เคล็ดลับปั้นยอดขาย จาก 27 ล้าน สู่ 1,500 ล้าน
กว่าจะมีวันนี้ "สมาร์ทโฮม" งัดทุกกลยุทธ์ปั้นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านพลิกกลับมีกำไร จากยอดขาย 27 ล้านบาท ก้าวสู่ 1,500 ล้านบาท พร้อมกางแมพความสำเร็จได้ด้วย "แผนธุรกิจชัด สินค้าดี บริการหลังการขายยอดเยี่ยม" ตรึงใจผู้บริโภคระยะยาว
เรื่องธุรกิจน้อยนิด...มหาศาล
"การทำธุรกิจเราคิดให้ใหญ่ได้ แต่เราอาจจะเริ่มก้าวจากจุดเล็กๆก่อน หากเติบโตค่อยขยายใหญ่ขึ้นอย่าง"สมาร์ทโฮม"กว่าจะยืนได้แข็งแกร่งอย่างทุกวันนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แบกขาดทุนกันมาก่อน เพราะธุรกิจไม่ได้ปังตั้งแต่วันแรก แต่ดีที่เรามีแหล่งเงินทุนแข็งแกร่งทำให้ผ่านช่วงยากลำบากมาได้และด้วยการเริ่มต้นจากเล็กก่อน พอธุรกิจเติบโตดีขึ้นเราจึงค่อยๆขยายใหญ่ขึ้น จากมียอดขาย 27 ล้านบาท สู่เป้าหมาย 1,500 ล้านบาท"
"ธวัช มานะวงศ์" กรรมการบริหาร บริษัท สเต็ป ฟอร์เวิร์ด กรุ๊ป จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า ภายใต้แบรนด์ สมาร์ทโฮม (Smart Home) เล่าว่า สิ่งสำคัญของการเริ่มทำธุรกิจ ก่อนอื่นต้องรู้ว่าจะทำอะไร ส่วนตัวผมเริ่มจากสิ่งที่ถนัดและต้องรู้จริงว่า "ธุรกิจที่จะทำเป็นแบบไหน และคู่ค้าคือใคร" อย่าง "สมาร์ทโฮม" จะมีการปรึกษากันว่าจะวางแบรนด์ของเราอยู่ในระดับกลางๆ ไม่ถูกเกินไปและไม่แพงจนเกินไป เพื่อให้ลูกค้าสามารถจับจ่ายซื้อของได้ พอเข้าใจในสินค้าที่จะขายแล้ว
จากนั้นต้องมองเรื่อง "เงินทุน" โดยมองหาแหล่งเงินทุนที่ที่ดีน่าเชื่อถือ เพราะถ้าเราใช้เงินตัวเองอาจจะไม่สามารถต่อยอดธุรกิจได้ไกล นอกจากว่ามีเงินทุนส่วนตัวจำนวนมาก พอเรารู้จักสินค้าและมีแหล่งเงินทุนแล้ว ต้องถามตัวเองว่าจะขายที่ไหน ออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งในฝั่งของออฟไลน์เราต้องเจรจาเพื่อให้ได้เงื่อนไขที่ดีที่สุด อีกอย่างสินค้าของเราคือเครื่องใช้ไฟฟ้าดังนั้นเรื่องของ "บริการหลังการขาย" ต้องดีเช่นกัน
พร้อมเผย "7 เคล็ดลับความสำเร็จ" ของ "สมาร์ทโฮม" ที่ยึดถือปฏิบัติมาโดยตลอด นั่นก็คือ
1. คุณภาพและรูปแบบสินค้า: สมาร์ทโฮมมีสินค้าที่จับต้องได้และมีคุณภาพสูง พร้อมทั้งมีรูปแบบที่ทันสมัย ซึ่งเป็นจุดเด่นที่เหนือกว่าคู่แข่ง
2. ราคาจับต้องได้: สินค้าของสมาร์ทโฮมมีราคาที่เหมาะสม ไม่แพงเกินไป และสามารถเข้าถึงได้สำหรับผู้บริโภคทั่วไป
3. การรับประกัน: สมาร์ทโฮมกล้ารับประกันสินค้านานถึง 3 ปี ซึ่งมากกว่าหลายแบรนด์ที่มักจะรับประกันเพียง 1 ปี
4. บริการหลังการขาย: มีบริการหลังการขายที่ดี โดยมีทีมงานคอยช่วยเหลือลูกค้าในการใช้งานและซ่อมแซมสินค้า
5. การแนะนำสินค้า: ลูกค้าสามารถได้รับการแนะนำการใช้งานสินค้าจากพนักงานที่ร้าน หรือผ่านคลิปวิดีโอออนไลน์
6. การบริการลูกค้า: มีบริการที่ตอบสนองต่อคำถามและปัญหาของลูกค้าอย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องผ่านระบบอัตโนมัติ
7. การพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง: สมาร์ทโฮมมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสินค้าใหม่ๆและบริการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
"นี่คือจุดเด่น 7ข้อที่เสริมฐานความแข็งแกร่งธุรกิจจากนี้และในอนาคต ถือเป็นการวางพื้นฐานความสำเร็จของธุรกิจสมาร์ทโฮม และเป็นบทพิสูจน์ความเชื่อใจจากผู้บริโภคที่ต้องการสินค้าไฟฟ้าที่มีคุณภาพและบริการที่ดี"
ความสุขสร้างผลงาน
นอกจากกลยุทธ์ทั้ง 7 ข้อแล้ว อีกสิ่งสำคัญของเราก็คือ "เราเชื่อว่าการทำงานอย่างมีความสุขย่อมให้ผลลัพท์ที่ดีกว่าแรงกดดันมากเกินไป นั่นจึงเป็นที่มาในการสร้างบรรยากาศการทำงานในแบบที่พนักงานมีความสุข อย่างทุกวันจันทร์ การตื่นมาทำงานอาจจะยาก เบื่อหน่าย เราจึงมีกิจกรรมต่างๆ ทั้ง การพูดคุยในประเด็นที่พนักงานสนใจ อยากพูดอยากนำเสนอโดยไม่จำเป็นต้องเกี่ยวกับงานก็ได้ และช่วงเย็นจะมีกิจกรรมสันทนาการเพื่อสร้างความสุขให้แก่พนักงาน
หรือแม้แต่การทำงานของเราจะเป็นแบบการสื่อสารสองทาง หมายความว่าทุกคนสามารถเสนอไอเดียได้โดยไม่ต้องรอคำสั่งจากผู้บริหาร เพียงอย่างเดียว ซึ่งแนวทางการทำงานแบบนี้ค่อนข้างให้ผลลัพท์ทางบวกเลยทีเดียว"
กัดฟันสู้!!
"ธวัช" ยอมรับว่า ช่วงที่ท้าทายที่สุดของสมาร์ทโฮม เริ่มตั้งแต่ช่วง "ก่อตั้งธุรกิจ" กว่าสมาร์ทโฮมจะเริ่มมีกำไรใช้เวลาถึง 3 ปี ก่อนหน้านี้ขาดทุนสะสมมาตลอดกว่าทุกอย่างจะลงตัวใช้ระยะเวลาพอสมควร ดังนั้นใครจะทำธุรกิจสิ่งที่ต้องมีคือเงินทุน ซึ่งเงินทุนที่ว่าต้องมีเผื่อไว้ในช่วงเริ่มต้นจนกว่าธุรกิจจะคืนทุนได้ เพราะมีรายจ่ายประจำทุกเดือน ยังไม่รวมรายจ่ายอื่นๆนอกเหนือที่คาดการณ์ไว้
และอีกช่วงหนึ่งของความท้าทาย ก็คือ "วิกฤติโควิด-19" เพราะตอนนั้นไม่มีใครทราบว่าสถานการณ์จะจบลงเมื่อไหร่ จะมีอะไรเกิดขึ้นอีกบ้าง สิ่งที่เราทำได้คือทำตามกฎระเบียบในตอนนั้นอย่างเคร่องครัด พร้อมกับปรับยุทธวิธีทำธุรกิจให้สอดคล้องกับสิ่งที่เกิดขึ้น ที่สำคัญคือพวกเราจับมือกันสู้จนผ่านกันมาได้
"คำว่าในวิกฤติ มีโอกาสนั้นไม่เกินจริง ช่วงโควิด-19 คนส่วนใหญ่ทำงานที่บ้าน การขายออนไลน์ของเรา โดยเฉพาะ หม้อทอดได้รับความนิยมสูงมาก ยอดขายเติบโตอย่างรวดเร็ว และด้วยสมาร์ทโฮมคือสินค้าที่มีคุณภาพและราคาจับต้องได้ พร้อมการรับประกันถึง 3 ปีจึงได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าจึงได้รับการตอบรับที่ดี"
ถามว่า อนาคตของสมาร์ทโฮมวางเป้าหมายอย่างไร ย่อมต้องทำสิ่งที่ถนัดนั่นก็คือเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านขนาดเล็ก พร้อมกับการพัฒนาไปสู่เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ทั้ง ตู้เย็น และ เครื่องซักผ้า เป็นต้น
นอกจากนี้ สมาร์ทโฮมมีแผนเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ดังจากประเทศเกาหลี
"ความสำเร็จของสมาร์ทโฮม คือ เริ่มจากธุรกิจเล็กๆจากที่ไม่มีกำไรก็ค่อยๆมีรายได้ มียอดขาย จาก 27 ล้านบาท ขยับเป็น 100 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 1,500 ล้านบาท เมื่อธุรกิจมีการเติบโตเราถึงขยับขยายธุรกิจตามการเติบโต จากพนักงาน 3 คนจนวันนี้เรามีพนักงานกว่า 500 คน เราพยายามพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง เป้าหมายของเราคือการเป็นที่หนึ่งของโลคอลแบรนด์สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าไทย เราอยากพัฒนาสินค้าที่ดี ราคาดีเพื่อคนไทย"
"เฮียพัฒน์ ล้งทุเรียน" เริ่มจากสวน สู่เป้าส่งออกทั่วโลก
"รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์"ยืนหนึ่ง"ผ่าตัดกระเพาะอาหาร-ดูดไขมัน"