posttoday

2 ผู้บริหาร “ฟรีสแลนด์คัมพิน่า” ผู้ผลิตนมยักษ์ใหญ่ เยือนไทย

05 มิถุนายน 2567

ถอดแนวคิด 2 ผู้บริหาร “ฟรีสแลนด์คัมพิน่า” ผู้ผลิตนมยักษ์ใหญ่ เยือนไทยกับการพัฒนาองค์กรควบคู่ผลิตภัณฑ์ พร้อมใส่ใจสังคมอย่างยั่งยืน ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมนมพร้อมดื่มมาตรฐานระดับโลก

  เปิดวิสัยทัศน์เดบิค นายยอน เดิรค์ แวน คาเนอบีค (Mr. Jan Derck van Karnebeek) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ นางสาวคอรีน แทป (Ms. Corine Tap) ประธานกลุ่มธุรกิจประจำภูมิภาคเอเชีย ผู้บริหาร ฟรีสแลนด์คัมพิน่า ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากนมโคคุณภาพหลากหลายแบรนด์ ได้แก่ โฟร์โมสต์ นกเหยี่ยวฟอลคอน ด้านแนวคิดการบริหารองค์กรและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด รวมถึงการยึดมั่นสานต่อพันธกิจด้านการพัฒนาสังคมยั่งยืน โดยมีหัวใจหลักที่การส่งมอบโภชนาการที่ดีผ่านผลิตภัณฑ์นมคุณภาพให้กับเด็กทั่วโลก

       นายยอน เดิรค์ แวน คาเนอบีค เผยว่า “ผู้บริโภคในปัจจุบันให้ความสำคัญและผลักดันให้ผู้ผลิตนมมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น พวกเขาได้เรียกร้องให้ผู้ผลิตพัฒนาวิธีการผลิตที่ยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็น กระบวนการจัดการขยะ การใช้น้ำ และบรรจุภัณฑ์ นอกจากนี้ฟรีสแลนด์คัมพิน่ายังเป็นหนึ่งในผู้ผลิตที่ใส่ใจการเพิ่มคุณประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ให้เป็นมากกว่าสารอาหารพื้นฐาน โดยมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ อาทิ นมไขมันต่ำ โปรตีนเสริม พรีไบโอติก แร่ธาตุ และวิตามิน เราจริงจังกับความท้าทายนี้ และเชื่อว่าเราสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ เราจึงทำสิ่งเหล่านี้ในแบบฉบับของเราด้วยการทำให้ผลิตภัณฑ์ของเรามีคุณค่าทางโภชนาการและอร่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ และกล้าพูดได้ว่าไม่มีใครรู้เรื่องนมดีไปกว่าเรา ทั้งนี้เรายังพยายามอย่างเต็มที่ในการผลิตสินค้าควบคู่ไปกับการดูแลรักษาธรรมชาติและรับผิดชอบต่อการจัดการขยะของเราเอง เพื่อไม่ให้เป็นปัญหาของคนอื่นต่อไป”

2 ผู้บริหาร “ฟรีสแลนด์คัมพิน่า” ผู้ผลิตนมยักษ์ใหญ่ เยือนไทย

สำหรับการวางแผนด้านการบริหารในประเทศไทย นายยอน มองว่า “ขณะที่ประเทศไทยกำลังฟื้นตัวจากผลกระทบของโรคระบาด ตลาดของไทยกำลังเติบโตเป็นที่น่าพอใจ ผู้บริโภคมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นและกลับไปสู่รูปแบบการใช้ชีวิตที่ปกติ ล่าสุดเราได้เห็นการพัฒนาที่สำคัญ ซึ่งปูทางไปสู่ศักยภาพที่แข็งแรงของตลาดด้วยประชากรและรายได้ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ความต้องการผลิตภัณฑ์นมในประเทศไทยพุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้เรานำความก้าวหน้าในด้านเทคนิคการผลิต กลยุทธ์การจัดจำหน่าย และนวัตกรรมผลิตภัณฑ์มาใช้เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งนี้คาดการณ์ว่าศักยภาพของตลาดอุตสาหกรรมนมในประเทศไทยนั้นยังคงสดใสและสามารถเติบโตขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง”

2 ผู้บริหาร “ฟรีสแลนด์คัมพิน่า” ผู้ผลิตนมยักษ์ใหญ่ เยือนไทย

ด้าน นางสาวคอรีน แทป ประธานกลุ่มธุรกิจประจำภูมิภาคเอเชีย รอยัล ฟรีสแลนด์คัมพิน่า  กล่าวถึงการรับมือกับความท้าทายของอุตสาหกรรมนมในเอเชียและประเทศไทยในปัจจุบัน นางสาวคอรีน กล่าวว่า “แม้ว่าความมั่งคั่งในเอเชียจะเพิ่มมากขึ้น แต่ปัญหาภาวะทุพโภชนาการยังคงส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของเด็ก ๆ ทั่วทั้งภูมิภาค ทำให้เราต้องจัดการปัญหาเหล่านี้อย่างเร่งด่วน โดยการนำเสนอนมที่อุดมไปด้วยสารอาหารและรสชาติที่ดีภายใต้แบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจของเรา ในราคาไม่แพงและเข้าถึงได้ เพื่อให้ทุกคนสามารถเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพและเข้าถึงโภชนาการจากนมที่ดีได้มากที่สุด นอกจากนี้เรายังได้ปรับปรุงผลิตภัณฑ์เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการทางโภชนาการของผู้บริโภคในเอเชียอย่างตรงจุด โดยริเริ่มโครงการวิจัยโภชนาการขนาดใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เรียกว่า SEANUTS (Southeast Asian Nutrition Surveys) โครงการ SEANUTS II เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญเกี่ยวกับภูมิทัศน์ทางโภชนาการของเด็กอายุ 6 เดือนถึง 12 ปี ในประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย ไทย และเวียดนาม ซึ่งข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ถูกนำมาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์โภชนาการให้ตรงกับความต้องการของแต่ละท้องถิ่น (เช่น การเสริมแคลเซียมและวิตามินดี) และต่อยอดไปสู่ความร่วมมือกับรัฐบาลและสถาบันสุขภาพอีกด้วย”

        “อย่างไรก็ตาม การเข้าไปดูแล ช่วยเหลือเด็กและครอบครัวในเอเชียด้วยการมอบโภชนาการที่ดีผ่านผลิตภัณฑ์จากนมยังคงเป็นภาระกิจหลักที่เรายังคงสานต่อ โดยจะเห็นได้จากแคมเปญโฟร์โมสต์ส่งต่อรอยยิ้มให้เด็กไทย (Foremost One Million Smiles) ส่งมอบนม 1 ล้านกล่อง ให้กับเด็กและครอบครัวในกลุ่มเปราะบาง ซึ่งเป็นแคมเปญที่ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนจนประสบความสำเร็จ เราจึงมีแผนผลักดันและดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เราเล็งเห็นว่าอนาคตของประเทศไทยขึ้นอยู่กับความเป็นอยู่ที่ดีของคนรุ่นต่อไป ทำให้เรายังไม่หยุดนิ่งที่จะสานต่อวิสัยทัศน์และพันธกิจที่เป็นหัวใจหลักขององค์กร และหวังว่าจะทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์มากขึ้นเพื่อช่วยปลดล็อกศักยภาพของเด็กไทยอย่างเต็มที่” นางสาวคอรีน กล่าวปิดท้าย