"ชัยชนะ"ประธานกมธ.ตำรวจเชื่อมีเจ้าหน้าที่เปิดทางนำเรือน้ำมันออกไป
ชัยชนะ เดชเดโช ประธานกมธ.ตำรวจ ติดตามเรือน้ำมันของกลางหาย เผยรู้ตัวคนนำเรือออกไปแล้วเชื่อมีเจ้าหน้าที่เปิดทางหากพบกระบวนการไม่ชอบมาพากลพาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ นำเข้ากมธ.เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงทันที
เมื่อวันที่ 14มิ.ย.67 นายชัยชนะ เดชเดโช สส. นครศรีธรรมราชพรรคประชาธิปัตย์ ประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณี เรือบรรทุกน้ำมันของกลางขนาดใหญ่จำนวน 3 ลำ หายไป ว่า เราติดตามเรื่องนี้ตั้งแต่วันที่เกิดเรื่อง และล่าสุด ตนได้ติดต่อไปสอบถาม พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ผู้ที่ได้รับมอบหมายลงไปดำเนินการเรื่องนี้ ทราบว่าเรือโดนเคลื่อนย้ายไปตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน เวลา 20.00 น. และวิ่งไปทางเกาะกูดและไปโผล่ที่นั่น วันที่ 12 มิถุนายน เวลา 8.00 น. โดยมีคน 10 คน นำเรือ 3 ลำออกไป ซึ่งทราบแล้วว่ามีใครบ้าง อยู่ในขั้นตอนดำเนินการออกหมายจับอยู่
ส่วนการดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องจำนวน 4 นาย คือผู้กำกับและสารวัตร และคนที่เฝ้าเรือ 2 นาย ก็มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนของตำรวจน้ำแล้ว และในอีกทางหนึ่งกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ก็ได้มีการสืบสวนและแจ้งข้อหา ม.157 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบกับตำรวจทั้ง 4 นาย และทราบว่า เรื่องนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับเจ้าของเรือ ที่ถูกดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้ด้วย นั้นก็คือ "เสี่ย จ."
"ขณะนี้เห็นแล้วว่าบุคคล ที่ขับเรือไป 10 กว่าคนมีใครบ้าง กำลังขอหมายจับ ส่วนเจ้าหน้าที่จะเกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้อง กำลังสืบสวนหาข้อเท็จจริงอยู่ แต่เบื้องต้น ก็แจ้งข้อหา 157 ประมาทเลินเล่อ ว่าทำไมเรือจอดอยู่ ถึงปล่อยให้ขโมยไปได้"
นายชัยชนะ ยังกล่าวต่อได้ว่าเรื่องนี้ตนคิดว่ามันน่าจะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย เพราะถ้าไม่มีการเปิดทางให้ก็คงออกไปไม่ได้ เพราะเรือมันจะเคลื่อนย้ายแบบรถยนต์รถมอเตอร์ไซค์ไม่ได้ ต้องใช้เวลาในการขับ แต่ก็ต้องชื่นชมกองบัญชาการสอบส่วนกลาง ที่ลงไปตรวจสอบเรื่องนี้ ได้ข้อเท็จจริงมามากพอสมควร และก็ถือว่าทำงานได้อย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้คณะกรรมาธิการตำรวจ จะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด หากพบว่าดำเนินการถูกต้อง นำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษแล้ว ก็ถือว่าจบ แต่หากพบกระบวนการหรือความไม่ชอบมาพากล ก็จะนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมกรรมาธิการ เพื่อพิจารณาเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงต่อไป