NIA ออมสิน ติดอาวุธ SME รับเทรนด์เศรษฐกิจสีเขียว ผ่าน 7 วิชา
NIA ผนึก ธ.ออมสิน เปิดหลักสูตร “Green Business” ติดอาวุธ SME รับเมกะเทรนด์เศรษฐกิจสีเขียว เรียน 7 วิชา ผสานกรณีศึกษาจากผู้ประสบความสำเร็จจริง
นางสาวกริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ หรือ NIA กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า หลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง โดยหลังจากที่ประเทศไทยมีโอกาสเข้าร่วมประชุม COP26 จึงได้ประกาศเป้าหมายสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2593 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2608
ด้วยเหตุนี้ การทำธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือธุรกิจสีเขียว (Green Business) จึงเป็นเทรนด์การทำธุรกิจที่อุตสาหกรรมทั่วโลกกำลังปรับสู่ New Business Model และ New Economy ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ทั่วโลกต่างมองว่าธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งสินค้าที่สร้างขึ้นด้วยวัสดุย่อยสลายง่าย สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ เพื่อลดการใช้พลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง
สินค้าด้านพลังงานสะอาด หนึ่งเทรนด์ที่มาแรงในวงการรักษ์โลก เช่น รถยนต์ไฟฟ้า Eco Car โซลาร์เซลล์ที่ใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ สินค้า & บริการที่มิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น บรรจุภัณฑ์ไบโอ อาหารจากพืช พลาสติกชีวภาพจากพืช และร้าน Refill Store กลุ่มสินค้าและบริการที่ลดการมีบรรจุภัณฑ์จากพลาสติก โดยให้ลูกค้านำขวด กระป๋อง กล่อง หรือถุงที่มีอยู่แล้วมาเติมผลิตภัณฑ์จากร้านกลับไปได้ ล้วนคือ “ธุรกิจแห่งอนาคต” ที่มีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นในรูปแบบธุรกิจสีเขียว
กริชผกา บุญเฟื่อง ผอ.NIA
นอกจากการสนับสนุนด้านเงินทุนแล้ว อีกหนึ่งพันธกิจสำคัญที่ NIA และธนาคารออมสินได้ร่วมมือกันมาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา คือการอบรมและพัฒนาศักยภาพผู้ที่สนใจทำธุรกิจนวัตกรรมให้มีความรู้ สามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลง และสร้างโอกาสเติบโตของธุรกิจจากเทรนด์และเทคโนโลยีใหม่ได้อย่างยั่งยืน
ปีนี้จึงได้เปิด “หลักสูตรการเป็นผู้ประกอบการและการออกแบบธุรกิจนวัตกรรมสีเขียว” เพื่อเพิ่มเติมองค์ความรู้ให้ผู้ประกอบการสามารถประยุกต์ใช้แนวคิด Green Business ออกแบบธุรกิจนวัตกรรมสีเขียวได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรม ซึ่งประกอบด้วยบทเรียนออนไลน์ 7 วิชา และกรณีศึกษาจากองค์กรพันธมิตรและสตาร์ตอัปที่จะมาร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้และประสบการณ์
การเรียนรู้ด้าน Green Business & Innovation จะไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่คือทางรอด และเป็นกุญแจสำคัญที่จะไขไปสู่การทำธุรกิจอย่างยั่งยืนในอนาคต เพื่อช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้า และแข่งขันในระดับเวทีการค้าโลกได้อย่างยั่งยืน
ดังนั้นธุรกิจสีเขียวคือกลยุทธ์สำคัญของการดำเนินธุรกิจในยุคนี้ นอกจากจะช่วยลดปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติ ยังช่วยให้ธุรกิจมีความโดดเด่นท่ามกลางคู่แข่งได้เป็นอย่างดี เมื่อภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี หั.นมาออกแบบบริการและสินค้าด้วยจุดยืนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านการสร้างความตระหนักรู้ในการใช้นวัตกรรมเป็นเครื่องมือช่วยลดผลกระทบจากวิกฤติสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
ด้านนายศักดิ์สิทธิ์ สุนทรกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการธนาคารออมสิน สายงานพัฒนาธุรกิจผู้ประกอบการรายย่อยและ SMEs Start up กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ธนาคารออมสินในบทบาท “ธนาคารเพื่อสังคม” ให้ความสำคัญกับเรื่องความยั่งยืน ด้วยการขับเคลื่อนองค์กรตามกรอบแนวคิด ESG ที่ใส่ใจในเรื่องสิ่งแวดล้อม เพราะเล็งเห็นว่าการที่ประเทศไทยจะสามารถขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ได้นั้น จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคธุรกิจ ซึ่งธุรกิจที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนและตอบโจทย์ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมควบคู่กันอย่างลงตัวก็คือ “ธุรกิจนวัตกรรมสีเขียว (Green Business)”
เพื่อให้ตอบโจทย์การพัฒนาอย่างยั่งยืน ธนาคารออมสิน และ NIA จึงร่วมกันสร้างหลักสูตร “การเป็นผู้ประกอบการและการออกแบบธุรกิจนวัตกรรมสีเขียว” ขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา บุคคลทั่วไป จนถึงผู้ประกอบการที่สนใจจะปรับเปลี่ยนหรือพัฒนาธุรกิจให้มีความยั่งยืนและรักษ์โลก สามารถเข้ามารับการอบรมเพิ่มความรู้และเสริมสร้างทักษะที่จำเป็นต่อการออกแบบธุรกิจสีเขียวได้ เพราะกิจกรรมครั้งนี้จะเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยสร้างผู้ประกอบการที่มีศักยภาพที่มาพร้อมกับความใส่ใจและมีความรับผิดชอบต่อการดูแลโลกไปพร้อมกัน
สำหรับ “หลักสูตรการเป็นผู้ประกอบการและการออกแบบธุรกิจนวัตกรรมสีเขียว” นี้ เป็นการต่อยอดความร่วมมือระหว่าง NIA และธนาคารออมสินตลอดปี 2566 - 2567 ที่ได้มีการผลิตสื่อการเรียนรู้ออนไลน์ เผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์ม NIA Academy MOOCs ในหัวข้อ “การเป็นผู้ประกอบการและการพัฒนาธุรกิจใหม่ Entrepreneurship and New Business Development” และ “Sustainable Development, ESG and Business Model Development Program การสร้างกรอบแนวคิดธุรกิจใหม่และการพัฒนาอย่างยั่งยืน” ซึ่งได้รับผลตอบรับอย่างดีจากผู้สนใจทั้งนักเรียน นักศึกษา และผู้ประกอบการ โดยมีผู้ลงทะเบียนเข้ารับการอบรมออนไลน์ต่อปีไม่ต่ำกว่า 30,000 ราย เพื่อพัฒนาความรู้และเสริมสร้างความแข็งแกร่งของตนเอง และนำไปพัฒนาธุรกิจที่จะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างมีศักยภาพและยั่งยืน