posttoday

เปิด 6 กลุ่มทุนยักษ์ใหญ่กาสิโนโลก ปั้น "เอ็นเตอร์เทนเม้นต์คอมเพล็กซ์” ไทย

18 มกราคม 2568

เวลานี้ “เอ็นเตอร์เทนเม้นต์คอมเพล็กซ์” กำลังร้อนและแรงอีกรอบในบ้านเรา เหมือนเค้กชิ้นใหญ่ที่หลายกลุ่มกำลังสนใจและอยากมีเอี่ยว ทั้งเรื่องของทำเลที่ตั้งและการลงทุน รูปแบบของธุรกิจบันเทิงแบบครบวงจรนี้จะรวมไปถึงอะไร กลุ่มทุนทั้งไทยและเทศที่จะเข้ามามีใครบ้าง?

นอกจากกลุ่มทุนไทย ใครเป็นใครในแวดวงกาสิโนโลก วันนี้โพสต์ทูเดย์ชวนไปทำความรู้จัก 6 กลุ่มทุนยักษ์ใหญ่ด้านธุรกิจกาสิโนรีสอร์ทระดับโลกที่รวมเอาความบันเทิงและความหรูหรามาจัดให้บริการทุกรูปแบบ และเป็นมากกว่าแค่กาสิโนธรรมดา จากที่ก่อนหน้านี้เคยนำเสนอ 9 กลุ่มทุน "มาเก๊า-ไทย" ชิงเค้ก "เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์" กันไปแล้ว วันนี้ไปต่อกันเลย

 

จุดเด่นของ 6 กลุ่มทุนยักษ์กาสิโนโลก

1. Las Vegas Sands: มีรายได้สูงสุดในอุตสาหกรรมกาสิโน โดยมีการลงทุนที่สำคัญในมาเก๊าและสิงคโปร์

2. Wynn Resorts: โดดเด่นด้วยการออกแบบและบริการที่หรูหรา

3. Caesars Entertainment: เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีชื่อเสียงที่สุดในลาสเวกัส

4. MGM China: มุ่งเน้นการเติบโตในตลาดเอเชีย

5. Hard Rock: มีชื่อเสียงในด้านความบันเทิงและวัฒนธรรมดนตรี

6. Melco: นำเสนอประสบการณ์ใหม่ ๆ ในกาสิโนและรีสอร์ต

 

 

Las Vegas Sands Corporation (LVS) บริษัทคาสิโนและรีสอร์ทชั้นนำที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา

 

1. Las Vegas Sands Corporation (LVS) บริษัทกาสิโนและรีสอร์ทชั้นนำที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา ก่อตั้งขึ้นในปี 1988 โดย Sheldon G. Adelson และกลุ่มหุ้นส่วน เริ่มต้นธุรกิจจากการซื้อ Sands Hotel and Casino ซึ่งต่อมาได้ถูกพัฒนาเป็น The Venetian Resort ในปี 1999 และ The Palazzo ในปี 2007

 

ตลาดเป้าหมาย มุ่งเน้นที่ตลาดเอเชีย โดยเฉพาะมาเก๊าและสิงคโปร์ ซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักของบริษัท ให้ความสำคัญกับนักท่องเที่ยวกลุ่มพรีเมียมและกลุ่มธุรกิจ ยิ่งกว่านั้น LVS ได้มุ่งขยายตลาดไปยังญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ โดยเน้นการพัฒนารีสอร์ทแบบครบวงจรที่ผสมผสานความหรูหราและความบันเทิง

 

รายได้หลักของ LVS มาจากธุรกิจคาสิโนประมาณ 60-70% ตามด้วยธุรกิจโรงแรมและที่พัก 15-20% ร้านอาหารและร้านค้าปลีก 5-10% และการจัดประชุมและนิทรรศการ 5-10%

 

การเติบโตและความสำเร็จ

LVS ได้รับการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) ตั้งแต่ปี 2004 ภายใต้สัญลักษณ์ LVS และเป็นส่วนหนึ่งของดัชนี S&P 50024 บริษัทนี้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาโมเดลรีสอร์ทแบบครบวงจรที่รวมกาสิโน โรงแรม ร้านอาหาร และพื้นที่จัดประชุมไว้ในที่เดียว ซึ่งช่วยขับเคลื่อนการท่องเที่ยวทั้งในลาสเวกัสและต่างประเทศ

 

ปัจจุบัน Las Vegas Sands Corporation (LVS) มีแผนที่จะลงทุนในประเทศไทยภายใต้โครงการ Entertainment Complex ซึ่งรวมถึงการเปิดกาสิโนถูกกฎหมาย โดย Rob Goldstein ประธานบริหารของ LVS ได้ยืนยันความสนใจนี้และมองว่าการเปิดกาสิโนในไทยอาจเกิดขึ้นได้เร็วกว่าที่ญี่ปุ่น

 

LVS ยังคงมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมกาสิโน แม้ว่า Sheldon Adelson จะเสียชีวิตในปี 2021 แต่ครอบครัว Adelson ยังคงมีส่วนร่วมในการบริหารบริษัท Sheldon Adelson (4 สิงหาคม 1933 - 11 มกราคม 2021) เป็นนักธุรกิจและมหาเศรษฐีชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียงในฐานะเจ้าของ Las Vegas Sands Corporation ซึ่งเป็นบริษัทคาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในโลก

 

Las Vegas Sands Corporation (LVS) มีทรัพย์สินสำคัญและมีชื่อเสียงดังนี้

สหรัฐอเมริกา:

The Venetian Resort รีสอร์ทหรูธีมอิตาลี พร้อมลำคลองเวนิสจำลอง และ Sands Expo and Convention Center ในลาสเวกัส ศูนย์การประชุมขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญที่สร้างชื่อเสียงให้กับบริษัท.

มาเก๊า:

LVS มีการลงทุนที่สำคัญในมาเก๊า รวมถึง Sands Macao, The Venetian Macao, Parisian Macao, และ Four Seasons Hotel Macao ซึ่งทำให้มาเก๊าเป็นแหล่งรายได้หลักของบริษัท.

สิงคโปร์:

Marina Bay Sands ซึ่งเปิดให้บริการในปี 2010 เป็นหนึ่งในรีสอร์ทที่มีชื่อเสียงที่สุดในสิงคโปร์และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกและยังมีมูลค่าการก่อสร้างสูงที่สุดในโลกอีกด้วย

 

Marina Bay Sands หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกและยังมีมูลค่าการก่อสร้างสูงที่สุดในโลก

 

ในปี 2022, LVS ได้ขาย The Venetian Resort และ Sands Expo ในลาสเวกัส เพื่อลดการพึ่งพาตลาดสหรัฐฯ และมุ่งเน้นการลงทุนในเอเชีย ภายใต้โครงการ “Sands ECO360” LVS ยังให้ความสำคัญกับการลดการใช้พลังงานและส่งเสริมความยั่งยืนในรีสอร์ท

 

2. Wynn Resorts เป็นบริษัทด้านการพัฒนาและบริหารจัดการรีสอร์ทหรูและกาสิโนที่มีชื่อเสียงระดับโลกอีกแห่ง ก่อตั้งโดย Steve Wynn ในปี 2002 โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา บริษัทนี้เป็นที่รู้จักในเรื่องของความหรูหราและการให้บริการระดับพรีเมียม รวมถึงการออกแบบรีสอร์ทที่โดดเด่น

 

รายได้หลักมาจากธุรกิจกาสิโนและการท่องเที่ยวที่เน้นความหรูหรา โดยมีตลาดสำคัญคือ ลาสเวกัส และ มาเก๊า เวลานี้กำลังขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชียและตะวันออกกลาง

 

Wynn Resorts ดำเนินธุรกิจรีสอร์ทแบบครบวงจร ซึ่งประกอบด้วยกาสิโน โรงแรม ร้านอาหาร สปา สนามกอล์ฟ และแหล่งช้อปปิ้ง มุ่งเน้นการมอบประสบการณ์ระดับโลกให้กับลูกค้าในด้านการพักผ่อนและความบันเทิง

 

อาณาจักร Wynn  Palace Macau

 

สถานที่ที่มีชื่อเสียง

Wynn Las Vegas (สหรัฐอเมริกา) ตั้งอยู่บน Las Vegas Strip เปิดให้บริการในปี 2005 มีห้องพักสุดหรู คาสิโน สนามกอล์ฟระดับโลก และโรงละครสำหรับการแสดง

Encore Las Vegas (สหรัฐอเมริกา) รีสอร์ทที่อยู่ติดกับ Wynn Las Vegas เปิดในปี 2008 มีการออกแบบที่หรูหราและมุ่งเน้นความเป็นส่วนตัว

Wynn Macau (มาเก๊า) เปิดให้บริการในปี 2006 เป็นรีสอร์ทระดับ 5 ดาวในเขตปกครองพิเศษมาเก๊า ได้รับรางวัลจาก Forbes Travel Guide หลายปีติดต่อกัน

Encore Macau (มาเก๊า) ส่วนขยายของ Wynn Macau เปิดในปี 2010

Wynn Palace (Cotai, มาเก๊า) รีสอร์ทหรูบน Cotai Strip เปิดในปี 2016 มีจุดเด่นคือ Gondola Ride รอบรีสอร์ท

Wynn Al Marjan Island (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) (โครงการในอนาคต) รีสอร์ทแห่งแรกของบริษัทในตะวันออกกลาง ตั้งอยู่ที่เกาะ Al Marjan ในรัฐราสอัลไคมาห์

 

Wynn Resorts ได้รับรางวัลมากมาย เช่น Forbes Five-Star Awards สำหรับบริการที่เป็นเลิศ รีสอร์ทแต่ละแห่งเป็นที่รู้จักในด้านการออกแบบสถาปัตยกรรมที่หรูหราและทันสมัย รวมถึงการใช้พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ

 

Caesars Palace (ลาสเวกัส)

 

3. Caesars Entertainment, Inc. เป็นหนึ่งในบริษัทด้านความบันเทิงและคาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีชื่อเสียงในการดำเนินธุรกิจรีสอร์ทและกาสิโนหรูในหลายประเทศ มีสำนักงานใหญ่ในเมืองรีโน (Reno) และลาสเวกัส (Las Vegas) รัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา ก่อตั้งขึ้นในปี 1937 โดย William F. Harrah ในชื่อ Harrah’s Entertainment และเปลี่ยนชื่อเป็น Caesars Entertainment ในปี 2010 หลังการควบรวมกิจการกับ Caesars World

 

Caesars Entertainment มีการดำเนินงานมากกว่า 50 แห่งใน 18 รัฐของสหรัฐอเมริกา แคนาดาและดูไบ รวมถึงกาสิโน โรงแรม ร้านอาหาร และสถานบันเทิงต่าง ๆ บริษัทให้บริการเกมหลากหลายประเภท เช่น สล็อตแมชชีน, โป๊กเกอร์, เกมโต๊ะ, และการพนันกีฬา ทั้งในรูปแบบค้าปลีกและออนไลน์ และยังมุ่งขยายธุรกิจในตลาดใหม่ เช่น ญี่ปุ่น และเอเชีย

 

ทรัพย์สินที่มีชื่อเสียง

Caesars Entertainment บริหารจัดการรีสอร์ทและกาสิโนหลายแห่งทั่วโลก รวมถึงสถานที่สำคัญในลาสเวกัสและประเทศอื่น ๆ:

Caesars Palace (ลาสเวกัส) รีสอร์ทสุดหรูและกาสิโนที่มีชื่อเสียงระดับโลก จุดเด่นคือธีมโรมันโบราณ พร้อมโรงละคร The Colosseum ที่จัดการแสดงระดับซูเปอร์สตาร์

Harrah’s (หลายแห่ง) แบรนด์กาสิโนและโรงแรมยอดนิยมที่มีสาขาทั่วสหรัฐอเมริกา

Planet Hollywood Resort & Casino (ลาสเวกัส) รีสอร์ทที่รวมความบันเทิงและไลฟ์สไตล์ร่วมสมัย

The LINQ Hotel + Experience (ลาสเวกัส) โดดเด่นด้วยชิงช้าสวรรค์ High Roller ซึ่งเป็นชิงช้าสวรรค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

Horseshoe Casinos (หลายแห่ง) แบรนด์กาสิโนที่เน้นบริการสำหรับนักเล่นเกมไฮโรลเลอร์

 

The LINQ Hotel + Experience (ลาสเวกัส) โดดเด่นด้วยชิงช้าสวรรค์ High Roller ซึ่งเป็นชิงช้าสวรรค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

 

การควบรวมกิจการสำคัญ

ในปี 2020 Caesars Entertainment ควบรวมกิจการกับ Eldorado Resorts ด้วยมูลค่า 17.3 พันล้านดอลลาร์ กลายเป็นบริษัทกาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา

 

กลยุทธ์ด้านความยั่งยืน Caesars Entertainment ให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่ยั่งยืนภายใต้โครงการ “People Planet Play” โดยเน้น ที่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ และการสนับสนุนชุมชนด้วยโอกาสงาน

 

MGM Macau และสัญลักษณ์อันโดดเด่น Golden Lion  เปิดให้บริการในปี 2007 ตั้งอยู่ในเขต NAPE หนึ่งในพื้นที่ที่สำคัญของมาเก๊า

 

4. MGM China Holdings Limited เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านรีสอร์ทและกาสิโนในมาเก๊า ก่อตั้งในปี 2010 โดยเป็นบริษัทย่อยของ MGM Resorts International ซึ่งเป็นบริษัทคาสิโนและความบันเทิงระดับโลกที่มีฐานอยู่ในลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา

MGM China เป็นหนึ่งในผู้พัฒนารายสำคัญในอุตสาหกรรมเกมและความบันเทิงของมาเก๊า ซึ่งเป็นศูนย์กลางกาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นหนึ่งในหกบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจกาสิโนในมาเก๊า ซึ่งถือเป็นตลาดที่สร้างรายได้หลักจากการท่องเที่ยวและเกม ในปี 2022-2023 บริษัทได้เริ่มปรับตัวเพื่อรองรับตลาดลูกค้ากลุ่มใหม่ หลังจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาค

 

MGM China มีรีสอร์ทคาสิโนหรู 2 แห่งในมาเก๊าคือ

MGM Macau เปิดให้บริการในปี 2007 ตั้งอยู่ในเขต NAPE (Nam Van) ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่สำคัญของมาเก๊า มีลักษณะเด่นคือ Golden Lion ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ MGM ประกอบด้วยห้องพักหรูหรา คาสิโนขนาดใหญ่ ร้านอาหารระดับโลก แหล่งช้อปปิ้ง และศูนย์จัดประชุม

 

MGM Cotai เปิดให้บริการในปี 2018 ตั้งอยู่บน Cotai Strip ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กำลังเติบโตในมาเก๊า โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมทันสมัย มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น โรงแรม คาสิโน ร้านค้า ศิลปะ และโรงละคร มีจุดเด่นคือ The Spectacle ซึ่งเป็นพื้นที่แสดงศิลปะและมัลติมีเดีย

 

ตลาดเป้าหมาย MGM China มุ่งเน้นดึงดูดลูกค้ากลุ่มวีไอพี (VIP) และกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียม (Premium Mass) มีความเชี่ยวชาญในการจัดกิจกรรมบันเทิง เช่น การแสดงสด นิทรรศการศิลปะ และงานเลี้ยงระดับไฮเอนด์

 

MGM China ได้รับการสนับสนุนด้านเงินทุน เทคโนโลยี และความเชี่ยวชาญจากบริษัทแม่ในสหรัฐอเมริกาคือ MGM Resorts International ผู้ถือหุ้นใหญ่ใน MGM China ราว 55%

 

บทบาทในมาเก๊า

MGM China เป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญที่ช่วยสร้างความเจริญในอุตสาหกรรมกาสิโนของมาเก๊า โดยเน้นการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติและพัฒนาโครงการที่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของตลาด บริษัทนี้ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคเอเชีย และคาดว่าจะมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมเกมและความบันเทิงในอนาคต

 

Hard Rock Casino & Resort Hollywood (ฟลอริดา)

 

5. Hard Rock International (HRI) เป็นบริษัทด้านความบันเทิง การบริการ และร้านอาหารระดับโลกที่มีชื่อเสียงจากธีมดนตรีร็อกและการออกแบบที่โดดเด่น บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 1971 โดยสองชาวอเมริกัน Isaac Tigrett และ Peter Morton โดยร้านแรกเปิดในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

 

ปัจจุบัน Hard Rock International เป็นบริษัทในเครือของ The Seminole Tribe of Florida ตั้งแต่ปี 2007 โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมือง Davie รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา มีโรงแรมและคาสิโนในกว่า 70 ประเทศ และมีร้านอาหารกว่า 180 แห่ง ทั่วโลก  และกำลังขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น มาเลเซีย และไทย โดยเน้นการผสมผสานระหว่างดนตรีและวัฒนธรรมท้องถิ่น

 

Hard Rock International ไม่ได้เป็นเพียงธุรกิจด้านการบริการ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมดนตรีที่ผสานความหรูหราและความบันเทิง บริษัทนี้ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องในตลาดโลก พร้อมสร้างประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครให้กับลูกค้าทุกที่

 

Hard Rock International ดำเนินธุรกิจใน 3 ส่วนหลักคือ

- โรงแรมและรีสอร์ท (Hard Rock Hotels & Resorts): ให้บริการที่พักสุดหรูในธีมดนตรี พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่เน้นดนตรี เช่น กีตาร์ในห้องพักและกิจกรรมดนตรีสด

- กาสิโน (Hard Rock Casinos): มีคาสิโนในหลายประเทศ รวมถึงสหรัฐอเมริกา แคนาดา และเอเชีย

- ร้านอาหาร (Hard Rock Cafes): ร้านอาหารที่มีธีมดนตรีร็อกและเมนูอาหารนานาชาติ

 

Hard Rock เป็นที่รู้จักจาก “Rock and Roll Memorabilia” ซึ่งเป็นของสะสมทางดนตรี เช่น เสื้อผ้า กีตาร์ และเครื่องดนตรีของศิลปินชื่อดัง โลโก้กีตาร์ไฟฟ้า และธีมดนตรีเป็นเอกลักษณ์ในทุกสถานที่

 

Hard Rock Hotel Maldives (มัลดีฟส์)

 

โรงแรมและกาสิโนที่มีชื่อเสียง

Hard Rock Hotel & Casino Atlantic City (สหรัฐอเมริกา) ตั้งอยู่ในเมืองแอตแลนติกซิตี เปิดให้บริการในปี 2018 มีคาสิโนขนาดใหญ่ โรงแรม สปา และสถานที่จัดแสดงดนตรี

Hard Rock Hotel & Casino Punta Cana (สาธารณรัฐโดมินิกัน) รีสอร์ทหรูพร้อมคาสิโนที่ติดทะเลแคริบเบียน

Hard Rock Hotel London (อังกฤษ) ตั้งอยู่ใกล้กับ Hyde Park ในลอนดอน

Hard Rock Hotel Maldives (มัลดีฟส์) รีสอร์ทสุดหรูที่รวมความเงียบสงบของมัลดีฟส์กับธีมดนตรี

Hard Rock Casino & Resort Hollywood (ฟลอริดา) มีอาคารโรงแรมรูปทรงกีตาร์ขนาดใหญ่ เป็นหนึ่งในสถานที่ที่โดดเด่นที่สุดของบริษัท

 

ภายใต้โครงการ “Save the Planet” Hard Rock ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน เช่น การลดการใช้พลาสติกและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ส่งเสริมกิจกรรมเพื่อสังคม เช่น โครงการเพื่อการศึกษาและศิลปะ

 

Melco Resorts & Entertainment หนึ่งในบริษัทรีสอร์ทและคาสิโนหรูชั้นนำในเอเชีย

เปิด 6 กลุ่มทุนยักษ์ใหญ่กาสิโนโลก ปั้น \"เอ็นเตอร์เทนเม้นต์คอมเพล็กซ์” ไทย

 

6. Melco Resorts & Entertainment เป็นหนึ่งในบริษัทรีสอร์ทและกาสิโนหรูชั้นนำในเอเชียที่มีชื่อเสียงระดับโลก ก่อตั้งขึ้นในปี 2004 โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในฮ่องกง บริษัทนี้มุ่งเน้นการสร้างรีสอร์ทแบบครบวงจร (Integrated Resorts) โดยผสมผสานความหรูหรา ความบันเทิง และเกมกาสิโน

 

เป็นที่รู้จักจากการดำเนินโครงการขนาดใหญ่ใน มาเก๊า, ฟิลิปปินส์, และ ไซปรัส โดยมุ่งเน้นการดึงดูดกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์และนักท่องเที่ยวต่างชาติ

 

Melco Resorts & Entertainment เป็นหนึ่งในผู้นำด้านรีสอร์ทและกาสิโนที่มีอิทธิพลสูงในตลาดเอเชีย โดยเน้นการผสมผสานระหว่างความบันเทิง ศิลปะ และวัฒนธรรม สร้างความแตกต่างด้วยนวัตกรรมและการบริการที่เหนือระดับ

 

Melco ดำเนินธุรกิจใน 3 ด้านหลักคือ การให้บริการเกมและกาสิโนระดับโลกมีทั้งสล็อตแมชชีนและเกมโต๊ะ โรงแรมและรีสอร์ทหรู โดดเด่นด้วยการพัฒนาที่พักที่มีดีไซน์ล้ำสมัยและบริการระดับพรีเมียม และธุรกิจบันเทิงและการจัดงาน มีทั้งโรงละคร การแสดงสด และกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่างๆ 

 

Studio City (มาเก๊า) รีสอร์ทในธีมฮอลลีวูด

 

ทรัพย์สินสำคัญ

City of Dreams Macau (มาเก๊า) รีสอร์ทครบวงจรที่ตั้งอยู่บน Cotai Strip มีโรงแรมหรู เช่น Morpheus (ดีไซน์โดย Zaha Hadid) ประกอบด้วยคาสิโน โรงแรม แหล่งช้อปปิ้ง และการแสดงระดับโลก เช่น The House of Dancing Water

Studio City (มาเก๊า) รีสอร์ทในธีมฮอลลีวูด พร้อมคาสิโน โรงแรม และสถานที่บันเทิง เช่น โรงภาพยนตร์และสวนน้ำ

Altira Macau โรงแรมและคาสิโนระดับหรูใน Taipa, มาเก๊า เน้นบริการส่วนตัวสำหรับกลุ่มลูกค้าพิเศษ

City of Dreams Manila (ฟิลิปปินส์) รีสอร์ทแบบครบวงจรที่มีคาสิโน โรงแรม ร้านอาหาร และไนต์คลับ

City of Dreams Mediterranean (ไซปรัส) (โครงการล่าสุด) รีสอร์ทครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป เปิดในปี 2023 มุ่งเน้นดึงดูดนักท่องเที่ยวในภูมิภาคยุโรปและตะวันออกกลาง

 

City of Dreams Mediterranean

 

การออกแบบที่ล้ำสมัย

Melco เป็นที่รู้จักในด้านการลงทุนในสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นและล้ำสมัย เช่น Morpheus Hotel มุ่งเน้นลูกค้าระดับพรีเมียม ให้บริการที่เน้นความเป็นส่วนตัวและประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร บันเทิงครบวงจรด้วยการจัดการแสดงและกิจกรรมความบันเทิงที่ผสมผสานวัฒนธรรมและเทคโนโลยี

 

Melco ยังคงมุ่งเน้นขยายตัวในเอเชีย โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่นและเวียดนาม ส่วนตลาดยุโรปและตะวันออกกลาง ได้ล่าสุดมีการเปิดตัว City of Dreams Mediterranean เป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าสู่ตลาดใหม่

 

Melco มีโครงการด้านความยั่งยืน เช่น  “Above & Beyond”: การลดคาร์บอนและขยะในรีสอร์ท สนับสนุนโครงการเพื่อการศึกษาและการจ้างงานในพื้นที่ที่ดำเนินธุรกิจ