นักวิชาการ ชี้ ฝ่ายค้าน ซักฟอกหวังผล ปลุกไม่ไว้วางใจระยะยาว

รศ.ดร.อรรถสิทธิ์ พานแก้ว อาจารย์ประจำสาขาวิชาการเมืองการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) วิเคราะห์การอภิปรายไม่ไว้วางใจที่กำลังจะเกิดขึ้น

 

โดยชี้ว่าฝ่ายค้านทราบดีว่าไม่สามารถล้มรัฐบาลได้ในทันที แต่หวังผลระยะยาวในการ "ปลูกต้นไม้แห่งความไม่ไว้วางใจ" ในใจประชาชน เพื่อใช้เป็นฐานในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

 

การที่ฝ่ายค้านล็อกเป้าอภิปราย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว ถือเป็นทั้งวิกฤตและโอกาสสำคัญ รศ.ดร.อรรถสิทธิ์มองว่า นี่คือเวทีที่ น.ส.แพทองธาร จะได้แสดงความสามารถและศักยภาพ หากตอบคำถามได้ดี ก็จะลบคำปรามาสเรื่องภาวะผู้นำได้ แต่หากทำได้ไม่ดี ก็จะเป็นไปในทางตรงกันข้าม

 

อีกหนึ่งความน่าสนใจคือการกลับมามีบทบาทในสภาของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งจะร่วมอภิปรายด้วย ต้องจับตาดูว่า พล.อ.ประวิตร จะช่วยปลุกกระแสให้กับพรรคพลังประชารัฐที่ดูเหมือนจะจางหายไปหรือไม่

 

รศ.ดร.อรรถสิทธิ์ ได้วิจารณ์การกำหนดเวลาอภิปรายที่ยาวนานตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึงตี 5 ครึ่ง โดยมองว่าเป็นการจัดสรรเวลาที่ไม่เหมาะสม ไม่คำนึงถึงประชาชนที่ติดตามการถ่ายทอดสดแบบเรียลไทม์

หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับ ครม. ซึ่งเป็นสไตล์การทำงานของพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว ที่น่าสนใจคือจะปรับแบบไหน หากมีการสับเปลี่ยนโควตาของพรรค อาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ในพรรคร่วมรัฐบาล

 

พรรคก้าวไกลประกาศว่ามีหลักฐานมัดตัวรัฐบาลดิ้นไม่หลุด และจะดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป สิ่งนี้อาจเป็นจุดแตกหักระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล

 

รศ.ดร.อรรถสิทธิ์เน้นย้ำถึงความสำคัญของไหวพริบปฏิภาณและการตอบโต้ที่รวดเร็วทันควันของนักการเมืองในการอภิปราย โดยทั้งหมดต้องอยู่บนฐานข้อมูลและข้อเท็จจริง

 

การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นการ "สอบย่อย" ที่ประชาชนจะเป็นผู้ให้คะแนน เนื้อหาข้อมูลที่นำเสนอจะถูกนำไปใช้ในการตัดสินใจเลือกตั้งครั้งต่อไป

 

"การอภิปรายไม่ไว้วางใจในปัจจุบันก็เหมือนการสอบย่อยโดยมีประชาชนเป็นผู้ให้คะแนน เนื้อหาข้อมูลที่ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลนำเสนอจะถูกนำไปประกอบการตัดสินใจในการเลือกตั้งใหญ่ในครั้งต่อไป"

 

รศ.ดร.อรรถสิทธิ์  กล่าวว่า "การเมืองไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร หากพรรคประชาชนพ่ายแพ้ ไม่ได้เป็นพรรคอันดับหนึ่ง หรือชนะ แต่ไม่ขาด ก็จำเป็นต้องหาพรรคร่วม เมื่อถึงวันนั้นอะไรก็ย่อมเกิดขึ้นได้ เราจึงไม่สามารถพูดได้ว่า เพราะเหตุการณ์วันนี้ จะทำให้ทั้ง 2 พรรค ไม่สามารถจับมือกันได้อีกเลย"