posttoday

"ปณต สิริวัฒนภักดี" โชว์ แนวคิดยกระดับเมืองกรุงยุคใหม่ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

03 ธันวาคม 2567

"ปณต สิริวัฒนภักดี" โชว์แนวคิด เพิ่มพื้นที่สีเขียวย่านพระราม 4 ลดมลภาวะ - ต้นทุนภาระบ้านเมือง หัวใจสำคัญยกระดับมาตรฐานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ สู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตคนเมืองกรุงอย่างยั่งยืน 

3 ธ.ค. 2567 เวลา 11.00 น. ที่งาน Sustainability forum 2025 นายปณต สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เฟรเซอร์สพร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ต รวมแบ่งปันมุมมอง Sustainable ในหัวข้อ Sharing the Sustainable Society from the Experience


โดยนายปณต กล่าวว่า เราได้สร้างวิสัยทัศน์และสร้างพื้นที่ให้ได้ประสบการณ์ที่ดีในรูปแบบความยั่งยืนและรูปแบบอสังหาริมทรัพย์เราได้ขยายงานมาตลอด 40 ปีใน 4 ทวีป 20 ประเทศมีการลงทุน 30 เมืองและโลกเรามีการลงทุนได้ครบวงจรและมีความรู้ความเข้าใจในการพัฒนาความยั่งยืนมาต่อยอดอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง

 

 กรุงเทพมหานครถือเป็นพื้นที่สำคัญของประเทศ ที่จะรองรับการเป็นเซ็นเตอร์ของอาเซียน ในการเติบโตของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หัวใจสำคัญที่เราจะเปลี่ยนแปลงหรือพลิกฝันให้เป็นจริง คือ การสร้างแนวคิดที่จะพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นมาตรฐานใหม่ เพราะเราเชื่อว่ากรุงเทพมหานครสามารถมีมาตรฐานใหม่ที่ไม่ด้อยกว่าภูมิภาคไหนหรือในโลกนี้ เราสามารถสร้างหรือรองรับกลุ่ม science based targets

นาย ปณต สิริวัฒนภักดี

“เราไม่ได้เล็งเห็นแค่เรื่องของคาร์บอน อย่างเดียว เรายังเล็งเห็นเรื่องคุณภาพชีวิต น้ำ อากาศ ฝุ่น และ การใช้เครื่องมือและข้อมูลวางแผนบริหารจัดการต่างๆในการลดต้นทุน และพัฒนาคุณภาพชีวิตของคน  ความยั่งยืนตรงนี้เป็นเรื่องที่เราคิดและเป็นโครงการแรกกลางเมือง ที่ได้มีการพัฒนาศูนย์กลางพัฒนาพลังงาน หรือ ที่เราเรียกว่า ONE power เราได้สร้าง DISTRICT COOLING หรือ ระบบสร้างน้ำเย็นใหญ่ที่สุดกลางเมือง ซึ่งจะทำให้ทุกๆตึกไม่ต้องสร้าง cooling tower หรือ ปล่องปล่อยไอร้อน เพื่อสร้างน้ำหล่อเย็นให้กับอากาศภายในอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมด นอกเหนือจากเราจะพัฒนาเรื่องการหล่อเย็น และ การประหยัดพลังงานไฟฟ้าแล้ว เรายังมุ่งเน้นการบริหารจัดการน้ำอีกด้วย” 

 

นาย ปณต สิริวัฒนภักดี

 

นายปณต กล่าวต่อว่า จริงๆแล้วการสร้าง carbon friendly หรือ environmentally friendly นั้น เป็นแค่ 4 กลุ่มเป้าหมายของ 17 Goals หรือ 17 เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน เท่านั้น แต่การสร้าง fitwell กับการสร้าง well standard ให้กับอสังหาริมทรัพย์ ทำให้เราครอบคลุมทั้ง 17 goals ของ UN ได้ 

 

ที่ผ่านเรามีการเก็บข้อมูลต่างๆมากมายจากทั่วโลก เพื่อนำมาเปรียบเทียบกับแนวคิดที่จะพัฒนาย่านพระราม 4 เราเชื่อว่า การสร้างพื้นที่สีเขียวให้เพิ่มขึ้นคือหัวใจสำคัญอย่างหนึ่งของการพัฒนาเมืองมาก เพราะจะช่วยลดความร้อน สร้างเส้นการเชื่อมโยงของชุมชน รวมถึงสร้างความหลากหลายทางชีวภาพ จึงจะเป็นแนวทางสร้างคุณภาพชีวิตของคนอย่างแท้จริงในระยะยาว สิ่งเหล่านี้เองก็เป็นบทพิสูจน์ว่า การวางตึกที่มีคุณภาพ ลดคาร์บอน การสร้างคุณภาพของน้ำ รวมถึงการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพ และการวางแผนบริหารจัดการต่างๆจะสามารถช่วยลดภาระของเมืองที่ต้องบำบัดหรือดูแลได้

 

แม้วันนี้อสังหาริมทรัพย์ของกรุงเทพเราจะเป็นเพียง 1 ใน 10 หากเปรียบเทียบคือ อาคารเดียวกันของเรากับสิงคโปร์มูลค่าต่างกัน 10 เท่า แต่ในเชิงของรายได้ต่างกันเพียง 4 เท่า เพราะฉะนั้นเรายังมีโอกาสและศักยภาพการแข่งขันที่สูงมาก จึงเชื่อว่าอสังหาริมทรัพย์ของเรายังมีกรอบการเติบโตได้อีกมาก

 

 

แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการสร้างเมืองที่ยั่งยืน ซึ่งในมุมมองของตนก็คือการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ในอดีตอสังหาริมทรัพย์สร้างขึ้นเพราะผู้ลงทุนหรือเจ้าของอยากสร้าง หรือมุมมองความเป็น landlord แต่ในวันนี้ตนมองว่าอสังหาริมทรัพย์กลับเป็นเรื่องของการใช้ประโยชน์กับคุณภาพชีวิตของคน เรามอง Customer Centric หรือ ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และ ประโยชน์ของคนเป็นที่ตั้ง

 

 

ปัจจุบันเมืองมีปัญหาเกี่ยวกับความหนาแน่น รถติด จากข้อมูลที่เราเก็บรวบรวมมาไม่ว่าจะเป็นเมืองใหญ่ต่างๆในโลก พบว่า การเป็นเมืองที่เดินเขื่อมโยงกันได้ทำให้เกิดคุณภาพชีวิตทางสังคมที่สูงขึ้น รวมถึงการต่อยอดทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น