ผู้ประท้วงเมียนมายกสาวเสื้อดำวัย 19 ที่ถูกทหารยิงเป็น ‘ฮีโร่’
มะจัลซิน หรือแองเจิล ต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตยเคียงบ่าเคียงไหล่กับเพื่อนร่วมชาติจนวินาทีสุดท้ายของชีวิต
วันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา สถานการณ์การประท้วงในเมียนมาเป็นวันนองเลือดที่สุดนับตั้งแต่ทหารทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ. กองทัพยิงสังหารผู้ประท้วงอย่างโหดเหี้ยมไปถึง 38 ราย และหนึ่งในนั้นก็คือ มะจัลซิน (Ma Kyal Sin) สาวเมียนมาวัย 19 ปี หรือสาวเสื้อดำที่กรีนข้อความว่า “Everything will be OK” (ทุกอย่างจะดีขึ้น)
มะจัลซินเป็นลูกสาวคนเดียวของพ่อและสนิทสนมกับพ่อมาก เธอมีความสามารถรอบด้านทั้งเป็นนักเทควันโดนักเต้นของ DA-Star Dance Club และยังร้องและทำเอ็มวีเพลง No Reason เองเมื่อเดือน ก.ย.ปีที่แล้ว โดยใช้ชื่อว่า แองเจิล
เธอยังชอบอาหารทะเลและทาลิปสติกสีแดงด้วย
การเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 8 พ.ย.ปีที่แล้วซึ่งนำมาสู่การทำรัฐประหาร เป็นการเลือกตั้งครั้งแรกในชีวิตของเด็กสาวชื่อมะจัลซิน เธอโพสต์ภาพที่กำลังจูบนิ้วที่เปื้อนหมึกสีม่วงซึ่งเป็นสัญลักษณ์ว่าเธอเข้าคูหาเลือกตั้งเรียบร้อยแล้วลงในเฟซบุ๊คอย่างภาคภูมิใจ พร้อมแคปชั่น “เลือกตั้งครั้งแรกของฉัน จากก้นบึ้งของหัวใจฉันเลย” ตามด้วยหัวใจสีแดง 6 ดวง และ “ฉันทำหน้าที่เพื่อประเทศของฉัน”
วันที่เกิดการรัฐประหารเธอยังโพสต์ขำๆ ในเฟซบุ๊คว่า ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะอินเทอร์เน็ตถูกตัด
แต่ในวันต่อๆ มามะจัลซินเป็นคนหนึ่งที่ออกไปร่วมประท้วงต่อต้านรัฐประหารเคียงบ่าเคียงไหล่กับเพื่อนร่วมชาติ ครั้งหนึ่งเธอนำป้ายข้อความ “เราต้องการประชาธิปไตย ความยุติธรรมสำหรับเมียนมา เคารพเสียงโหวตของพวกเรา” ไปติดไว้บนเสื้อยืดสีดำที่เธอสวม
มะจัลซินยังเดินหน้าออกไปประท้วงแม้ว่าสถานการณ์เริ่มอันตราย และกองทัพเริ่มส่งทหารพร้อมด้วยปืนไรเฟิลลงพื้นที่ประท้วงร่วมกับตำรวจ
ทว่า ดูเหมือนว่าเธอจะรู้ตัวว่าชีวิตตัวเองตกอยู่ในความเสี่ยง โพสต์สุดท้ายในเฟซบุ๊คของมะจัลซินบอกไว้ว่า เธอกรุ๊ปเลือดเอ บอกเบอร์โทรศัพท์ และบอกว่าได้บริจาคอวัยวะเอาไว้แล้ว หากเกิดอะไรขึ้นกับเธอและมีคนต้องการอวัยวะ ให้แจ้งโรงพยาบาลได้เลย
ส่วน Kyaw Zin Hein เพื่อนของมะจัลซิน เปิดเผยข้อความสุดท้ายที่มะจัลซินส่งไปหาในโซเชียลมีเดียที่บอกว่า “นี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันได้พูดมัน รักเธอมาก อย่าลืมล่ะ”
วันที่ 3 มี.ค. มะจัลซินยังออกไปประท้วงตามปกติ โดยเธอได้กอดพ่อร่ำลากันก่อนออกจากบ้าน กระทั่งช่วงบ่าย ก็ปรากฏว่าเธอถูกยิงที่ศีรษะเสียชีวิต
คลิปิดีโอที่แชร์ในโลกโซเชียลเผยให้เห็นช่วงที่การปะทะระหว่างผู้ประท้วงกับเจ้าหน้าที่เริ่มรุนแรงขึ้น โดยบางช่วงมะจัลซินต้องคลานไปตามถนน บางช่วงต้องวิ่งหนีเพื่อหาที่กำบัง ท่ามกลางเสียงปืนและควันจากแก๊สน้ำตาจากเจ้าหน้าที่ อีกคลิปหนึ่งมะจัลซินแจกจ่ายน้ำให้เพื่อนๆ เพื่อล้างตา และตะโกนว่า “เราจะไม่หนี พวกเราจะต้องไม่เสียเลือด”
มะจัลซินร่วมเรียกร้องประชาธิปไตยอย่างกล้าหาญจนถึงช่วงสุดท้ายของชีวิต แววตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ขณะที่ในมือมีเพียงขวดน้ำเปล่าสำหรับล้างหน้าล้างตาหากถูกแก๊สน้ำตา และอยู่ในแนวหน้า
หลังจากเธอเสียชีวิตข้อความ “Everything will be OK” บนเสื้อที่เธอสวมในวันที่เสียชีวิตถูกแชร์ต่อๆ กันในโลกออนไลน์ รวมทั้งข้อความไว้อาลัยต่อการจากไปของเธอ
Myat Thu ที่ออกไปประท้วงกับมะจัลซินเล่าถึงความกล้าหาญของมะจัลซินว่า เธอใช้เท้าแตะท่อส่งน้ำเพื่อเปิดน้ำให้ผู้ประท้วงได้ล้างแก๊สน้ำตา และเป็นคนโยนกระป๋องแก๊สน้ำตากลับไปใส่ตำรวจ และตอนที่ตำรวจเปิดฉากยิงเธอยังบอกให้ Myat Thu นั่งลงเพื่อหลบกระสุน “เธอเป็นห่วงและปกป้องคนอื่นเหมือนกับเป็นเพื่อนสนิทของตัวเอง”
ส่วน Ma Cho Nwe Oo หนึ่งในเพื่อนสนิทของมะจัลซินที่ออกไปร่วมประท้วงด้วยเผยว่า “เธอคือฮีโร่ของประเทศ” Ko Lu Maw ซึ่งเป็นคนลั่นชัตเตอร์เก็บภาพวินาทีสุดท้ายก่อนเสียชีวิตของมะจัลซินบอกว่า “เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่กล้าหาญที่สุดที่เคยเจอมาในชีวิต”
Linlae Waddy เพื่อนสมัยมัธยมเผยว่า การสูญเสียเพื่อนอย่างมะจัลซินเป็นข่าวร้ายสำหรับเพื่อนๆ และเมียนมา และยังเล่าอีกว่า มะจัลซินโกรธมากกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเมียนมา ทำให้เธอต้องออกมาประท้วง
นอกจากนี้ การไว้อาลัยยังหลั่งไหลท่วมท้นในโลกออนไลน์ โดยหลายคนยกย่องให้เธอเป็น “ฮีโร่”
ขณะที่พิธีศพเมื่อวานนี้ (4 มี.ค.) มีชาวเมียนมาและเพื่อนๆ ไปร่วมไว้อาลัยหนาแน่นและมีการร้องเพลง We Won't Forget Until the End of the World ซึ่งเป็นเพลงเกี่ยวกับการปฏิวัติ รวมทั้งชูสัญลักษณ์ 3 นิ้วต่อหน้าโลงศพของมะจัลซิน
ส่วนรถที่ใช้บรรทุกโลงศพของมะจัลซินไปทำพิธีมีโปสเตอร์คำว่า “ฮีโร่” ติดอยู่ข้างหน้า
Photo by STR / AFP