posttoday

Finno Efra Accelerator เปิด 12 ทีม สตาร์ทอัพ ใครจะคว้าเงินทุนสูงสุด 40 ล้านบาท

03 ตุลาคม 2567

สตาร์ทอัพ ทั้ง 12 ทีม ที่ผ่านมาคัดเลือก จะได้ทำกิจกรรม Bootcamp ขับเคี่ยวเข้มข้นเป็นเวลา 4 เดือน ร่วมกับ Mentor และโค้ชผู้เชี่ยวชาญ เปิดโอกาสได้รับเงินทุนสูงสุด 40 ล้านบาท ติดอาวุธเร่งสปีดสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจสตาร์ทอัพ

          หลังจากที่ "Krungsri Finnovate (กรุงศรี ฟินโนเวต)" ได้จับมือกับ "อีฟราสทรัคเจอร์ (Efra Structure)" เปิด “Finno Efra Accelerator Program” ที่เปรียบเสมือนเป็นโรงเรียนสำหรับสตาร์ทอัพ ระดับ Seed ถึง Pre-series A ให้ได้เข้าเรียนรู้และร่วมเวิร์คช้อปในหลักสูตรเพื่อพัฒนาศักยภาพอันหลากหลายและครอบคุลม ซึ่งได้เปิดรับสมัครตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 67 ที่ผ่านมา โดยมี สตาร์ทอัพ สมัครมากว่า 200 ทีม จนได้ทั้ง 12 ทีม ดังนี้

          1. Wang: Data Market - แพลตฟอร์มที่เปลี่ยนเวลาว่างของทุกคนให้มีคุณค่า ด้วยการเปิดโอกาสให้คนที่มีเวลาว่างเข้ามาให้ข้อมูลเพื่อสร้างรายได้ และนักวิจัยที่ต้องการเก็บข้อมูลสำหรับนำไปพัฒนา AI โดยเป็นตลาดออนไลน์ระหว่างบุคคล 2 กลุ่ม ได้แก่ ผู้ที่ต้องการข้อมูล และผู้ที่มีเวลาว่างทุก ๆ คน

          2. PAM Real CDP - แพลตฟอร์มที่ช่วยนักการตลาดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้า เพื่อใช้ในการทำแคมเปญการตลาดที่สร้างประสบการณ์แบบเฉพาะบุคคลให้กับลูกค้าอย่างอัตโนมัติ

          3. Spacely AI - แพลตฟอร์มการออกแบบสถาปัตยกรรมด้วย AI และ Algorithm สำหรับสถาปนิกทั่วโลก 

          4. Graffity - พัฒนาแผนที่ 3 มิติและระบุตำแหน่งด้วย AI ซึ่งมีความแม่นยำสูงกว่า GPS ถึง 5 เท่า

          5. GOWAJEE - เป็นบริษัททำ speech recognition ภาษาไทย และมี product อีกตัวชื่อ GCI (Gowajee Call Intelligence) ที่เป็นแพลตฟอร์ม AI ที่ช่วยทีม contact center ด้วยการวิเคราะห์การสนทนาทางโทรศัพท์ทั้งแบบ real-time และ post-call

          6. ThaiHand Massage - แพลตฟอร์มยกระดับวงการนวดสปาไทย ทั้งในฝั่งของลูกค้าที่จะจองร้านนวดง่ายขึ้น ฝั่งของร้านค้าที่จะบริหารร้านได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และหมอนวดที่สามารถติดตามประวัติการทำงานของตัวเองได้ผ่านระบบออนไลน์

          7. AIYA - แพลตฟอร์มสื่อที่ขับเคลื่อนด้วยตำแหน่งที่ตั้ง ปฏิวัติการโฆษณา OOH แบบเจาะจงเป้าหมาย ยกระดับการมีส่วนร่วมของลูกค้าผ่านโซลูชันการตลาด O2O ที่ล้ำสมัย ซึ่งรู้ตำแหน่งที่ตั้ง สร้างผลลัพธ์แคมเปญที่ดียิ่งขึ้นสำหรับแบรนด์ และ AI มอบประสบการณ์เฉพาะบุคคลสำหรับผู้บริโภค

          8.MUI-Robotics - แพลตฟอร์มประสาทประดิษฐ์ (Artificial Senses Platform) ที่ทำให้ AI และหุ่นยนต์มีประสาทสัมผัส รูป รส กลิ่น เสียง เช่นเดียวกับมนุษย์

          9. Vansales - แพลตฟอร์มที่ช่วยให้การขายและการกระจายสินค้าเป็นเรื่องง่าย ครอบคลุมการจัดการสต็อกสินค้า, การเยี่ยมลูกค้า และการสั่งซื้อแบบเรียลไทม์ ทำให้ธุรกิจของคุณทำงานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

          10. Osseolabs - พัฒนาระบบวางแผนการผ่าตัดแบบดิจิตอลและกระดูกเทียมเฉพาะบุคคล สำหรับศัลยกรรมกระดูกและใบหน้า ด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์สามมิติและเอไอ

          11.Daywork - แพลตฟอร์มจัดหาพนักงานชั่วคราวตามความต้องการภายใน 24 ชั่วโมง สรรหาคนได้แม่นยำและรวดเร็วด้วย AI

          12. JobsLab - ขับเคลื่อนการจ้างงานชั่วคราวสำหรับพนักงานระดับเริ่มต้น และนายจ้างคุณภาพสูงในประเทศไทย

          นายแซม ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด เผยว่า ทั้ง 12 ทีมจะต้องเข้า Bootcamp เป็นระยะเวลา 4 เดือน กับ 4 เรื่องสำคัญ คือ

          1. Mentorship กับเมนเทอร์ที่เป็น Top Tech Leader ในประเทศไทย แบบ One On One

          2.Business Class คลาสเรียนที่จะต้องรู้เกี่ยวกับการทำธุรกิจ โดยจะมีเทรนเนอร์ในหลากหลายธุรกิจมาสอน 

          3. Coaching ที่สามารถมาขอคำปรึกษา จากโค้ชผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้านกว่า 100 คน  

          4. VC Networking สนับสนุนการเชื่อมต่อระหว่างสตาร์ทอัพกับนักลงทุนและองค์กรต่างๆ 

          สำหรับ Bootcamp เริ่มเรียน แบ่งเป็น 2 เทอมคือ เทอม 1 เดือนตุลาคม - พฤศจิกายน ปี 2567 และ เทอม 2 เดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ ปี 2568 และจะไปจบ Demo Day ที่เดือนมีนาคม ปี 2568 เมื่อจบ 4 เดือนแล้ว สตาร์ทอัพ ทั้ง 12 ทีม จะมีโอกาสได้รับเงินทุนสูงสุด 40 ล้านบาท แต่เงื่อนไขคือต้องผ่าน KPI ที่ตั้งไว้ 

          ด้านนายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ประธานกรรมการและผู้ก่อตั้ง บริษัท อีฟราสทรัคเจอร์ จำกัด เสริมต่อว่า Finno Efra Accelerator เป็นโปรแกรมบ่มเพาะ สตาร์ทอัพ รายใหม่ๆ ซึ่งเป็นกุญแจที่จะช่วยให้ สตาร์ทอัพ ประสบความสำเร็จได้มากขึ้น และยังเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่เป็นจุดเริ่มต้นของการการสร้างระบบนิเวศของผู้ประกอบการรุ่นใหม่ เพราะจะมีส่วนช่วยให้ธุรกิจที่เข้าร่วมสามารถเติบโตได้เร็วขึ้น

          ยิ่งไปกว่านั้นโปรแกรมนี้ทำให้เหล่าสตาร์ทอัพ ได้ทั้งเงินลงทุนและความรู้กลับไปพัฒนาธุรกิจ ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ในการช่วยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ เพื่อค้นหา ยูนิคอร์น ที่จะไประดับโลกให้ได้ในอนาคต