posttoday

‘กรมการข้าว’ ยกระดับศูนย์ข้าวชุมชน กระจายเมล็ดพันธ์คุณภาพดีถึงชาวนา

25 กันยายน 2567

กรมการข้าวเร่งยกระดับศูนย์ข้าวชุมชนทั่วไทย ตั้งเป้าผลิตและกระจายเมล็ดพันธุ์คุณภาพดีถึงชาวนา เพื่อเพิ่มผลผลิตและความยั่งยืนในการเพาะปลูก พร้อมใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีการตัดต่อพันธุกรรมสมัยใหม่ มุ่งเป้าพัฒนาฐานพันธุกรรมข้าวที่แข็งแกร่ง สร้างอนาคตให้เกษตรกร

‘กรมการข้าว’ ยกระดับศูนย์ข้าวชุมชน กระจายเมล็ดพันธ์คุณภาพดีถึงชาวนา

     เกษตกรโดยเฉพาะชาวนาถือเป็น “กระดูกสันหลังของชาติ” ผู้อยู่เบื้องหลังการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศ การเพาะปลูกพืชนาเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีและมีคุณภาพจึงสำคัญ เพื่อให้มีปริมาณเพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศแล้วยังสามารถส่งออกเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจภาพรวม ดังนั้น ภาครัฐจึงต้องให้ความสำคัญในการช่วยพัฒนาพันธุ์ข้าวเพื่อผลักดันให้เกษตรกรชาวไทยได้มีผลผลิตที่ดียิ่งขึ้นอย่างยั่งยืน

‘กรมการข้าว’ ยกระดับศูนย์ข้าวชุมชน กระจายเมล็ดพันธ์คุณภาพดีถึงชาวนา

     นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่า ในขณะนี้กรมการข้าวได้จัดตั้งศูนย์ข้าวชุมชน รวม 4,745 แห่งแล้ว ใกล้เป้าหมายที่จะจัดตั้งให้ครบ 5,000 แห่ง หรือทุกตำบลทั่วประเทศ โดยศูนย์ข้าวชุมชนนี้ เปรียบเสมือนตัวแทนของกรมการข้าว และเป็นหัวใจสำคัญที่จะเป็นศูนย์กลางในการผลิตและกระจายเมล็ดพันธุ์คุณภาพดีให้สามารถส่งถึงมือชาวนาได้โดยตรง

     พร้อมเปลี่ยนวิถีการปลูกข้าวของชาวนาไทยแบบดั่งเดิม ที่ส่วนใหญ่ใช้วิธีการหว่านข้าว ใช้เมล็ดพันธุ์ซ้ำ ๆ จำนวนมาก เฉลี่ยกว่า 30 กิโลกรัมต่อไร่ ทำให้ต้นข้าวแน่นไม่แตกกอผลผลิตข้าวที่ได้ด้อยคุณภาพลงอย่างต่อเนื่อง 

‘กรมการข้าว’ ยกระดับศูนย์ข้าวชุมชน กระจายเมล็ดพันธ์คุณภาพดีถึงชาวนา

     ทั้งหมดนี้ ต้องปรับเปลี่ยน ตั้งแต่ทัศนคติของชาวนา การจัดการแปลงนา การใช้เมล็ดพันธุ์คุณภาพ ควบคุมการใส่ปุ๋ย การเก็บเกี่ยวดูแลหลังการเก็บเกี่ยว และการพักดิน ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่กรมการข้าวและศูนย์ข้าวชุมชน ดูแลบริหารจัดการในลักษณะของโซนนิ่ง อย่างประณีตใช้เมล็ดพันธุ์ที่เหมาะสม กำจัดวัชพืช ทำนาน้อยครั้งแต่ได้ผลผลิตต่อไร่สูง

     โดยกองวิจัยและพัฒนาข้าว จะทำหน้าที่ผลิตเมล็ดพันธุ์คัด เพื่อให้ได้พันธุ์ที่บริสุทธิ์ที่สุด จากนั้นนำไปผลิตเป็นเมล็ดพันธุ์หลัก เพื่อให้ได้เมล็ดพันธุ์ขยายส่งต่อให้ศูนย์ข้าวชุมชน ผลิตเป็นเมล็ดพันธุ์จำหน่าย ให้กับชาวนาในพื้นที่เพื่อปลูกเป็นข้าวเพื่อบริโภค

     ซึ่งเมล็ดพันธุ์คัด1 กิโลกรัม จะเพาะปลูกเป็นเมล็ดพันธุ์หลักได้ 10 กิโลกรัม และ 1 กิโลกรัมของเมล็ดพันธุ์หลักสามารถผลิตเมล็ดพันธุ์ขยาย ได้ 30 -40 กิโลกรัม โดยเมล็ดพันธุ์ขยายควรเปลี่ยนทุก 3 ปี เพื่อป้องกันความเสี่ยงเรื่องโรค คุณภาพและผลผลิตต่อไร่ที่ลดลง
‘กรมการข้าว’ ยกระดับศูนย์ข้าวชุมชน กระจายเมล็ดพันธ์คุณภาพดีถึงชาวนา

     “ปัญหาการส่งต่อเมล็ดพันธุ์คุณภาพไม่ได้ตามเป้าหมายในขณะนี้คือ การผลิตเมล็ดพันธุ์คัด พันธุ์หลัก และพันธุ์ขยาย ทำได้น้อย การเร่งผลิตไม่สามารถทำได้เพราะแปลงปลูกบางพื้นที่ขาดน้ำ ไม่มีระบบชลประทาน เนื่องจากการผลิตเมล็ดพันธุ์คุณภาพต้องใช้วิธีการปักดำเท่านั้น ทำให้การผลิตเมล็ดพันธุ์ขาดช่วง อีกทั้งการปลูกข้าวต้องใช้ช่วงเวลาตามฤดูกาล และระยะเวลา 90-120 วัน ไม่สามารถเร่งรัดให้เร็วกว่านี้ ”

     สำหรับเมล็ดพันธุ์ขยาย ที่ผ่านมาผลิตได้เพียงปีละ 6 หมื่นตันเท่านั้น เมื่อมีโอกาสเข้าบริหารงาน ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ได้ริเริ่ม “โครงการนาสะอาด” เพื่อให้ได้เมล็ดข้าวที่มีคุณภาพคัดสรรมาเป็นชั้นพันธุ์ขยาย โดยในปี 67 คาดว่าจะได้ประมาณ 1 แสนตัน ปี 68 เพิ่มเป็น 1.2 แสนตัน แม้จะเป็นปริมาณที่น้อยมาก ไม่ถึง 1 % ของความต้องการของพื้นที่ปลูก 60 ล้านไร่

     แต่ในปี 2569 อัตราการผลิตเมล็ดพันธุ์คุณภาพ จะเพิ่มอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากกรมการข้าวได้รับจัดสรรงบประมาณการซื้อรถปักดำ รถเกี่ยว ทำให้การทำงานสะดวกขึ้น จากเดิมเครื่องมือเหล่านี้ต้องเช่าจากเอกชน ทำให้เสี่ยงต่อการปลอมปนและไม่สะดวกต่อการบริหารจัดการ

     นอกจากนี้ ที่ผ่านมากรมการข้าวส่งเจ้าหน้าที่ไปศึกษาด้าน เทคโนโลยีการตัดต่อพันธุุกรรมแนวใหม่ (Gene editing ) ที่ไม่ใช่ GMOs ที่สถาบันข้าวระหว่างประเทศ (IRRI) หรืออีรี่ประกอบกรมการข้าวได้ลงนามความร่วมมือกัน เพื่อเชื่อมพันธุกรรมข้าว ซึ่งจะส่งผลให้ไทยมีฐานพันธุกรรมข้าวที่กว้างขึ้น จะย่นระยะเวลาการวิจัยพันธุ์ เหลือเพียง 2-3 ปี จากเดิมที่ ใช้เวลา 8-10 ปี การผลิตเมล็ดพันธุ์จะเร็วขึ้นทันกับความต้องการของตลาด

     “การพัฒนาเมล็ดข้าวพันธุ์ดีเพื่อกระจายให้เกษตรกรอย่างทั่วถึง ไม่ควรใช้เวลาเกิน 3 ปี หรืออย่างน้อยควรได้ 50% ของความต้องการ 1 ล้านตัน แต่ผมก็พอใจระดับหนึ่งในช่วง 3 ปีผ่านมาได้สร้างระบบการผลิตรองรับไว้แล้ว แต่มั่นใจมากในปี 69 จะสมบูรณ์แบบ ไม่เกิน ปี 70 ชาวนาจะได้รับเมล็ดข้าวคุณภาพ ทั่วประเทศโดยการทำเมล็ดข้าวพันธุ์ดีไม่จำเป็นต้องทำให้ได้ถึง 50% ของความต้องการ เป้าหมายจริงๆผมกำหนดที่ 20 % ก็น่าจะเพียงพอ แต่ต้องทำอย่างจริงจัง"

     ในขณะที่การกระจายเมล็ดพันธุ์ จะถ่ายทอดผ่านอาสาชาวนา 1.4 แสนคน กระจายอยู่ตามศูนย์ข้าวชุมชน สามารถติดต่อเฟสบุ๊ค และไลน์ จะเป็นกำลังพลที่สำคัญ ที่จะเป็นแบบอย่าง ถ่ายทอดการทำแปลงนาสะอาดไปยังเกษตรกรและอาสาเหล่านี้จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากผู้ที่ประสบผลสำเร็จในการทำแปลงนาสะอาด