posttoday

Klook เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยให้ผู้รักการท่องเที่ยวใกล้ชิดมากขึ้นกับวันหยุดในฝัน

04 มิถุนายน 2562

31 พฤษภาคม 2562 – กรุงเทพฯ ประเทศไทย บริษัท Klook Travel Technology (หรือ ‘Klook’) แพลตฟอร์มการจองกิจกรรมและบริการด้านการท่องเที่ยวชั้นนำของโลก จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวแบรนด์และเปิดงานมหกรรม Klook Fest 2019

31 พฤษภาคม 2562 – กรุงเทพฯ ประเทศไทย บริษัท Klook Travel Technology (หรือ ‘Klook’) แพลตฟอร์มการจองกิจกรรมและบริการด้านการท่องเที่ยวชั้นนำของโลก จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวแบรนด์และเปิดงานมหกรรม Klook Fest 2019

Klook ย่อมาจากคำว่า “Keep Looking” ซึ่งมีความหมายว่า “การค้นหาที่ไม่หยุดนิ่ง” บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นที่จะช่วยเติมเต็มประสบการณ์ความสะดวกในการเดินทางผ่านการจองกิจกรรมและบริการท่องเที่ยวที่สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว บนอุปกรณ์มือถือ โดย Klook ได้นำเสนอวิธีการใหม่ในการค้นหาและจองกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว โปรแกรมทัวร์ ตั๋วเดินทาง ประสบการณ์ท่องเที่ยวเชิงอาหารที่ดีที่สุด ตลอดจนประสบการณ์ใหม่อื่นๆ ที่ไม่ซ้ำใครจากทั่วโลก ที่สามารถค้นเจอได้บนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันที่ได้รับรางวัลอย่าง Klook   

งานมหกรรม Klook Fest 2019 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม ถึงวันที่ 2 มิถุนายน 2562 ภายใต้สโลแกน “Klook ก่อนเที่ยว คุ้มทุกทริป” ที่ลานแฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยแขกที่มาเยี่ยมชมงานจะได้สัมผัสกับ การใช้งานแอปพลิเคชันด้วยตัวเอง และรับสิทธิพิเศษในงาน อาทิ แพคเกจ ซื้อหนึ่งแถมหนึ่งฟรี ทั้งนี้ งาน Klook Fest 2019 ได้จัดขึ้นเพื่อถ่ายทอดประสบการณ์การใช้งานแพลตฟอร์ม และส่งมอบดีลสุดคุ้มเพื่อรองรับผู้ใช้ Klook ทุกท่าน

ในงานเปิดตัวแบรนด์วันแรก มาร์คัส ยง ผู้จัดการฝ่ายการตลาดประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ Klook ขึ้นกล่าวต้อนรับพร้อมเล่าถึงวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ ตลอดจนการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย

Klook เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยให้ผู้รักการท่องเที่ยวใกล้ชิดมากขึ้นกับวันหยุดในฝัน

นาย ยง กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นกับการเปิดตัวแบรนด์อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นภูมิภาคที่สำคัญสำหรับเรา และประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วและมีพลวัตมากที่สุดในด้านการท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ นักท่องเที่ยวชาวไทยที่ท่องเที่ยวด้วยตัวเองในยุคนี้ หรือ Modern Free and Independent Travellers (FIT) มีความต้องการที่จะได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ และแสวงหาความตื่นเต้น ซึ่งความสอดคล้องกันกับจากการจองตั๋วรถไฟและบัตรเข้าสวนสนุกที่มีการเติบโตสูงในปีที่ผ่านมา”

ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทย มีการใช้งานอุปกรณ์มือถือในระดับที่สูงมาก อ้างอิงจากรายงานระดับโลก Global Digital Report 2019 พบว่าบทบาทการใช้งานอุปกรณ์มือถือในประเทศไทย จัดอยู่ที่อันดับสามของโลก หรือเท่ากับ 71% ซึ่งสูงกว่าทั่วโลกที่มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 55% ทั้งนี้ ความเชื่อมโยงของกลยุทธ์การใช้งานผ่านมือถือเป็นหลัก (mobile-first strategy) ที่ประสบผลสำเร็จของ Klook และพฤติกรรมของผู้ใช้ชาวไทยนับว่าสอดคล้องกัน เห็นได้จากการที่ Klook มียอดจองกว่า 80% บนแพลตฟอร์มมือถือโดยยอดการจองในวันเดียวกันยังเพิ่มขึ้นถึง 9 เท่าในปีที่แล้ว

“สำหรับตลาดในประเทศไทย เป้าหมายของเรา คือการทำให้นักเดินทางกลุ่ม FIT เข้าใกล้จุดหมายปลายทางในฝันของพวกเขาไปอีกขั้น เราได้เห็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ที่คุ้นเคยกับเทคโนโลยีและการใช้งานอุปกรณ์มือถือในการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียและในที่อื่นๆ  เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพวกเขาจะสนุกไปกับกิจกรรมที่เราได้จัดขึ้นที่งานมหกรรม Klook Fest 2019 และได้มีโอกาสทำความรู้จักกับแบรนด์ของเรามากขึ้น นอกจากนี้ ภายในงาน กลุ่ม FIT ยังสามารถรอพบกับข้อเสนอที่คุ้มค่าและแคมเปญที่น่าสนใจจาก Klook ที่เตรียมไว้สำหรับพวกเขา” 

แขกที่ให้เกียรติร่วมในงานวันเปิดตัว 2 ท่าน ได้แก่ คู่รักชื่อดังผู้หลงใหลในการท่องเที่ยว คุณแพทตี้ อังศุมาลิน และคุณแดน วรเวช ได้ร่วมแชร์ประสบการณ์การเดินทางด้วยการใช้งานแพลตฟอร์มของ Klook และดำเนินกิจกรรมบนเวที

Klook ยังคงสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยได้ร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยภายใต้โครงการ “บินพักหลักร้อยหลักพัน ลุ้นรางวัลหลักล้าน” เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศทั้งในเมืองหลักและเมืองรองในฤดูฝนนี้

Klook เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยให้ผู้รักการท่องเที่ยวใกล้ชิดมากขึ้นกับวันหยุดในฝัน

บริษัท Klook ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2557 ที่ประเทศฮ่องกง และขยายธุรกิจไปยังทั่วโลก และประสบความสำเร็จด้วยกลยุทธ์การใช้งานผ่านมือถือเป็นหลัก (mobile-first strategy) ในปี 2561 การจองทริปผ่านอุปกรณ์มือถือมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึงสามเท่า และมีสัดส่วนถึง 75% ของการจองทั้งหมดทั่วโลก การเติบโตอย่างรวดเร็วและสถานะในเชิงบวก สะท้อนให้เห็นผ่านการเพิ่มการระดมทุนในระดับ Series D + ซึ่งเพิ่มขนาดทุนให้แก่บริษัทเป็นมูลค่า 425 ล้านดอลลาร์สหรัฐ