ลาวยอมให้จีนเข้าดำเนินการเขื่อนผลิตไฟฟ้าแลกหนี้ก้อนโต
วงในเผยรัฐบาลลาวเตรียมยกการควบคุมส่วนใหญ่ในบริษัทผลิตไฟฟ้าให้จีนดำเนินการ หลังมีแนวโน้มว่าจะผิดนัดชำระหนี้รัฐบาลจีน
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา บริษัทผลิตไฟฟ้า Electricite du Laos (EdL) ของรัฐบาลลาว ลงนามร่วมกับบริษัท China Southern Power Grid ของจีน ในการดำเนินการผลิตกระแสไฟฟ้าจากเขื่อนร่วมกัน โดยลาวจะยกอำนาจควบคุมส่วนใหญ่ให้จีน
ด้านสถานทูตจีนในลาวระบุถึงสัญญาดังกล่าวในเว็บไซต์สถานทูตว่า ลาวมีหน้าที่ดำเนินการผลิตกระแสไฟฟ้า แต่ไม่ได้ระบุสัดส่วนการถือหุ้น เพียงแต่กล่าวว่าระหว่างที่ดำเนินการลาวสามารถซื้อหุ้นคืนได้
ขณะที่ทั้ง EdL และ China Southern Power Grid รวมทั้งรัฐบาลทั้งสองประเทศยังไม่ชี้แจงรายละเอียดการตกลงในครั้งนี้
สัญญาดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่จีนถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าใช้ “การทูตกับดักหนี้” โดยการปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยสูงตามโครงการเส้นทางสายไหมแห่งศตวรรษที่ 21 (Belt and Road) ให้ประเทศยากจนหรือกำลังพัฒนา นำมาสร้างโครงสร้างพื้นฐาน จนประเทศเหล่านี้ไม่สามารถชำระคืนได้ และในที่สุดก็ถูกบีบให้โอนโครงสร้างพื้นฐานเหล่านั้นเป็นของจีน
ขณะนี้จีนเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดของลาว
ที่ผ่านมาลาวลงทุนมหาศาลในโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าพลังน้ำ ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับเงินกู้จากจีน โดยมีเป้าหมายในการเป็นแบตเตอรี่ของอาเซียน ทว่าโครงการเหล่านี้ รวมทั้งโครงการรถไฟความเร็วสูงกำลังก่อหนี้ก้อนใหญ่ให้ลาว
เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ธนาคารโลกประมาณการณ์ว่า หนี้ของลาวจะพุ่งขึ้นจาก 59% ของปีก่อน เป็น 68% ของจีดีพีในปีนี้ และเมื่อเดือนที่แล้ว บริษัทจัดอันดับมูดีส์เตือนว่า ลาวมีแนวโน้มจะผิดนัดชำระหนี้ในอนาคตอันใกล้ โดยขณะนี้บริษัทสัญชาติจีนที่เข้ามาดำเนินการในโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าของลาวได้รับผลกระทบจากการชำระหนี้ล่าช้าจากรัฐบาลลาวแล้วหลายบริษัท