ปลานับล้านตายเกลื่อนหาดทุ่งวัวแล่นชุมพร ชี้เป็นเหตุการณ์ปกติช่วงฤดูฝน

โดยภาพที่ปลาจำนวนมากที่ถูกคลื่นซัดขึ้นมาเต็มชายหาดทุ่งวัวแล่น ตลอดความยาวประมาณ 3-4 กิโลเมตร   ชาวบ้านระบุว่าส่วนใหญ่เป็นปลาแป้น แต่ก็มีสัตว์ทะเลอื่นๆทั้งปูและปลาขนาดใหญ่ที่สามารถนำไปประกอบอาหารได้ แต่ด้วยจำนวนปลาตัวเล็กที่มีจำนวนมากทำให้ชาวบ้านเก็บไปไม่หมด แม้ชาวบ้านบางรายได้ช่วยกันเก็บเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ให้สัตว์เลี้ยงและทำปุ๋ยหมักก็ตาม 

แม้เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง แต่เนื่องจากครั้งนี้จำนวนปลาตายมากกว่าทุกครั้ง ทำให้ชาวบ้านได้มีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาตรวจสอบเพิ่มเติม รวมถึงให้หน่วยงานท้องถิ่นช่วยเข้ามาเก็บซากปลาที่ตายเกลื่อนหาดไปกำจัดอย่างถูกวิธีเพื่อไม่ให้ปลาเน่าส่งกลิ่นเหม็นบนชายหาดต่อไป

เจ้าหน้าที่สำนักงานประมงจังหวัดชุมพร ซึ่งได้เดินทางไปตรวจสอบและยืนยันว่าเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดจากภาวะน้ำจืดจากแหล่งน้ำธรรมชาติไหลมาผสมกับน้ำเค็ม เกิดแพลงก์ตอนสีเขียวที่เรียกว่า “แพลงก์ตอนบลูม” ส่งผลให้ปริมาณออกซิเจนในน้ำทะเลลดลงทำให้ปลาที่หากินอยู่ตามชายฝั่งขาดอากาศหายใจและตายในที่สุด

ขณะที่ ดร.ธรณ์ ธำรงค์นาวาสวัสดิ์ นักวิทยาศาสตร์ทางทะเลชื่อดัง ได้โพสต์เฟสบุ๊ค อธิบายปรากฏการณ์นี้ว่า 

“เป็นปรากฏการณ์ปรกติ คนแถวนั้นเรียก “น้ำแดง” (ชื่อเฉพาะ) มักเกิดตอนต้นฤดูฝน เมื่อน้ำจืดลงทะเลเป็นจำนวนมาก พาธาตุอาหารลงทะเล สิ่งแวดล้อมเปลี่ยนรวดร็ว เกิดแพลงก์ตอนบลูม สัปดาห์ก่อนคณะประมงไปสำรวจทะเลชุมพร/เรือปราบพอดี จึงมีภาพและข้อมูลมาให้ดู

ภาพแรกคือหาดทุ่งวัวแล่น น้ำตื้น เห็นน้ำสีเขียว เกิดปรากฏการณ์แพลงก์ตอนบลูม ทำให้ปลาขาดออกซิเจนพร้อมกันจำนวนมาก น้ำตื้นและร้อน ปลาหน้าพื้นทะเลบางส่วนจึงตาย ก่อนโดนพัดขึ้นมาบนหาด

ภาพสองเป็นที่ห่างฝั่ง บริเวณเรือปราบ  น้ำแบ่งเป็น 2 ชั้น น้ำใสอยู่ด้านบน แต่เรือปราบลึก 24 เมตร ปลาจึงพออยู่ได้ แม้อาจมีปลาน้อยกว่าปรกติเนื่องจากน้ำร้อน ฯลฯ

กลับมาที่ทุ่งวัวแล่น ตามข่าวบอกว่า ปีนี้ปลาตายเยอะกว่าปีก่อนๆ เกี่ยวกับโลกร้อนไหม ? คำตอบคืออาจเกี่ยวบ้าง เช่น น้ำร้อนทำให้ปลาตายง่ายขึ้น ฝนตกเยอะน้ำจืดลงทะเลเยอะ ฯลฯ แต่ผลกระทบจากโลกร้อนต้องศึกษาให้ถี่ถ้วน ด้วยข้อมูลตอนนี้ คงบอกว่าเมื่อโลกร้อนขึ้น “อาจ” ส่งผลกระทบต่อแพลงก์ตอนบลูมและปลาตาย

ไม่เหมือนปะการังฟอกขาวที่เห็นชัดกว่าและอธิบายได้ตรงกว่า ไม่ควรเก็บปลามากิน แม้ไม่มีพิษ แต่ถ้าตายมานาน ไม่สด อาจติดเชื้อผลกระทบโลกร้อนต่อทะเลเป็นเรื่องละเอียดอ่อน โดยเฉพาะการเร่งปรากฏการณ์เดิมให้แรงขึ้น เช่น ปะการังฟอกขาว แพลงก์ตอนบลูม ภัยพิบัติเริ่มมองเห็นชัดขึ้นเรื่อยๆ แล้ว”