posttoday

สทนช. กำชับจับตาสถานการณ์ส่งท้ายฤดูฝนใกล้ชิด คาดพายุเติมฝนปลายเดือน ก.ย.

25 กันยายน 2567

สทนช. กำชับหน่วยงานเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำใกล้ชิด คาดปลาย ก.ย. จะมีฝนตกเพิ่มจากอิทธิพลพายุช่วงปลายเดือน ก.ย. จับมือทุกหน่วยเร่งบริหารมวลน้ำจากพื้นที่ตอนบนไหลสู่อ่าวไทย

นายไพฑูรย์  เก่งการช่าง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานการประชุมติดตามและประเมินสถานการณ์น้ำประจำสัปดาห์ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เปิดเผยผลการประชุมว่า  ล่าสุดยังมีพื้นที่ประสบอุทกภัยอยู่อีก 14 จังหวัด 22,275 ครัวเรือน โดยเป็นจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่ภาคเหนือ 9 จังหวัด ได้แก่ จ.เชียงราย (อ.แม่สาย เมืองเชียงราย และเวียงป่าเป้า) เชียงใหม่ (อ.แม่ริม และเมืองฯ) น่าน (อ.นาน้อย นาหมื่น และเวียงสา) ลำปาง (อ.งาว เมืองฯ เกาะคา ห้างฉัตร แม่พริก สบปราบ เถิน แม่เมาะ วังเหนือ แม่ทะ และแจ้ห่ม) ลำพูน (อ.เมือง ป่าซาง บ้านธิ ทุ่งหัวช้าง และแม่ทา) แพร่ (อ.ลอง และวังชิ้น) สุโขทัย (อ.ศรีสำโรง) พิษณุโลก (อ.พรหมพิราม บางระกำ และเมืองพิษณุโลก) และเพชรบูรณ์ (อ.ชนแดน)

สทนช. กำชับจับตาสถานการณ์ส่งท้ายฤดูฝนใกล้ชิด คาดพายุเติมฝนปลายเดือน ก.ย.

 

ที่ประชุมยังคาดการณ์และเฝ้าระวังฝนที่จะตกลงมาเพิ่มอีก เนื่องจากพบการก่อตัวของพายุในบริเวณหมู่เกาะฟิลิปปินส์คาดว่าจะเคลื่อนตัวไปยังเกาะไต้หวัน ถึงแม้ว่าพายุจะไม่เข้าประเทศไทยโดยตรง แต่อาจส่งผลให้ในช่วงวันที่ 30 ก.ย. – 1 ต.ค. 67 เกิดฝนตกในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก หน่วยงานทั้งในส่วนกลางและในพื้นที่ได้วางแผนเตรียมความพร้อม โดยได้เฝ้าระวังและบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำมากกว่า 80% ให้สอดคล้องกับสถานการณ์และเกิดผลกระทบประชาชนน้อยที่สุด เร่งระบายน้ำในแม่น้ำต่างๆ รวมถึงเตรียมความพร้อมในพื้นที่ริมแม่น้ำ ทบทวนเกณฑ์การแจ้งเตือนสถานี Early-Warning บริเวณที่มีความลาดชันสูงให้มีความรัดกุมและทันต่อสถานการณ์ ทำความร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการแจ้งเตือนประชาสัมพันธ์เส้นทางสัญจรที่ถูกน้ำท่วม ให้มีระบบแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เปราะบางตามริมแม่น้ำโดยเฉพาะในพื้นที่ที่เคยได้รับผลกระทบและยังไม่ได้ซ่อมแซมคันกั้นน้ำ

สทนช. กำชับจับตาสถานการณ์ส่งท้ายฤดูฝนใกล้ชิด คาดพายุเติมฝนปลายเดือน ก.ย.

 

 

สำหรับสถานการณ์น้ำในช่วงสัปดาห์นี้ (17 – 25 ก.ย.67) ปริมาณฝนสะสมทั่วประเทศเริ่มสูงกว่าค่าปกติ 2% แหล่งน้ำทั่วประเทศขณะนี้มีปริมาณน้ำ 70% มากกว่าปีที่แล้ว 7% ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่เพิ่ม 3137 ล้าน ลบ.ม โดยมีอ่างเก็บน้ำที่ต้องเฝ้าระวังน้ำมากในพื้นที่ต่าง ๆ  ได้แก่ ภาคเหนือ (อ่างฯแม่งัดสมบูรณ์ชล แม่จาง และกิ่วลม) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อ่างฯห้วยหลวง) ภาคตะวันออก (อ่างฯนฤบดินทรจินดา) และจากการคาดการณ์ฝนตกสะสมล่วงหน้า 3 วัน พบพื้นที่เสี่ยงเกิดอุทกภัยบริเวณ ภาคเหนือ ได้แก่ อ.วังชิ้น จ.แพร่ อ.เมืองพะเยา จ.พะเยา และอ.นครไทย จ.พิษณุโลก สำหรับภาคตะวันออก ได้แก่ อ.บ่อไร่ จ.ตราด อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ส่วนภาคใต้ ได้แก่ อ.ธารโต และเบตง จ.ยะลา

สทนช. กำชับจับตาสถานการณ์ส่งท้ายฤดูฝนใกล้ชิด คาดพายุเติมฝนปลายเดือน ก.ย.

“แม้จะมีการคาดการณ์ว่าปลายเดือน ก.ย.ปริมาณฝนจะเริ่มลดลง แต่ทุกหน่วยงานก็ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากสภาพภูมิอากาศมีความแปรปรวนสูงมาก หลายพื้นที่ที่เพิ่งผ่านอุทกภัยช่วงที่ผ่านมาอยู่ระหว่างการฟื้นตัว และหลายพื้นที่ยังมีความชื้นในดินสูง หากมีฝนตกเพิ่มแม้มีปริมาณไม่มากแต่ก็จะส่งผลกระทบในพื้นที่ซ้ำได้ ในช่วงเวลานี้ ทุกหน่วยงานจึงต้องร่วมมือกันเร่งบริหารจัดการมวลน้ำจากภาคเหนือไหลลงสู่พื้นที่ตอนล่าง โดยบริหารจัดการเป็นลุ่มน้ำเพื่อเก็บน้ำเข้าอ่างเก็บน้ำต่างๆ ให้เพียงพอในฤดูแล้งที่จะถึงนี้ และต้องระบายน้ำส่วนเกินลงสู่พื้นที่ตอนล่างโดยไม่กระทบต่อประชาชนในพื้นที่ “