จับ-ปรับลอบถอนต้นฟ้าทะลายโจรในป่าชุมชนทรัพย์สินของหมู่บ้าน
บุรีรัมย์-หน่วยเฉพาะกิจกลุ่มดูแลรักษาป่าชุมชน อ.เฉลิมพระเกียรติจับหัวขโมยถอนต้นฟ้าทะลายโจรในป่าสงวนแห่งชาติเขาอังคาร อ้างนำไปสกัดเป็นยารักษาผู้ป่วยโควิดในหมู่บ้าน
เมื่อวันที่ 27 ก.ค.จากกระแสฟ้าทะลายโจรที่กำลังได้รับความสนใจสามารถยับยั้งการติดเชื้อไวรัสโควิดได้ ส่งผลให้ที่ป่าชุมชนเจริญสุข-สายบัว ต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติเขาอังคาร แหล่งที่มีต้นฟ้าทะลายโจรเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจำนวนมาก จึงมีผู้คนทั้งในและนอกพื้นที่เหมารถยนต์มาหาเก็บต้นฟ้าทะลายโจรอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีชาวบ้าน 4 คนเดินทางมาจาก จ.มหาสารคาม แอบถอดเอาต้นฟ้าทะลายโจรในป่าเขาอังคารใส่ถุงปุ๋ยมากกว่า 500 ต้น ถืดเป็นการกระทำที่ผิดกฎในการเข้าใช้ประโยชน์ป่าชุมชนที่ชาวบ้านร่วมกันดูแลอนุรักษ์เพื่อเป็นแหล่งอาหารของส่วนรวม นอกจากจะเป็นการเก็บที่ผิดวิธีแล้ว การถอดเอาทั้งรากทั้งโคนจะทำให้ต้นฟ้าทะลายโจรสูญพันธุ์อีกด้วย ดังนั้นชุดเฉพาะกิจที่ดูแลรักษาป่าชุมชนดังกล่าว จึงได้แจ้งให้ชาวบ้านทั้ง 4 คนทราบพร้อมทั้งได้เชิญไปพูดคุยกันที่ศูนย์ดำรงธรรมประจำหมู่บ้าน
จากการสอบถามชาวบ้านที่แอบมาขโมยถอนเอาต้นฟ้าทะลายโจรในป่าเขาอังคาร อ้างว่าต้องการจะนำต้นฟ้าทะลายโจรดังกล่าวไปให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่บ้านของตัวเอง ที่ จ.มหาสารคาม เพื่อใช้สกัดเป็นยาช่วยรักษาผู้ป่วยโควิดในหมู่บ้านที่เพิ่งกลับมาจากพื้นที่เสี่ยง เพิ่งจะมาเก็บเป็นครั้งแรกหลังจากได้ยินว่าที่ป่าเขาอังคารมีต้นฟ้าทะลายโจรที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจำนวนมาก แต่ไม่รู้ว่าหมู่บ้านที่ดูแลรักษาอยู่มีกฎข้อห้ามวิธีในการเก็บแต่เมื่อกระทำผิดกฎของหมู่บ้านก็ยอมรับและยอมเสียค่าปรับให้กับศูนย์ดำรงธรรมประจำหมู่บ้านตามที่ตั้งกฎเอาไว้ ยืนยันว่าไม่ได้เอาไปขายแต่จะเอาไปช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด
ด้านนายพลภัทร ชัสวิเศษ เลขานุการป่าชุมชนเจริญสุข-สายบัว ต.เจริญสุข กล่าวว่า ป่าชุมชนแห่งนี้ถือเป็นแหล่งอาหารและแหล่งสมุนไพรของคนทั้งในและนอกพื้นที่ ทุกคนสามารถเข้ามาเก็บได้แต่ขอให้เก็บอย่างถูกวิธี สามารถประสานผู้นำชุมชนหรือหน่วยลาดตระเวนในพื้นที่เพื่อขอคำแนะนำ ในการเข้าไปเก็บหาของในป่าดังกล่าวเพื่อเป็นการร่วมกันอนุรักษ์ไว้ให้เป็นแหล่งอาหารไปชั่วลูกชั่วหลานต้นฟ้าทลายโจรควรจะใช้วิธีการตัดเอาใบหรือกิ่งก้านไปเท่านั้นเพื่อให้สามารถงอกใหม่ได้ ไม่ควรจะถอนไปทั้งรากทั้งโคนเพราะจะเสี่ยงสูญพันธุ์ได้ ส่วนผู้ที่มาเก็บไม่ถูกวิธีและฝ่าฝืนกฎการเข้าใช้ประโยชน์ป่าชุมชน ทำการปรับจำนวน 500 บาท เพื่อนำเงินเข้ากองกลางหมู่บ้านในการดูแลป่าแห่งนี้