ค่าบาทผันผวนน้อย
โดย...พรวลี พิลาวรรณ
โดย...พรวลี พิลาวรรณ
ค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 32.50-32.80 สายงานธุรกิจตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย โดยปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานภาคนอกเกษตรของสหรัฐ ที่ประกาศช่วงท้ายสัปดาห์หลังตลาดในประเทศปิดทำการเมื่อวันศุกร์ โดยมองว่าการจ้างงานที่ยังสูงกว่า 2 แสนตำแหน่งมากว่า 10 เดือนติดต่อกันนั้น สะท้อนมุมมองว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังอยู่ในแนวโน้มที่ดีและอัตราการว่างงานที่ใกล้เคียงกับกรอบ 5.2-5.5% สะท้อนว่าเฟดใกล้จะบรรลุเป้าหมายในการเพิ่มการจ้างงานของสหรัฐให้อยู่ระดับที่เหมาะสม
นอกจากนี้ ตลาดยังให้ความสนใจกับการรายงานอัตราค่าจ้างของสหรัฐด้วย หลังจากที่เดือนก่อนหน้าเห็นการหดตัวเป็นครั้งแรก ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต้องรอสัญญาณจากอัตราเงินเฟ้อไปก่อน เพื่อสะท้อนว่าเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่งจริงๆ เนื่องจากเฟดจะต้องพิจารณาเงื่อนไขของตลาดแรงงานและระดับราคาสินค้าในประเทศควบคู่กัน เพื่อประกอบการตัดสินใจในการดำเนินนโยบายทางการเงิน
ทั้งนี้ ตลาดจะหันมาให้ความสนใจต่อการรายงานดัชนียอดค้าปลีกของสหรัฐ ซึ่งถือเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยกำหนดทิศทางค่าเงิน โดยผลสำรวจของบลูมเบิร์กยังสะท้อนว่าดัชนีดังกล่าวจะหดตัวเล็กน้อยที่ -0.4% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า หลังจากตัวเลขเดือน ธ.ค.หดตัวลง -1.0% ซึ่งหากดัชนียอดค้าปลีกออกมาหดตัวมากกว่าคาดก็อาจทำให้ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวยังอยู่กรอบล่างได้
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆ ระหว่างสัปดาห์ที่ควรติดตาม ได้แก่ ตัวเลขสินเชื่อของจีน, การรายงานจีดีพีไตรมาส 4/14 ของยูโรโซน ฝรั่งเศสและเยอรมนี, ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมของประเทศยุโรปและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐ
ในสัปดาห์ก่อน เงินบาทเคลื่อนไหวไม่หวือหวามากนัก ซึ่งอยู่ในกรอบ 32.52-32.67 โดยค่าเงินบาทเคลื่อนไหวสอดคล้องกับสกุลเงินเพื่อนบ้าน ซึ่งเคลื่อนไหวตามประเด็นจากนอกประเทศเป็นหลัก และยังสามารถเคลื่อนไหวไปทดสอบแนวรับสำคัญที่ระดับ 32.50 หลายครั้ง
ในช่วงกลางสัปดาห์ ธนาคารกลางออสเตรเลียและทางการจีนออกมาผ่อนคลายนโยบายทางการเงินเพิ่มเติม โดยธนาคารออสเตรเลียประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 50bps มาที่ระดับ 2.25% ขณะที่ธนาคารกลางจีนออกมาลดอัตราส่วนกันสำรองเงินทุนของธนาคารพาณิชย์ลงอีก 50bps เพื่อกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ ทำให้มุมมองของนักลงทุนปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากจะมีสภาพคล่องในตลาดการเงินเพิ่มขึ้นและส่งผลดีต่อสินทรัพย์เสี่ยงและสกุลเงินในเอเชียโดยรวมในระยะสั้น ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบช่วงท้ายสัปดาห์ก่อนจะปิดตลาดที่ระดับ 32.53
สำหรับหุ้นกู้ตลาดแรกในสัปดาห์ที่ผ่านมา หุ้นกู้กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค อันดับเครดิต AA- อายุ 3-5 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.06-3.37% จำนวน 1,500 ล้านบาท และหุ้นกู้กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ อันดับเครดิต BBB- อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 5.50% จำนวน 500 ล้านบาท เสนอขายต่อผู้ลงทุนรายใหญ่และผู้ลงทุน ส่วนหุ้นกู้ในตลาดรองสัปดาห์ที่ผ่านมามีอัตราผลตอบแทนลดลง สวนทางกับอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ที่มีอายุต่ำกว่า 2 ปี มีอัตราผลตอบแทนที่ซื้อขายกันในตลาดรองลดลงโดยเฉลี่ยกว่า 5bps โดยหุ้นกู้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือ AAA รุ่นอายุ 2 ปี มีอัตราผลตอบแทนที่ซื้อขายอยู่ที่ 2.40%