ที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่พ.ค.เริ่มขยับ

ศูนย์ข้อมูลฯ เปิดตัวเลขที่อยู่อาศัยใหม่ พ.ค.เริ่มขยับ แต่ภาพรวม 5 เดือนยังลด

นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า จากการสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล เดือน พ.ค. 2559 มีทั้งหมด 21 โครงการ จำนวน 5,290 หน่วย แบ่งเป็น บ้านจัดสรร 14 โครงการ 2,320 หน่วย และคอนโดมิเนียม 7 โครงการ จำนวน 2,970 หน่วย ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวเมื่อเทียบกับโครงการเปิดตัวใหม่ในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่า ผู้ประกอบการเริ่มกลับมาเปิดตัวโครงการใหม่มากขึ้นในเดือน พ.ค.นี้

ทั้งนี้ เนื่องจากในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ผู้ประกอบการเปิดตัวโครงการใหม่น้อยมาก เพราะต้องการเร่งขายสินค้าพร้อมอยู่ทั้งบ้านและคอนโดมิเนียมให้ทันกับมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนจาก 2% เหลือ 0.01% และค่าจดจำนองจาก 1% เหลือ 0.01% ซึ่งเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค. 2558 สิ้นสุดวันที่ 28 เม.ย. 2559 ซึ่งเมื่อหมดมาตรการดังกล่าวแล้ว จึงเริ่มกลับมาทยอยเปิดตัวโครงการใหม่อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมการเปิดตัวโครงการใหม่ 5 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ค.) ของปี 2559 มีทั้งหมด 123 โครงการ จำนวน 29,380 หน่วย ยังลดลง 22% แบ่งเป็น บ้านจัดสรร 74 โครงการ 1.22 หมื่นหน่วย ลดลง 30% และคอนโดมิเนียม 49 โครงการ 1.718 หมื่นหน่วย ลดลง 16%

สำหรับภาพรวมในครึ่งปีหลังคาดว่าผู้ประกอบการจะเร่งเปิดตัวโครงการใหม่ต่อเนื่อง แต่ภาพรวมโครงการใหม่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลทั้งปี 2559 จะใกล้เคียงกับปีที่แล้ว อยู่ที่ 1.01-1.02 แสนหน่วย แบ่งเป็น บ้านจัดสรร 4.1-4.2 หมื่นหน่วย และคอนโดมิเนียม 6 หมื่นหน่วย โดยปัจจัยที่ทำให้ประเมินว่าจำนวนโครงการที่อยู่อาศัยใหม่จะใกล้เคียงกับปีที่แล้ว เนื่องจากซัพพลายที่อยู่อาศัยในตลาดยังมีจำนวนมาก และแม้ว่าผู้ประกอบการหลายรายจะระบายสต๊อกสินค้าพร้อมอยู่ไปไม่น้อยในช่วงครึ่งปีแรก แต่ก็ยังมีสินค้าพร้อมอยู่เหลือขายในมืออีกจำนวนมากเช่นกัน

นอกจากนี้ ในกลุ่มบ้านจัดสรรภาพรวมปีนี้มีแนวโน้มจะลดลง แม้ว่าผู้ประกอบการรายใหญ่เกือบทุกรายจะหันมาทำโครงการแนวราบมากขึ้นและมียอดขาย ที่ดี แต่เป็นเพราะมีเพียงรายใหญ่ไม่กี่รายเท่านั้นที่ยังเปิดตัวบ้านแนวราบโครงการใหม่ ส่วนรายเล็กแทบไม่มีการเปิดบ้านแนวราบโครงการใหม่เลย เพราะแบงก์เข้มไม่ปล่อยกู้สินเชื่อโครงการ จึงทำให้ภาพรวมซัพพลายบ้านแนวราบไม่ได้เข้าสู่ตลาดมาก

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย กล่าวว่า การพัฒนาโครงการบ้านแนวราบต้องลงทุนสร้างสาธารณูปโภคในหมู่บ้านทั้งหมดก่อนจึงมีต้นทุนที่สูงมาก