posttoday

เทรนด์ Smart Security โตชัด "LIV-24" ป้องกันเหตุร้ายกว่า 5 แสนครั้ง

12 พฤศจิกายน 2567

"นิรมล ดิเรกมหามงคล" ชี้เทรนด์ Smart Security ขยายตัวชัดเจน พร้อมตอกย้ำ "LIV-24" เป็นผู้นำ Security Technology สามารถป้องกันเหตุการณ์ร้ายได้กว่า 5 แสนครั้ง สร้างรายได้โต 2 เท่าทุกปีต่อเนื่องตลอด 5 ปี

     นางสาวนิรมล ดิเรกมหามงคล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลิฟ-24 จำกัด กล่าวในงานสัมมนา Thailand Smart City Expo 2025 “การจัดการเมืองอัจฉริยะด้วยเทคโนโลยีและ AI เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต” โดยโพสทูเดย์ ร่วมกับ สปริงนิวส์ และสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ในหัวข้อ Smart Guardian for Smart Security ว่า บริษัทมองเห็นความท้าทายในเรื่องของ Security และการบริหารพื้นที่ ซึ่งความท้าทายแรก คือ "การดูแลรักษาความปลอดภัย" สำหรับ Smart Life ตั้งแต่อดีตที่ผ่านมา เราพึ่งพาคนเป็นหลัก ซึ่งมนุษย์มีความเหนื่อยล้า เมื่อ Human Error สิ่งที่บริษัทจัดการคือทำอย่างไรไม่ให้สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้น 

     เนื่องด้วยการพึ่งพา "คน" อย่างมาก สิ่งที่ตามมา คือ ต้นทุนในการรักษาความปลอดภัย พร้อมกับค่าครองชีพ และค่าจ้างแรงงานที่เพิ่มขึ้น โดยผลกระทบที่ทราบกันดีว่า "โครงสร้างประชากรที่เปลี่ยนแปลงไป" มีผลกระทบอย่างมากต่อต้นทุนการรักษาความปลอดภัย

เทรนด์ Smart Security โตชัด \"LIV-24\" ป้องกันเหตุร้ายกว่า 5 แสนครั้ง

     ความท้าทายถัดมา คือ สิ่งที่การรักษาความปลอดภัยไม่สามารถยอมรับได้เลย คือ การที่เรามองเห็น CCTV เราอาจจะสบายใจว่าเวลาเกิดเหตุขึ้นเราสามารถย้อนดูเหตุการณ์ต่างๆได้ แต่นั่นหมายความว่า ความเสียหายนั้นได้เกิดขึ้นแล้ว ถ้าความเสียหายเกิดผลกระทบต่อทรัพย์สินคงพอเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ถ้าความเสียหายกระทบต่อชีวิต สิ่งเหล่านั้นไม่สามารถเรียกคืนได้เลย

     นอกจากความท้าทายเรื่อง "ความปลอดภัย" ในเรื่องของ "Smart Life" ยังมีความท้าทายเพิ่มเติม นั่นก็คือ "การจัดการพลังงาน" ทำอย่างไรให้การจัดการมีประสิทธิภาพและมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด ซึ่งในปีนี้ภูเขาไฟฟูจิไม่มีหิมะปกคลุมเป็นครั้งแรกในรอบ 130 ปี โลกกำลังบอกอะไรอยู่ สิ่งเหล่านี้เราจึงต้องนำเทคโนโลยีมาใช้ในการจัดการพลังงานให้มีประสิทธิภาพ เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

     และอีกหนึ่งความท้าทาย คือ "การปรับเปลี่ยนตัวเองให้สามารถอยู่ร่วมกับเทคโนโลยี AI" วันนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก AI และจะใช้ประโยชน์จาก AI เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันได้อย่างไร 

     ความท้าทายเหล่านี้เป็นสิ่งที่ "แสนสิริและบริษัทในเครือ" จึงสร้าง "LIV-24"ขึ้นมาเพื่อนำเทคโนโลยี AI มาผสมผสานความเชี่ยวชาญในการจัดการความปลอดภัย ทำงานบนพื้นฐานการเชื่อมต่อด้าน "HARDWARE" อุปกรณ์ต่างๆที่มีเทคโนโลยี AI ติดตั้งอยู่ที่โครงการ ส่งสัญญาณผ่าน "SOFTWARE" ติดตามเหตุการณ์และกลั่นกรองเฉพาะเหตุการณ์ที่สำคัญ และส่งต่อมาที่ "HUMANWARE" เจ้าหน้าที่ที่มีความชำนาญ มีประสบการณ์ที่รับเหตุจากการแจ้งเตือนจากเทคโนโลยีและนำมาดูแลจนเหตุอันตรายเหล่านั้นได้รับการแก้ไขตั้งแต่ต้นจนจบ 

"Smart Life จะเป็นไปไม่ได้เลยถ้าการใช้ชีวิตนั้นไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบายได้ ดังนั้นเราจึงมี IOT Monitoring เพื่อติดตามการทำงานของระบบต่างๆในอาคาร ทั้งระบบน้ำ ไฟฟ้า ลิฟท์ ฯลฯ เพื่อให้ระบบต่างๆทำงานได้อย่างราบรื่นและปลอดภัยที่สุด นอกจากนี้ระบบความปลอดภัยยังขยายไปยังท้องถนน และ เทคโนโลยีตรวจสอบคุณภาพน้ำเสียก่อนออกสู่แหล่งน้ำสาธารณะเป็นต้น"

      สิ่งที่พิสูจน์ได้ว่าเรื่อง Smart Security น่าสนใจและได้รับการยอมรับ ถือเป็นเทรนด์ที่เติบโตในปัจจุบัน และ "LIV-24" เป็นผู้นำในเรื่องของ Security Technology ในโครงการที่อยู่อาศัย ทั้ง บ้านเดี่ยว , ทาวเฮ้าส์ , คอนโดมิเนียม มากกว่า 130 โครงการ และขยายเข้าสู่โชว์รูม , โรงแรม , โรงเรียน และนิคมอุตสาหกรรม เป็นต้น

     นอกจากนี้ อีกสิ่งหนึ่งที่พิสูจน์เทรนด์การเติบโตนี้คือ รายได้ของบริษัทเติบโต 2 เท่าทุกปี โตต่อเนื่องตลอด 5 ปี และสามารถป้องกันเหตุการณ์ต่างๆได้กว่า 5 แสนครั้ง สิ่งเหล่านี้สะท้อนความต้องการของตลาดเทคโนโลยี ซีเคียวริตี้ และความขยายตัวของเทคโนโลยี IoT รวมถึงการยอมรับและความไว้วางใจจากลูกค้า

"ปี 2023 บริษัทที่ประสบความสำเร็จไม่ใช่บริษัทที่มีจำนวนพนักงานมากที่สุด แต่เป็นบริษัทที่สามารถนำเทคโนโลยีมาใช้ในการสร้างผลผลิตที่เกิดจากพนักงานมากที่สุด และบริษัทที่นำเทคโนโลยีมาใช้สร้างรายได้สูงสุดคือ "OnlyFans" และวันนี้ "LIV-24" ต้องการเหมือน "OnlyFans"แต่ไม่ใช่ในเรื่องคอนเท้นท์ แต่เรามุ่งหวังที่จะนำเทคโนโลยีมาสร้าง Smart Life ให้กับชุมชน ประเทศชาติและโลกใบนี้ โดยที่สร้าง Productivity สูงสุดได้"