ไทยเสี่ยงขาดแคลนบุคลากรพลังงานนิวเคลียร์ปี 2580 หากไม่พัฒนา
ไทยอาจเผชิญปัญหาขาดแคลนบุคลากรด้านพลังงานนิวเคลียร์ภายในปี 2580 หากไม่เร่งพัฒนาฝึกอบรม เพิ่มหลักสูตรเฉพาะทาง เทียบกับเวียดนามและอินโดนีเซียที่รุกพัฒนาต่อเนื่อง
ประเทศไทยอาจเผชิญกับปัญหาขาดแคลนบุคลากรด้านพลังงานนิวเคลียร์ภายในปี 2580 หากไม่มีการเร่งพัฒนาโครงการฝึกอบรมและหลักสูตรเฉพาะทาง เพื่อเตรียมบุคลากรให้พร้อมรองรับอุตสาหกรรมพลังงานนิวเคลียร์ที่กำลังจะมาถึง ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนามและอินโดนีเซียได้เดินหน้าสร้างบุคลากรในสาขานี้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นความท้าทายที่ประเทศไทยต้องเผชิญโดยเร่งด่วน
รศ.ดร.สมบูรณ์ รัศมี หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมนิวเคลียร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวในงาน Roundtable "SMR ทางเลือก ทางรอด Green Energy" ซึ่งจัดโดย "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า การเตรียมบุคลากรสำหรับอุตสาหกรรมไฟฟ้านิวเคลียร์เป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนอนาคตพลังงานไทย โดยเฉพาะการพัฒนาอุตสาหกรรมไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ยังคงเป็นความท้าทายสำหรับประเทศไทย
รศ.ดร.สมบูรณ์ รัศมี หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมนิวเคลียร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ความสำคัญของบุคลากรในอุตสาหกรรมไฟฟ้านิวเคลียร์
แม้ว่าพลังงานนิวเคลียร์ไม่ใช่เรื่องใหม่ในระดับโลก แต่สำหรับประเทศไทย การพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมนี้ยังคงเป็นเรื่องท้าทายที่ต้องให้ความสำคัญเป็นลำดับแรก แม้ว่าในบางประเทศเพื่อนบ้านได้เริ่มศึกษาและพัฒนาโครงการพลังงานนิวเคลียร์แล้ว แต่ประเทศไทยมีประสบการณ์และองค์ความรู้ในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตคือการขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะและประสบการณ์เพียงพอ ซึ่งอาจทำให้ไม่สามารถรองรับอุตสาหกรรมนี้ได้ภายในปี 2580
การพัฒนาโครงการนิวเคลียร์และผลกระทบ
ในอดีต โครงการพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์ของไทยมีความคืบหน้าเป็นระยะ แต่ต้องเผชิญกับอุปสรรคและการหยุดชะงักในบางช่วง โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายในปี 2550 ที่ส่งผลให้เกิดการทบทวนแนวทางการพัฒนาโครงการพลังงานนิวเคลียร์ใหม่ทั้งหมด หลังจากนั้นจึงมีความพยายามในการปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยและพัฒนาแนวทางการเตรียมบุคลากร โดยเน้นที่การพัฒนาระดับปริญญาโทในสาขารังสีและการใช้งานด้านนิวเคลียร์
โครงการฝึกอบรมและการพัฒนาบุคลากรด้านวิศวกรรมนิวเคลียร์
ประเทศไทยได้ดำเนินโครงการฝึกอบรมบุคลากรด้านวิศวกรรมนิวเคลียร์ในระดับปริญญาตรีมาแล้วประมาณ 4-5 ปี แต่ยังต้องดำเนินการพัฒนาต่อไปอีกอย่างน้อย 13 ปี เพื่อให้มั่นใจว่ามีบุคลากรที่มีคุณภาพเพียงพอ ซึ่งเมื่อเทียบกับจีนที่เริ่มดำเนินโครงการในปี 2523 และพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นผู้นำด้านพลังงานนิวเคลียร์ของโลก
การพัฒนาเทคโนโลยีควบคู่กับบุคลากร
การพัฒนาอุตสาหกรรมไฟฟ้านิวเคลียร์ไม่สามารถพึ่งพาแค่เทคโนโลยีหรือการลดต้นทุนได้ ต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรในอันดับแรก ภาครัฐต้องมีบทบาทสำคัญในการผลักดัน โดยสร้างองค์ความรู้ที่ลึกซึ้งและพัฒนาระบบการศึกษาที่เอื้อต่อการพัฒนาเทคโนโลยีนิวเคลียร์ พร้อมกับออกแบบและประเมินความปลอดภัยของเทคโนโลยีอย่างรอบด้าน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน
ยกระดับบุคลากรและสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคม
บุคลากรที่มีความรู้และทักษะด้านนิวเคลียร์เป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จของโครงการพลังงานนิวเคลียร์ของไทย การพัฒนาและฝึกอบรมบุคลากรต้องดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าอุตสาหกรรมนี้สามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย การสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนผ่านการวิจัยและการสื่อสารข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนจึงเป็นเรื่องสำคัญ
สถานะของประเทศไทยในการเตรียมพร้อมด้านพลังงานนิวเคลียร์
ปัจจุบันประเทศไทยยังคงเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนบุคลากรด้านพลังงานนิวเคลียร์เมื่อเทียบกับประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งมีบุคลากรที่เชี่ยวชาญจำนวนมาก ทำให้ประเทศไทยต้องเร่งพัฒนาโครงการฝึกอบรมและเตรียมความพร้อมให้มากขึ้น
ความท้าทายในอีก 13 ปีข้างหน้า
ในอีก 13 ปีข้างหน้า เทคโนโลยีนิวเคลียร์อาจมีการพัฒนาไปไกลกว่าปัจจุบัน ซึ่งการแข่งขันในระดับนานาชาติที่สูงขึ้นอาจทำให้การเตรียมความพร้อมภายใน 13 ปีไม่เพียงพอ ไทยต้องดำเนินการพัฒนาหลักสูตรและการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ รวมถึงการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้กับนานาชาติให้เร็วที่สุด
บทเรียนจากเวียดนาม การพัฒนาอย่างรวดเร็วที่ไทยต้องจับตา
เวียดนามได้ให้ความสำคัญกับพลังงานนิวเคลียร์อย่างมาก ปัจจุบันมีภาควิชาวิศวกรรมนิวเคลียร์ถึง 3 แห่ง ในขณะที่ไทยมีเพียงแห่งเดียว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อศักยภาพการแข่งขันของไทยในอนาคต หากไม่มีการเร่งพัฒนาและขยายขีดความสามารถของบุคลากรให้ทันต่อความต้องการของอุตสาหกรรม
ความสำคัญของความปลอดภัยในอุตสาหกรรมนิวเคลียร์
ความปลอดภัยเป็นหัวใจสำคัญในอุตสาหกรรมไฟฟ้านิวเคลียร์ ครอบคลุมตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ การก่อสร้าง การดำเนินงาน ไปจนถึงการจัดการเชื้อเพลิงใช้แล้วและของเสียอันตราย ทุกกระบวนการต้องมีการกำกับดูแลอย่างเข้มงวด เพื่อรับประกันความปลอดภัยและไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
การจัดการเชื้อเพลิงนิวเคลียร์และของเสีย ความท้าทายที่ต้องวางแผนระยะยาว
การใช้พลังงานนิวเคลียร์ต้องการการจัดการเชื้อเพลิงใช้แล้วและของเสียอันตรายอย่างปลอดภัย ด้วยการควบคุมการปลดปล่อยรังสีและป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การตรวจสอบและเปรียบเทียบมาตรฐานการกำจัดขยะสีของไทยกับประเทศที่มีมาตรฐานสูงอย่างสหรัฐอเมริกาและฝรั่งเศส เป็นวิธีหนึ่งในการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน
พลังงานนิวเคลียร์สามารถเป็นโอกาสที่จะช่วยเพิ่มความมั่นคงทางพลังงานของไทย แต่การที่จะเดินไปสู่จุดนั้นได้ต้องเริ่มต้นจากการเตรียมความพร้อมบุคลากรอย่างจริงจังและเป็นระบบ เพื่อให้ประเทศไทยสามารถก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมนี้ได้อย่างมั่นคงและปลอดภัย