หมดยุคหน้ากากอนามัย เพราะโลกมีหน้ากากล่องหน!
วันนี้เราจะพาท่านผู้อ่านไปรู้จักหน้ากากล่องหน แก้ปัญหาพูดคุยยาก หายใจลำบาก และแว่นขึ้นฝ้าแบบเดิมๆ จนเราไม่ต้องหันไปหาหน้ากากอนามัยอีกต่อไป
หน้ากากอนามัย อุปกรณ์ป้องกันเชื้อโรคที่มีการใช้งานแพร่หลายช่วงโควิด ปัจจุบันการใช้งานในสังคมเริ่มบางตากลับไปจำกัดอยู่ในกลุ่มงานสาธารณสุขตามเดิม เนื่องจากการผลัดเปลี่ยนเป็นโรคประจำถิ่น อีกทั้งการสวมใส่หน้ากากอนามัยยังให้ความรู้สึกอึดอัดหายใจไม่สะดวกจนหลายคนต่างขยาด
แต่จะเป็นอย่างไรเมื่อมีการคิดค้นอุปกรณ์ช่วยป้องกันเชื้อได้โดยที่เราไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัยสักชิ้น
ม่านอากาศ ทางเลือกใหม่ในการป้องกันโรค
ผลงานนี้เป็นของบริษัท Taza Aya สตาร์ทอัพจาก University of Michigan กับการพัฒนาระบบในการสร้างม่านอากาศ ที่มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อไวรัสและจุลินทรีย์ทุกชนิดที่เข้ามาสัมผัส ช่วยป้องกันให้ผู้ใช้งานไม่ต้องสัมผัสกับเชื้อโรคที่แพร่กระจายทางอากาศ
ตัวอุปกรณ์ประกอบด้วยหมวกนิรภัยซึ่งมีการติดตั้งหัวฉีดแรงดันลมในบริเวณปีกหมวกใกล้กับใบหน้า พร้อมเป้สะพายหลังที่มีการติดตั้งอุปกรณ์หลายชนิด ทั้งระบบหมุนเวียนอากาศ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนแบตเตอรี่ ทำให้เป้มีน้ำหนักอยู่ที่ 4.5 กิโลกรัม
หลักการทำงานของอุปกรณ์นี้อาศัยม่านอากาศ การสร้างกำแพงลมในการลดการแลกเปลี่ยนอากาศในสองพื้นที่ เพื่อป้องกันการไหลเข้ามาของละอองเชื้อโรคในอากาศ เสริมด้วย Non-Thermal Plasma การฆ่าเชื้อผ่านสนามแม่เหล็กไฟฟ้าเฉพาะ ที่สามารถฆ่าเชื้อได้โดยไม่ต้องสร้างความร้อน
จุดเด่นของวิธีนี้คือสามารถใช้กรองและฆ่าเชื้อในอากาศโดยไม่มีอันตรายต่อมนุษย์ อากาศจะถูกดูดเข้าไปทางท้ายเป้แล้วนำไปไหลเวียนผ่านสนามไฟฟ้า จากนั้นจึงฉีดพ่นออกมาจากท่อที่เชื่อมกับหมวกนิรภัย ช่วยป้องกันเชื้อโรคและละอองในอากาศ โดยสามารถขจัดเชื้อโรคที่มีโอกาสสัมผัสต่อผู้ใช้งานได้มากถึง 99.8%
ถือเป็นทางเลือกป้องกันการติดเชื้อที่ช่วยให้เราไม่ต้องพึ่งหน้ากากอนามัย
สู่อนาคตที่เราอาจไม่ต้องใช้หน้ากากอนามัย
เทคโนโลยีม่านอากาศฟังดูเป็นเรื่องน่าปวดหัวแต่อันที่จริงมีการใช้งานอยู่ทั่วไป พบเห็นได้ตามประตูทางเข้าสถานที่ต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน โรงงาน ร้านอาหาร ห้องเย็น โรงพยาบาล ไปจนห้องปฏิบัติการต่างๆ ด้วยจุดเด่นในการป้องกันกลิ่น ฝุ่นควัน ไปจนเชื้อโรคต่างๆ
ม่านอากาศนี้ได้รับการทดสอบใช้งานในโรงงานแปรรูปสัตว์ปีกของ Michigan Turkey Producers จากกลุ่มคนงานหลายร้อยคนที่ต้องสัมผัสซากสัตว์ปีกจำนวนมาก จัดเป็นกลุ่มบุคคลที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อ แต่อุปกรณ์นี้ช่วยลดโอกาสสัมผัสเชื้อโรคและเจ็บป่วยจากโรคติดต่อโดยไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัย
จุดเด่นของอุปกรณ์นี้คือ คุณสมบัติในการฆ่าเชื้อสูงถึง 99.8% ที่ช่วยป้องกันละอองฝอยและเชื้อโรคที่ฟุ้งกระจายในอากาศ ป้องกันการติดเชื้อทางอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่จำเป็นต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยหรืออุปกรณ์ป้องกันโรคอื่นเพิ่มเติม เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อหลายภาคส่วนโดยเฉพาะภายในโรงงานขนาดใหญ่
ในช่วงการระบาดของโควิดหน้ากากอนามัยเป็นตัวเลือกความปลอดภัยที่ช่วยป้องกันชีวิต แต่เราทราบดีว่าเมื่อสวมหน้ากากการพูดคุยสื่อสารทำได้ยากขึ้น การหายใจผ่านหน้ากากเป็นเรื่องลำบาก แว่นที่สวมใส่มักเป็นฝ้าอยู่เสมอ อีกทั้งเรายังไม่สามารถสวมใส่ได้ตลอดวัน เมื่อถึงเวลาดื่มน้ำทานอาหารก็ต้องถอดออก
แต่เมื่อนำเทคโนโลยีนี้มาทดแทนจะช่วยแก้ปัญหาทั้งหมดโดยสิ้นเชิง เนื่องจากไม่ต้องสวมสิ่งปิดบังใบหน้าอีกต่อไป
หน้ากากล่องหนนี้จึงเป็นเทคโนโลยีที่มีประโยชน์เป็นอย่างยิ่งในการกักกันควบคุมโรค ปกป้องชีวิตผู้ใช้งานจากโรคภัย ป้องกันอันตรายจากการปฏิบัติหน้าที่ ลดอัตราใช้หน้ากากอนามัยจนประสบปัญหาขาดแคลน ไปจนเพิ่มความมั่นคงให้แก่โรงงานภาคการเกษตรและปศุสัตว์ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความมั่นคงทางอาหาร
ปัจจุบันอุปกรณ์นี้เป็นเพียงตัวต้นแบบ ทางผู้พัฒนาตั้งใจจะย่อขนาดอุปกร์ให้เล็กลงและคาดว่าจะเปิดตัวที่จะวางจำหน่ายเชิงพาณิชย์ได้ภายในปี 2025
ที่มา