นายกฯ แพทองธาร รับ โผครม. ยังไม่นิ่ง เร่งเคลียร์คุณสมบัติถือหุ้นบริษัท

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าอาคารชินวัตร 3 ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนกรณีพรรคพลังประชารัฐมีการส่งหนังสือมาทวงเอกสารกรอกคุณสมบัติให้พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยระบุว่า เป็นปัญหาภายในของเขา ซึ่งต้องไปดูให้เป็นไปตามกระบวนการ และในข้อเท็จจริงแล้วในครม.ไม่ว่าจะตำแหน่งใดก็ตาม ก็เป็นการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ขอให้รอสักหน่อย

เมื่อถามย้ำว่า ขั้นตอนเมื่อสะเด็ดน้ำแล้ว นายกรัฐมนตรีจะเป็นคนตัดสินใจเองทั้งหมดใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวยอมรับว่า “ใช่ค่ะ และในขณะนี้จะต้องตรวจคุณสมบัติหลายพรรค หลายขั้นตอน และเห็นว่าหลายอันยังติดนั่นติดนี่อยู่ ซึ่งมีหลายขั้นตอน และยอมรับว่าตนเองก็ไม่เคยทำมาก่อน”

ในส่วนของข่าวที่ระบุว่าพรรคเพื่อไทยที่มีการส่งรายชื่อบุคคลที่จะเป็นรัฐมนตรีเกินโควตา นายกรัฐมนตรียอมรับว่า มีการส่งรายชื่อเกินจำนวนไปก่อนจริง เพื่อตรวจคุณสมบัติ

เมื่อคุณสมบัติผ่านแล้ว จะมีการให้คำปรึกษาของคนที่อยู่ในครม.อยู่แล้ว หรือคนที่ทำงานด้วยกันอยู่แล้วในพรรค ก็จะมีการปรึกษากัน แต่สุดท้ายตนจะเป็นคนตัดสินใจเอง

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่กับปัญหาภายในของพรรคที่จะมาร่วมรัฐบาล อาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลในวันข้างหน้าหากมาแบบครึ่งๆมาไม่เต็ม นายกฯ จะพิจารณาอย่างไร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า อันนี้จริง ๆ ต้องให้แต่ละพรรคจัดการปัญหาเอง ถ้าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับพรรคเพื่อไทย ทางพรรคเพื่อไทยก็ต้องจัดการปัญหาเอง เพื่อจะต้องสร้างความมั่นคงต่อไปให้ได้ และเป็นรัฐบาลที่มั่นคงให้ได้  

เมื่อถามว่า หากจะเข้ามาร่วมรัฐบาลจะต้องมาทั้งพรรคเลยใช่หรือไม่ เพราะเวลาโหวตในสภาจะได้ไม่มีปัญหา นางสาวแพทองธารกล่าวว่า รอให้ไฟนอลอีกนิดนึง ตอบตอนนี้มันเร็วเกินไป เดี๋ยวไปตอบแทนเขา

ส่วนความชัดเจนในการลาออกจากกรรมการบริษัท ในเครือชินวัตรจำนวน 21 บริษัท นายกรัฐมนตรีระบุว่า ไม่แน่ใจว่าลาออกไปกี่บริษัท แต่ยืนยันว่าอะไรที่ทำแล้ว และขัดต่อกฎหมายก็ต้องดำเนินการให้หมด ซึ่งขณะนี้ทีมกฎหมายกำลังช่วยกันดำเนินการ แต่จะกี่บริษัทนั้น ไม่แน่ใจ ขอดูกฎหมายเป็นหลัก

สำหรับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ก่อนหน้านี้มีข้อมูลว่าเป็นกรรมการบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศไทย จำนวน 23 บริษัท ในจำนวนนี้เลิกดำเนินการ 2 บริษัท ยังเปิดดำเนินการ 21 แห่ง มูลค่าการถือหุ้นเกือบหมื่นล้านบาท รวมทั้งมีพอร์ตลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยโดยมีการถือหุ้น 2บริษัทในตลาดหลักทรัพย์มูลค่ารวม 3,081 ล้านบาท