จับตา 9 กลุ่มทุน "มาเก๊า-ไทย" ชิงเค้ก "เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์"
CLSA ฮ่องกงวิเคราะห์ อุตสาหกรรมกาสิโนของไทยจะขับเคลื่อนโดยผู้เล่นชาวต่างชาติเป็นหลัก เปิดเผย 4 กลุ่มทุนมาเก๊า 5 กลุ่มทุนไทย สวนสยาม เดอะมอลล์ ราชตฤณฯ อู่ตะเภา พราวกรุ๊ป จับตาพื้นที่ศักยภาพของไทย
สรุปบทวิเคราะห์โดย CLSA บริษัทนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์จากฮ่องกง
- อุตสาหกรรมกาสิโนของไทยจะขับเคลื่อนโดยผู้เล่นชาวต่างชาติ
- รายรับรวมจากการเล่นเกม (GGR) ของอุตสาหกรรมกาสิโนไทยจะอยู่ในช่วง 8,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถึง 30,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี (ประมาณ 301,000 ล้านบาท ถึง 1,090,700 ล้านบาท) โดยคาดการณ์กรณีฐาน (กรณีปกติไม่มีปัจจัยเหนือคาด) จะอยู่ที่ประมาณ 15,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี (ประมาณ 534,740 ล้านบาท)
- การเปิดกาสิโนถูกกฎหมายของประเทศไทยจะไม่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมกาสิโนในมาเก๊าเท่าไรนัก แต่กลับเป็นโอกาสมากกว่า หากผู้ประกอบการจากมาเก๊าสามารถคว้าใบอนุญาตเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทยได้
เปิดเผยทุนมาเก๊า 4 รายสนใจลงทุน
CLSA เปิดเผยว่า มีบริษัทผู้รับสัมปทานกาสิโนในมาเก๊า 4 ราย (จากทั้งหมด 6 ราย) สนใจจะร่วมประมูลใบอนุญาตเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ของไทย ได้แก่
- กาแลกซี่ เอนเตอร์เทนเมนต์ (Galaxy Entertainment Group)
- เอ็มจีเอ็ม ไชน่า (MGM China)
- แซนด์ส ไชน่า (Sands China)
- วินน์ มาเก๊า (Wynn Macau)
ด้านฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ก็ได้รวบรวมรายชื่อกลุ่มทุนทั้งในและต่างประเทศที่สนใจโครงการนี้ รวมถึงหุ้นที่มีโอกาสได้รับประโยชน์หากโครงการเดินหน้า ซึ่งเบื้องต้นคาดว่า จำนวน Entertainment Complex ของไทยน่าจะมีทั้งหมด 5 แห่ง คือ กรุงเทพฯ 2 แห่ง พัทยา 1 แห่ง ภูเก็ต 1 แห่ง และเชียงใหม่ 1 แห่ง
เผยรายชื่อกลุ่มทุนไทยสนใจลงทุนในเกม ‘เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’
พร้อมเข้าสู่ขั้นตอนการนำเสนอเข้าที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะเปิดสมัยการประชุมสามัญในช่วงกลางเดือนธันวาคม 2567 ถึงเดือนเมษายน 2568 หลังจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กางไทม์ไลน์ เตรียมนำร่างพ.ร.บ. การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. …หรือเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ที่มีกาสิโนถูกกฎหมายเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ดังรายละเอียดที่โพสต์ทูเดย์เคยรายงานไว้ก่อนหน้านี้ใน เปิดเกณฑ์ "เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ คอมเพล็กซ์"กำหนดทุนจดทะเบียน 1 หมื่นล้านบาท (ค่าใบอนุญาตใบละ 5,000 ล้านบาท และค่ารายปีอีกปีละ 1,000 ล้าน)
โดยนายจุลพันธ์ มั่นใจหากทุกอย่างผ่านฉลุยไปได้ด้วยดี โครงการนี้จะทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้หลายมิติ ดึงดูนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้าประเทศไทยได้สูงถึง 20%
โดยกลุ่มทุนไทยที่เปิดเผยว่าสนใจมีดังนี้
1. สนามม้านางเลิ้ง หรือ ราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่ประกาศร่วมกับบริษัท รอยัล สปอร์ต คอมเพล็กซ์ จำกัด หรือ RSC (และพันธมิตรต่างชาติอย่างเกาหลีใต้) โดย Sports and Entertainment Complex จะมีทั้งหมด 6 โครงการด้วยกัน ตั้งอยู่ใน 6 จังหวัดทั่วประเทศไทย คือ
กรุงเทพมหานคร (พื้นที่หลัก) แถวลาดกระบังหรือหนองจอก (ที่ดิน 3,000 ไร่)
ภูเก็ต แบ่งเป็น 2 พื้นที่คือเกาะส่วนตัว พื้นที่ 300 ไร่ กับบริเวณบนฝั่งติดกับทะเลพื้นที่ 850 ไร่ (บริการสมาชิก VVIP และแขกของสมาคมเป็นหลัก เท่านั้น)
กาญจนบุรี ไทรโยค ติดแม่น้ำแคว 180 ไร่
เชียงราย บริเวณเชียงแสน
เขาใหญ่ 3,000 ไร่ ฟาร์มเพาะและขยายพันธุ์ม้า ,สนามแข่งม้ามาตรฐาน โรงแรม รีสอร์ท
โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) พื้นที่ 2,000 ไร่
2. กลุ่มบริษัท สยามพาร์คซิตี้ (สวนสยามเดิม) โดยไชยวัฒน์ เหลืองอมรเลิศ ประธานกรรมการวัย 87 ปี ประกาศพร้อมลงทุนเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ บนเนื้อที่ 500 ไร่ ย่านมีนบุรี ด้วยวงเงิน 1 แสนล้านบาท ในโครงการมีทั้งสวนสนุกและสวนน้ำกลางแจ้งขนาดใหญ่ พื้นที่พาณิชยกรรม โรงแรม ศูนย์อาหาร ศูนย์รวมความบันเทิง และกาสิโนถูกกฎหมาย ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา ออกแบบโมเดลโครงการ หาพันธมิตรทั้งคนไทยและต่างชาติร่วมลงทุน โดยสวนสยามลงทุน 50% หรือประมาณ 5 หมื่นล้านบาท
3. “บริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด” หรือ UTA ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง บมจ. การบินกรุงเทพ (BA) บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง (BTS) และบมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น(STEC)ผู้ รับสัมปทานพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก 6,500 ไร่ ก็มีชื่อติดโผสนใจเช่นกันและคาดหมายว่าจะแจ้งเกิดเป็นที่แรก สอดคล้องกับแนวทางโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ที่เคยเปิดเผยว่าตั้งใจจะให้เป็นมากกว่าแค่สนามบิน แต่คือจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยว โดยตั้งใจจะให้เป็นศูนย์กลางการบินระดับภูมิภาค เป็นสนามบินนานาชาติที่ได้มาตรฐานโลก รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมการบิน เชื่อมโยงการท่องเที่ยวสู่ภาคธุรกิจ เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และขนส่งทางอากาศแห่งภูมิภาค
4. กลุ่ม “เดอะมอลล์” จับตาเมกะโปรเจ็กต์ “แบงค็อกมอลล์” ย่านบางนา บนที่ดิน 100 ไร่ ที่เดอะมอลล์กำลังเดินเครื่องก่อสร้าง มูลค่า 5 หมื่นล้านบาท คาดว่าน่าจะเป็นหนึ่งในผู้ท้าชิง หลังศุภลักษณ์ อัมพุช เคยเผยแนวคิดกรุงเทพฯต้องมีแหล่งการท่องเที่ยวเพื่อความบันเทิงในช่วงเวลากลางคืน เพื่อสร้างฮับเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกได้ เหมือนกับหลายต่างประเทศที่มีทั้งเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์และกาสิโน คาดสร้างเสร็จเปิดภายในปี 2569-2570
5. บริษัท พราว กรุ๊ป จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เชิงท่องเที่ยว บริหารธุรกิจโรงแรม สวนสนุก สวนน้ำทาง พสุ ลิปตพัลลภ ออกมาระบุสนใจเพราะเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน แต่รอความชัดเจนจากภาครัฐ เรื่องกฎหมาย พื้นที่ ใบอนุญาต จะเป็นรูปแบบไหนอย่างไร และคงต้องทำการศึกษา รวมถึงต้องร่วมกับพาร์ทเนอร์หลายราย