เปิดสถิติคนไทยเสียชีวิตด้วย 'โรคหลอดเลือดสมอง' วันละ 100 คน และอายุน้อยลง!
สถานการณ์โรคหลอดเลือดสมองเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องจับตามอง หลังพบจำนวนผู้เสียชีวิตพุ่งสูงในรอบ 4 ปี โดยมีการเก็บสถิติจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 2567 แล้วกว่า 35,116 ราย คิดเฉลี่ยวันละ 100 คนและพบมากขึ้นในกลุ่มคนที่อายุ 18-39 ปี พร้อมเผยปัจจัยเสี่ยงและวิธีสังเกตอาการ
จากรายงานภาวะสังคมไทยไตรมาส 2 ของสภาพัฒน์ ได้มีการระบุถึงปัญหาทางด้านสุขภาพที่ประเทศไทยควรให้ความสำคัญ โดยมีประเด็นเรื่อง 'การเสียชีวิตของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง' ที่เพิ่มสูงขึ้นในไทย
โดยสถิติองค์การโรคหลอดเลือดสมองโลก (World Stroke Organization: WSO) รายงานว่าปัจจุบันพบผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองทั่วโลกมากกว่า 101 ล้านราย เสียชีวิตประมาณ 6.5 ล้านรายต่อปี
สำหรับประเทศไทย ในแต่ละปีจะมีผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตเป็นอันดับ 2 รองจากโรคมะเร็ง
จากข้อมูล Health Data Center ของกระทรวงสาธารณสุข ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (1 ตุลาคม 2566 – 1 สิงหาคม 2567) พบว่า คนไทยป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมอง 355,213 ราย เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ที่มีผู้ป่วย 350,934 ราย และจำนวนผู้เสียชีวิตด้วยโรคหลอดเลือดสมองในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 มีจำนวน 47,275 ราย เพิ่มขึ้นมากสุดในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา (ปี 2563 - 2566)
สำหรับในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (1 ตุลาคม 2566 – 1 สิงหาคม 2567) พบผู้เสียชีวิตแล้ว 35,116 ราย (เฉลี่ยวันละ 100 คน ) ซึ่งในกลุ่มอายุ 18 – 39 ปี มีจำนวนผู้ป่วยขยายตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุด
- สาเหตุและปัจจัยการเกิดโรค
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง ได้แก่ ความดันโลหิตสูง การออกกำลังกายไม่เพียงพอ การบริโภคอาหารไม่เหมาะสม ไขมันในเลือดสูง การสูบบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ภาวะโรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคอ้วน และภาวะเครียด
สำหรับโรคหลอดเลือดสมองนั้นเป็นหนึ่งในกลุ่มโรค NCDs หรือกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ซึ่งเกิดจากพฤติกรรมและการดำเนินชีวิต จนทำให้เกิดการสะสมของอาการและโรคตามมา และเมื่อเป็นก็จะมีอาการเรื้อรังรักษาให้หายได้ยาก โดย NCDs นั้นจัดว่าเป็นปัญหาสุขภาพอันดับหนึ่งของโลกทั้งในมิติของจำนวนการเสียชีวิตและภาระโรคโดยรวม และผู้ที่เป็นโรค NCDs นั้นมักจะเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดกว่าร้อยละ 44 เลยทีเดียว ซึ่งในแต่ละปีพบผู้เสียชีวิตจากโรค NCDs ในกลุ่มอายุ 30-69 ปี หรือเรียกว่า “การเสียชีวิตก่อนวัยอันควร” มากถึง 15 ล้านคน โดยมีคนไทยป่วยด้วยโรค NCDs ถึง 14 ล้านคน เสียชีวิตกว่า 300,000 คนต่อปี และคาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นในทุกๆ ปี ซึ่งส่วนใหญ่เสียชีวิตก่อนอายุ 60 ปี และผู้ที่ป่วยเป็นโรค NCDs จะเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมองมากที่สุด ราวร้อยละ 11
ส่วนกลุ่มโรคใน NCDs ที่มีอัตราผู้ป่วยและเสียชีวิตสูงสุด ได้แก่
- โรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ เกิดจากการกินอาหารไขมันสูงมากเกินไป ไขมันจะไปเกาะอยู่ตามผนังหลอดเลือดต่างๆ ในร่างกาย ทำให้หลอดเลือดอุดตัน เลือดไม่สามารถไหลเวียนได้สะดวก เสี่ยงต่อการเกิดหัวใจล้มเหลวหรือหลอดเลือดสมองแตก ตีบ ตัน หรืออัมพฤกษ์ อัมพาตได้
- โรคมะเร็ง เกิดจากเซลล์ในร่างกายแตกตัวผิดปกติ เกิดเป็นเซลล์มะเร็งตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย หากตรวจพบและได้รับการรักษาล่าช้า จะส่งผลให้ผู้ป่วยเสียชีวิตในที่สุด
- โรคอ้วนลงพุง เกิดจากมีพฤติกรรมการกินมากกว่าการเผาผลาญออก ไขมันส่วนเกินไปสะสมอยู่ในส่วนต่างๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะในช่องท้อง เป็นสาเหตุให้เกิดโรคต่างๆ ตามมามากมาย เช่น ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดสมองแตก ไตวาย เป็นต้น
ซึ่งอาการเจ็บป่วยของโรคในกลุ่มนี้จะมีความเชื่อมโยงและเกี่ยวข้องกัน เช่น ผู้ที่โรคอ้วน หรือเบาหวานก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจได้ เป็นต้น
- สังเกตอาการตนเองตามหลักการ B.E.F.A.S.T
วิธีสังเกตอาการหากสงสัยว่าเราจะป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมองหรือไม่ จะเรียกว่า หลักการ B.E.F.A.S.T เพื่อให้จำได้ง่าย ได้แก่
B (Balance) เดินเซ เวียนศีรษะบ้านหมุนฉับพลัน
E (Eye) ตามัว มองเห็นภาพซ้อนฉับพลัน
F (Face) ปากเบี้ยว หน้าเบี้ยวเฉียบพลัน
A (Arm) แขน ขา อ่อนแรงหรือชาครึ่งซีก
S (Speech) พูดไม่ชัด เสียงเปลี่ยน ลิ้นแข็ง พูดไม่รู้เรื่อง พูดไม่ออกทันทีทันใด
T (Time) หากมีอาการให้รีบพาผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว หากไปพบแพทย์ช้า อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตหรืออาจจะกลายเป็นโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต ทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้