โปรตีนทางเลือก ทางออกใหม่ ลด PM 2.5 จากอุตสาหกรรมปศุสัตว์

23 มีนาคม 2568

งานวิจัยชี้ “โปรตีนทางเลือก” ทางออกใหม่ ลดมลพิษฝุ่น PM2.5 จากอุตสาหกรรมปศุสัตว์ และหลีกเลี่ยงการเสียชีวิตได้กว่า 100,000 ราย

งานวิจัยล่าสุดจาก Madre Brava เรื่อง “อุตสาหกรรมปศุสัตว์กับ PM2.5: ตัดไฟแต่ต้นลมด้วยการผลิตโปรตีนที่หลากหลาย” ที่จัดทำร่วมกับ Asia Research and Engagement พบว่า

 

การเผาเพื่อการเกษตรอาจเป็นสาเหตุให้เกิดการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรในประเทศไทยมากกว่า 34,000 รายต่อปี 

 

และหากอุตสาหกรรมนี้เติบโตตามที่คาดการณ์ไว้ จำนวนผู้เสียชีวิตก่อนวัยอันควรที่เกี่ยวข้องกับการเผาตอซังข้าวโพดเพียงเลี้ยงสัตว์อย่างเดียวอาจสูงถึง 361,000 ราย ในช่วงระหว่างปี 2020 ถึง 2050 

 

แต่หากไทยเริ่มสร้างความหลากหลายของแหล่งโปรตีนจะสามารถลดอัตราการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรจากการเผาตอซังข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้มากกว่า 100,000 รายภายในปี 2050

 

โปรตีนทางเลือก ทางออกใหม่ ลด PM 2.5 จากอุตสาหกรรมปศุสัตว์

วิชญะภัทร์ ภิรมย์ศานต์ ผู้อำนวยการ Madre Brava ระบุว่า รายงานฉบับนี้เผยให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างการผลิตเนื้อสัตว์และอาหารทะเลกับปัญหามลพิษฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ซึ่งมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสุขภาพของประชาชนไทย

 

โดยแหล่งกำเนิดหนึ่งของฝุ่นละอองขนาดเล็กนี้มาจากกระบวนการผลิตอาหารสัตว์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมปศุสัตว์ที่มีความต้องการสูงในตลาดทั้งในและต่างประเทศ

 

“รายงานฉบับนี้เน้นการศึกษาถึงผลกระทบที่รุนแรงของการเกษตรปศุสัตว์ โดยเฉพาะการเผาตอซังข้าวโพดที่ปลูกเพื่อผลิตอาหารสัตว์ ซึ่งส่งผลต่อการเพิ่มระดับมลพิษทางอากาศในประเทศ โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้งที่มีการเผาข้าวโพดจำนวนมากเพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการเพาะปลูกใหม่”

 

ผลจากเผาตอซังข้าวโพด ทำคนเสียชีวิต 1.2 หมื่นราย
 

ผลกระทบจากการเผาตอซังข้าวโพดที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตก่อนวัยอันควรถึงปีละ 12,000 ราย ระหว่าง 2020-2050 ซึ่งเกือบเทียบเท่ากับจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจักรยานยนต์ในประเทศไทยในปี 2021 

 

โดยเสนอให้ประเทศไทยเริ่มสร้างความหลากหลายของแหล่งโปรตีน โดยให้โปรตีนจากพืชทดแทนโปรตีนจากสัตว์ให้ได้ 50% ภายในปี 2050

 

ซึ่งหากทำได้ จะช่วยลดการผลิตเนื้อสัตว์และอาหารทะเลลง และลดความต้องการข้าวโพดในการผลิตอาหารสัตว์ ส่งผลให้สามารถลดอัตราการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรจากการเผาตอซังได้มากกว่า 100,000 ราย

 

ลดการผลิตเนื้อสัตว์ช่วยลด PM2.5 ได้อย่างไร

 

ผู้อำนวยการ Madre Brava ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า รายงานฉบับนี้พบว่า การเผาตอซังพืชในช่วงฤดูแล้ง (ธันวาคมถึงเมษายน) เป็นสาเหตุหนึ่งของฝุ่น PM2.5

 

เนื่องจากความชื้นต่ำทำให้ฝุ่นสะสมในอากาศ ปรากฏการณ์อุณหภูมิผกผันและภูมิประเทศที่เป็นหุบเขาทำให้การไหลเวียนของอากาศไม่ดี 

 

ส่งผลให้ PM2.5 ไม่สามารถกระจายตัวได้ การบุกรุกพื้นที่ป่าและการขาดการจัดการที่เหมาะสมทำให้ไฟจากการเผาตอซังอาจลุกลามสู่พื้นที่ป่าได้ และยังมีผลกระทบจากการเผาตอซังข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศเพื่อนบ้านที่ทำให้ PM2.5 ลอยข้ามพรมแดนเข้าสู่ประเทศไทยด้วย

 

แม้จะมีความพยายามในการจำกัดการเผาตอซังพืชเพื่อลดมลพิษ PM2.5 แต่ปัญหายังคงมีอยู่และไม่สามารถแก้ไขได้อย่างยั่งยืน รายงานนี้เสนอแนวทางในการแก้ปัญหาด้วยการลดความต้องการอาหารสัตว์และเพิ่มการใช้โปรตีนจากพืช 

 

ซึ่งสามารถช่วยลดผู้เสียชีวิตจากมลพิษ PM2.5 ได้มากกว่า 100,000 รายภายในปี 2050 หากสามารถเพิ่มการผลิตโปรตีนจากพืชมาทดแทนโปรตีนจากสัตว์ 50% ทั้งการบริโภคในประเทศและส่งออก 

 

นอกจากนี้ ยังสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ 1.3 ล้านล้านบาท สร้างงาน 1.15 ล้านตำแหน่ง และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 35.5 ล้านเมตริกตันต่อปี

 

เพิ่มโปรตีนจากพืช ลดฝุ่น PM2.5 

 

จากข้อสรุปในงานวิจัยฉบับนี้ ทาง  Madre Brava ได้เสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหามลพิษ PM2.5 และส่งเสริมความยั่งยืนทางอาหาร

 

โดยแนะนำให้ภาครัฐส่งเสริมการบริโภคอาหารที่ดีต่อสุขภาพและยั่งยืนมากขึ้น เช่น การให้มาตรการจูงใจทางการเงินเพื่อทำให้ผลิตภัณฑ์โปรตีนจากพืชมีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น 

 

รวมถึงการนำเมนูอาหารเน้นพืชมาใช้ในงานและการประชุมของภาครัฐ รวมถึงโรงเรียนและโรงพยาบาล เพื่อแบบอย่างให้ประชาชนหันมาบริโภคโปรตีนจากพืชมากขึ้น

 

รายงานยังเสนอให้ภาคธุรกิจผู้ค้าปลีกและธุรกิจบริการอาหารกำหนดเป้าหมายเพิ่มยอดขายของโปรตีนจากพืช โดยลดราคาผลิตภัณฑ์เหล่านี้ให้สามารถแข่งขันกับโปรตีนจากสัตว์ 

 

พร้อมทั้งจัดวางผลิตภัณฑ์โปรตีนจากพืชให้เด่นชัด และให้ข้อมูลเกี่ยวกับคุณค่าทางโภชนาการและประโยชน์ต่อสุขภาพ 

 

นอกจากนี้ยังแนะนำให้ผู้ผลิตเนื้อสัตว์และอาหารทะเลลงทุนในการวิจัยและพัฒนาโปรตีนทางเลือกที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและราคาเข้าถึงได้ง่าย เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนและลดการปล่อยมลพิษจากอุตสาหกรรมปศุสัตว์ในระยะยาว

 

การสร้างความหลากหลายของแหล่งโปรตีนในประเทศไทยไม่เพียงแต่จะช่วยลดมลพิษ PM2.5 แต่ยังเป็นโอกาสในการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน เพิ่มงาน สร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาวด้วย

 

ลดพื้นที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์อีกหนึ่งทางออกสู่การลดฝุ่น PM2.5

 

การเผาตอซังข้าวโพดจากการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ยังคงเป็นปัญหาสำคัญในประเทศไทย แม้จะมีการห้ามเผาในกฎหมาย แต่การบังคับใช้กฎหมายไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

 

โดยการเผาตอซังพืชยังคงเกิดขึ้นอย่างแพร่หลาย ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของฝุ่น PM2.5 ในภาคเหนือ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เชียงใหม่ ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนัก

 

และบางช่วงมีระดับมิลพิษจากฝุ่นละอองขนาดเล็กสูงติดอันดับโลก การพยายามจับกุมผู้กระทำผิดตามแนวทาง Zero Burning ยังไม่สามารถยุติปัญหานี้ได้ และในบางครั้งทำให้เกิดการลักลอบเผามากขึ้น

 

สภาลมหายใจเชียงใหม่ ขอให้อำนาจกับท้องถิ่นจัดการลักลอบเผา

 

สุรีรัตน์ ตรีมรรคา รองประธานสภาลมหายใจเชียงใหม่ ซึ่งเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนเรื่องการแก้ปัญหาไฟป่าและฝุ่น PM2.5 ในภาคเหนือ ระบุว่า การลดการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นแนวทางที่ถูกต้องและยั่งยืน แต่ต้องมีการวางแผนและการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน 

 

การปลูกข้าวโพดในพื้นที่ป่าหรืออุทยานฯ เป็นปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไข โดยต้องมีการจัดการสิทธิที่ดินและการสนับสนุนจากภาครัฐ เพื่อให้เกษตรกรสามารถปรับเปลี่ยนวิธีการผลิตได้อย่างยั่งยืน

 

"ข้อเรียกร้องของเราคือให้อำนาจกับท้องถิ่นในการจัดการและลดไฟลักลอบเผา และให้ความสำคัญในการทำงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนในการควบคุมการเผาไฟ และการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายเพื่อแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างมีประสิทธิภาพ”

Thailand Web Stat