ทรัมป์ขึ้นภาษี คาดกระทบสินค้าส่งออก 12 กลุ่ม ของ SME 3,700 ราย
ทรัมป์ขึ้นภาษีไทย กระทบ SME ภาคส่งออกราว 3,700 ราย โดยเฉพาะ 12 กลุ่มสินค้าที่พึ่งพาตลาดสหรัฐ สสว.คาด มูลค่าส่งออก SME ไปสหรัฐฯ ปี 2568 อาจลดลง 3.8 หมื่นล้าน
ภายหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าเพิ่มเติมที่กระทบกับหลายประเทศรวมถึงไทยที่จะถูกเก็บอัตราษีสูงถึง 36% มีผลตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2025 เป็นต้นไป
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) รายงานว่า จากข้อมูลการส่งออกปี 2024 พบว่า SME พึ่งพาตลาดสหรัฐสูงถึง 20% ด้วยมูลค่า 7,634 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ SME มีส่วนแบ่งของการส่งออกไทยไปสหรัฐที่ 14 % โดยสหรัฐเป็นตลาดส่งออกของเอสเอ็มอีลำดับที่ 2 รองจากจีน
ขณะที่เอสเอ็มอีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ 2,563 ล้านเหรียญ ทำให้เอสเอ็มอีเกินดุล 5,070 ล้านเหรียญสหรัฐ และในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2025 นี้ เอสเอ็มอียังส่งออกไปสหรัฐมูลค่ารวม 1,440 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 39.6%
สินค้าส่งออกสำคัญ 5 ลำดับแรกได้แก่ อุปกรณ์ไฟฟ้า เครื่องจักร อัญมณีและเครื่องประดับเฟอร์นิเจอร์ และพลาสติก คิดเป็นสัดส่วน 75 % ของ มูลค่าส่งออกของเอสเอ็มอีไปยังสหรัฐทั้งหมด
มูลค่าส่งออก SME ไปสหรัฐฯ ปี 68 อาจลดลง 3.8 หมื่นล้าน
สำหรับผลกระทบจากมาตรการขึ้นกำแพงภาษีครั้งนี้ สสว.ประมาณการว่ามูลค่าส่งออกของเอสเอ็มอี ไปยังสหรัฐ ปี 2568 จะลดลง 1,128 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 38,300 ล้านบาท และอาจส่งผลให้ จีดีพี เอสเอ็มอี ปี 2568 ลดลง 0.2 %
จากที่ สสว. ประมาณการการขยายตัวไว้ที่ 3.5 % ทั้งนี้ ความรุนแรงของผลกระทบดังกล่าว ขึ้นอยู่กับการเจรจาต่อรองของรัฐบาลไทย รวมทั้งมาตรการตอบโต้ ของประเทศคู่ค้าอื่น ๆ
กระทบ 12 สินค้าส่งออก
สสว.ได้วิเคราะห์ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับกลุ่มผู้ส่งออกเอสเอ็มอีในเบื้องต้นพบว่า มีสินค้า 12 กลุ่มหลัก ที่พึ่งพิงการส่งออกไปสหรัฐในระดับสูง (การส่งออกสินค้ากลุ่มนั้นไปยังสหรัฐเป็นตลาดหลักเกินกว่า 10% และมูลค่าสูงกว่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐ) จะกระทบกับเอสเอ็มอีประมาณ 3,700 ราย ดังนี้
1.กลุ่มอุปกรณ์ไฟฟ้า
ได้แก่ เครื่องโทรศัพท์สมาร์ทโฟน เครื่องส่งวิทยุ กล้อง ถ่ายบันทึกภาพดิจิทัล และลวดเคเบิ้ล
- มูลค่าส่งออก : 2,792 ล้านเหรียญสหรัฐ
- สัดส่วน SME : 34%
- พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ : 59%
- จำนวนผู้ส่งออกเอสเอ็มอี : 914 ราย
2.กลุ่มอัญมณีและเครื่องประดับ
ได้แก่ พลอย และเครื่องประดับเพชรพลอยรูปพรรณ
- มูลค่าส่งออก: 758 ล้านเหรียญสหรัฐ
- สัดส่วน SME: 45 %
- พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ: 19 %
- จำนวนผู้ส่งออก 885 ราย
3.กลุ่มเครื่องจักรและส่วนประกอบ
ได้แก่อุปกรณ์เครื่องปรับอากาศ ก๊อก วาล์ว ส่วนประกอบเครื่องยนต์อากาศยาน
- มูลค่าส่งออก : 466 ล้านเหรียญสหรัฐ
- สัดส่วนเอสเอ็มอี : 25%
- พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ : 52%
- จำนวนผู้ส่งออก SME : 156 ราย
4. กลุ่มเฟอร์นิเจอร์
ได้แก่ เฟอร์นิเจอร์ เก้าอี้ โซฟา โคมไฟ อุปกรณ์ส่องสว่าง เฟอร์นิเจอร์การแพทย์
- มูลค่าการส่งออก : 432.15 ล้านเหรียญสหรัฐ
- สัดส่วนเอสเอ็มอี : 45%
- พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ : 68%
- จำนวนผู้ส่งออก SME : 400 ราย
5.ของทำด้วยเหล็กหรือเหล็กกล้า
เช่น ข้อต่อ ลวดเกลียว สลิง ตะปู สะพานและชิ้นส่วน ประตูน้ำ เครื่องสุขภัณฑ์ ของใช้ในครัวและโต๊ะอาหาร
- มูลค่าการส่งออก : 181.07 ล้านเหรียญสหรัฐ
- สัดส่วน เอสเอ็มอี : 24%
- พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ: 31%
- จำนวนผู้ส่งออกเอสเอ็มอี : 422 ราย
6.ยานยนต์และชิ้นส่วน
ได้แก่ อุปกรณ์และส่วนประกอบ รถพ่วงและกึ่งพ่วง
- มูลค่าการส่งออก : 116 ล้านเหรียญสหรัฐ
- สัดส่วน เอสเอ็มอี : 8%
- พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ : 21%
- จำนวนผู้ส่งออก SME : 138 ราย
7. ของปรุงแต่งทำจากพืชผักผลไม้
ได้แก่ น้ำผลไม้ ผลไม้ ผักผลไม้ดอง ผลไม้แช่อิ่ม แยม
- มูลค่าการส่งออก : 73.97 ล้านเหรียญสหรัฐ
- สัดส่วนเอสเอ็มอี: 10%
- พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ : 14%
- จำนวนผู้ส่งออกเอสเอ็มอี : 293 ราย
8.อะลูมิเนียมและของทำด้วยอะลูมิเนียม
ได้แก่ สิ่งก่อสร้างทำด้วยอะลูมิเนียม ภาชนะอะลูมิเนียมสำหรับบรรจุก๊าซอัดหรือก๊าซเหลว และของอื่น ๆ ทำด้วยอะลูมิเนียม
- มูลค่าการส่งออก : 68.23 ล้านเหรียญสหรัฐ
- สัดส่วนเอสเอ็มอี : 55%
- พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ : 53%
- จำนวนผู้ส่งออกเอสเอ็มอี : 74 ราย
9. เครื่องแต่งกายถักแบบนิตหรือแบบโครเชต์
ได้แก่ เสื้อกั๊ก เสื้อผ้าของเด็กเล็ก สูท เชิ้ต ถุงมือทุกชนิด เสื้อโอเวอร์โค้ตของบุรุษ ชุดวอร์ม ชุดสกี และชุดว่ายน้ำ
- มูลค่าการส่งออก : 50.67 ล้านเหรียญสหรัฐ
- สัดส่วนเอสเอ็มอี : 17%
- พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ : 41%
- จำนวนผู้ส่งออกเอสเอ็มอี : 190 ราย
10. ธัญพืช ได้แก่ ข้าว
- มูลค่าการส่งออก : 42.00 ล้านเหรียญสหรัฐ
- สัดส่วนเอสเอ็มอี : 5%
- พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ : 11%
- จำนวนผู้ส่งออกเอสเอ็มอี : 85 ราย
11. กลุ่มยางและผลิตภัณฑ์ยาง
ได้แก่แผ่นยางปูพื้น อย่างกันกระแทก ท่อยางอุตสาหกรรม
- มูลค่าส่งออก 24 ล้านเหรียญสหรัฐ
- สัดส่วนเอสเอ็มอี : 16%
- พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ : 16%
- จำนวนผู้ส่งออก เอสเอ็มอี : 121 ราย
12. กลุ่มเนื้อสัตว์แปรรูป
ได้แก่ สัตว์น้ำแปรรูปจำพวก กุ้ง หอย ปู
- มูลค่าส่งออก 14 ล้านเหรียญสหรัฐ
- สัดส่วน เอสเอ็มอี : 7%
- พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ : 49%
- จำนวนผู้ส่งออก เอสเอ็มอี : 30 ราย
เพื่อรองรับมาตรการดังกล่าว เอสเอ็มอีไทยจำเป็นต้องปรับตัวอย่างเร่งด่วน โดยมุ่งเน้นการค้นหาตลาดใหม่และคู่ค้าในภูมิภาค รวมทั้งหาประโยชน์จากกฎเกณฑ์การค้าผ่านข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) และใช้ฐานการผลิตจากประเทศที่ไม่ได้รับผลกระทบจากภาษี
นอกจากนี้ รัฐบาลควรให้การสนับสนุนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ ส่งเสริมการลงทุน และเพิ่มรายได้ให้แก่ประชาชน ทำให้ภาคเอกชนสามารถบริโภคได้มากขึ้น ลดการพึ่งพาการส่งออก และกระตุ้นการท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตาม ไทยยังต้องเผชิญกับการไหลบ่าของสินค้าจากประเทศอื่น ๆ ที่แสวงหาตลาดทดแทนสหรัฐฯ ดังนั้น การเร่งสร้างมาตรการรองรับ รวมถึงการเพิ่มความตระหนักให้ผู้ซื้อพิจารณาคุณภาพและมาตรฐานสินค้าจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันการขาดดุลการค้าที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต