ มองว่าไกลกว่าเหตุ ที่จะเป็นการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มี2คำซ้อนกันอยู่ คือ ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย บวกด้วยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ในคำร้องมีความพยายามบรรยายให้เข้าเกณฑ์กับคำวินิจฉัยของพรรคก้าวไกลว่า เป็นการเซาะบ่อนทำลาย ไกลกว่าเหตุมาก

การที่นายทักษิณ พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ บอกว่าเป็นการเซาะกร่อนบ่อนทำลาย เป็นการบรรยายเกินไป พรรคเพื่อไทย ไม่มีเรื่องจะไปเซาะกร่อนบ่อนทำลาย ระบอบประชาธิปไตย ส่วนคำร้องที่มีอ้างว่า ร่วมมือกับฝ่ายค้านในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ อยากจะตั้งคำถามว่า ในการร่วมมือกันในการทำกฎหมายผิดอะไร การแก้ประเด็นจริยธรรมเพื่อให้มีความชัดเจนขึ้น ไม่ใช่การยกเลิก เป็นการตีความให้ชัดเจน เป็นผลดีกับประชาธิปไตย 
 

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยไม่กังวลต่อคำร้อง นายชูศักดิ์กล่าวว่า ไม่น่าวิตกกังวลอะไร เรายึดมั่นมาแบบนี้ตลอด ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่เคยห่างไปจากนี้

นายชูศักดิ์ กล่าวอีกว่า ต้องรอดูว่าศาลรัฐธรรมนูญจะรับคำร้องหรือไม่ หากศาลรับคำร้อง คงจะเรียกไปชี้แจง ก็ยินดี สำหรับประเด็นเรื่องครอบงำตัวอย่างชัดเจนที่สุด เมื่อวันที่นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากนายกรัฐมนตรี ในคำร้องบอกว่า มีการไปประชุมกัน ท้ายที่สุดบอกว่าจะเอาคนนี้ แต่ในวันประชุมพรรคเพื่อไทยเลือก นางสาวแพทองธาร แสดงให้เห็นว่า เราเป็นตัวของตัวเอง มีอำนาจ มีวิจารณญาณในการตัดสินใจ
 

ถามว่า การยื่นคำร้องดังกล่าวมีนัยอะไรหรือไม่ เนื่องจากก่อนหน้า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ออกมาระบุ จะเป็นจุดเริ่มต้นของจุดจบพรรคเพื่อไทย นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ไม่อยากคิดไปไกล ตอนนี้ต้องคิดเพียงว่า หากศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง ก็ชี้แจงไป

ถามอีกว่ามีเบื้องหลังหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า เบื้องหลังอยู่ที่ความขัดแย้ง ข้อหนึ่งในคำร้องระบุว่า นายทักษิณอยู่เบื้องหลังในการเอาพรรคพลังประชารัฐ ออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล มันก็เป็นการเมืองมีเบื้องหลังอยู่แล้ว

ถามว่า แสดงให้เห็นว่า พรรคการเมืองที่อยู่ในคำร้องเป็นผู้อยู่หรือเบื้องหลังใช่ นายชูศักดิ์กล่าวเพียงว่า ให้ดูในคำร้อง หากดูจากคำร้องก็จะเห็น เขาก็บอกอยู่ในคำร้อง

ที่กระทรวงกลาโหม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นร้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีพฤติกรรมเป็นผู้ครอบครองครอบงำพรรคเพื่อไทย และมีพฤติการณ์ เซาะกร่อนบ่อนทำลายการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขว่า ถือเป็นสิทธิ์ของผู้ร้องเรียน ศาลก็พิจารณาและพิพากษา มีเรื่องที่ตัดสินแล้วถูกและยกฟ้องไปก็เยอะ อย่าเพิ่งไปเข้าใจว่ามันจะเป็นอะไร รอให้ผลที่แท้จริงออกมาก่อน  

เมื่อถามว่า จะเป็นหัวเชื้อนำไปสู่การยุบพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่กังวลเลย 1000% จาก 6 ข้อร้องเรียน ไม่หนักใจ ร้องตามกระบวนการก็ร้องไป หากศาลรับฟ้อง เรียกพรรคเพื่อไทยไปชี้แจงก็เท่านั้น แต่ตอนนี้ศาลยังไม่รับฟ้อง อย่าเพิ่งคิดไปเร็ว

นายภูมิธรรมกล่าวถึงข้อพิพาท พื้นที่ทับซ้อน เกาะกูด กับกัมพูชา ที่ถูกหยิบยกเป็นข้อร้องเรียนเรื่องของการครอบงำ โดยนายทักษิณ เรื่องของพื้นที่ทับซ้อน พูดกันมายาวนาน ยังไม่มีจุดจบบทสรุป ขอให้เป็นเรื่องจริงขึ้นมา แล้วค่อยคุยกันเรื่องบทสรุป ที่ชัดเจนอีกทีจะดีกว่า ไม่ชอบเรื่องการคาดเดา เพราะการคาดเดาจะร้ายที่สุดก็ได้ ทั้งที่ความเป็นจริงอาจจะไม่มีเลย มันเสียสุขภาพใจ ขอให้นำความจริงที่ปรากฏชัดเจนแล้วมาดูว่า มาตรฐานจัดการเรื่องนี้อยู่ตรงไหน พรรคเพื่อไทย พร้อมตอบทุกคำถาม ความเป็นจริงให้เห็นปรากฏ และเป็นคำถามที่นอกเหนือกระบวนการยุติธรรม 

เมื่อถามย้ำว่านายทักษิณครอบงำพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายภูมิธรรม หัวเราะพร้อมระบุว่า “ผมไม่ต้องตอบเลย เชื่อว่าท่านรู้ดีอยู่แล้ว” ก่อนจะเสร็จสิ้นการให้สัมภาษณ์ 

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยมีแผนรองรับกรณีต้องเปลี่ยนตัวนายกฯ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ท่านมาได้แค่เดือนเดียวจะให้เปลี่ยนตัวแล้ว โหดร้ายไปหรือไม่ นายกฯ ทำงานได้เพียงเดือนเดียว นายกฯและรัฐบาล ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีใครคิดที่จะไปยกเลิก เปลี่ยนตัวนายกฯ จะไปเอานายกฯ มาตรา 7 หรือ มาตรา5 ไม่มีหรอก นายอนุทิน นายเนวิน จะไปคุยอะไรกับนายทักษิณ ต้องไปถามนายเนวินกับนายอนุทิน