posttoday

บีโอไอ เดินหน้าแนวคิด BCG ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืน

05 กันยายน 2565

บีโอไอ ผลักดันแนวคิดเศรษฐกิจ BCG มุ่งใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่า สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจจากทั่วโลก เผยสถิติคำขอรับการส่งเสริมฯ กิจการกลุ่ม BCG รอบ 7 ปี 6 เดือน นับจากปี 2558 – มิถุนายน 2565 มีจำนวน 3,320 โครงการ คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุน 752,691ล้านบาท ล่าสุดนำสื่อมวลชนเยี่ยมชมกิจการบริษัท ฟรุตต้า ไบโอเมด สตาร์ตอัปไบโอเทคไทย ผู้ผลิตพลาสติกชีวภาพชนิด PHA รายแรกของไทย

นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ เปิดเผยว่า บีโอไอ ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับกิจการกลุ่ม Bio-Circular-Green Economy (BCG Economy) ซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ กิจการในกลุ่ม BCG มีความสำคัญมากต่อเศรษฐกิจไทยและมีการลงทุนในอุตสาหกรรมนี้อย่างต่อเนื่อง พิจารณาได้จากสถิติขอรับการส่งเสริมการลงทุน ตั้งแต่ปี 2558 – มิถุนายน 2565 คำขอรับการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรม BCG มีจำนวนรวม 3,320 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 752,691 ล้านบาท   

บีโอไอ เดินหน้าแนวคิด BCG ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืน

“รัฐบาลได้กำหนดนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตแบบก้าวกระโดดบนรากฐานการพัฒนาอย่างยั่งยืนโดยปรับเปลี่ยนรูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไปสู่แนวคิดเศรษฐกิจ BCG มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า คำนึงถึงการนำวัสดุต่างๆ กลับมาใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุด และมุ่งสู่การพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” นางสาวดวงใจกล่าว

ที่ผ่านมาบีโอไอ มีมาตรการสนับสนุนธุรกิจในกลุ่ม BCG และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง ครอบคลุมหลากหลายประเภทกิจการ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่หรือเล็ก และตระหนักถึงความสำคัญของผู้ประกอบการสตาร์ตอัปที่มีเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยให้การสนับสนุนในด้านเงินลงทุนแก่สตาร์ตอัป ตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520 และ พ.ร.บ. การเพิ่มขีดความสามารถในกำรแข่งขันของประเทศ สำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย พ.ศ. 2560 ซึ่งบีโอไอเชื่อว่าจะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้แก่เศรษฐกิจและสังคม และช่วยส่งเสริมความเข้มแข็งและยกระดับเศรษฐกิจไทยไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนในอนาคต

บีโอไอ เดินหน้าแนวคิด BCG ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืน

นายรักชัย เร่งสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟรุตต้า ไบโอเมด จำกัด กล่าวว่า ประเทศไทยมีศักยภาพทางด้านความหลากหลายของวัตถุดิบ ซึ่งจำเป็นต้องเร่งสร้างเทคโนโลยีเพื่อต่อยอด ไปสู่อุตสาหกรรมชีวภาพขั้นสูง สำหรับฟรุตต้าเริ่มต้นธุรกิจจากการผลิตเครื่องดื่มประเภทน้ำผัก ผลไม้ และมีกากและเศษที่เหลือจากผลไม้ที่ผ่านกระบวนการผลิตในโรงงาน เช่น เปลือกมะละกอ เปลือกกล้วย รวมถึงน้ำมะพร้าวที่ค้างท่อจากการผลิตในปริมาณมาก บริษัทจึงได้คิดค้นการใช้ประโยชน์จากสิ่งเหลือทิ้งข้างต้นและพบว่า สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มจากการนำมาใช้เลี้ยงแบคทีเรียที่เป็นต้นกำเนิดของพลาสติกชีวภาพได้ ด้วยการใช้กระบวนการทางด้านปฏิกิริยาชีวภาพเข้ามาเปลี่ยนโครงสร้างโมเลกุลของแบคทีเรีย เพื่อให้ได้แบคทีเรียชนิดที่ดีที่สุด เพื่อนำมาใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตเป็นเม็ดพลาสติกชีวภาพชนิด PHA (POLYHYDROXYALKANOATES) และ PHA BIOPLASTIC COMPOUND และนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ จากพลาสติกชีวภาพชนิด PHA เช่น ถุง ขวด หรือบรรจุภัณฑ์พลาสติกอื่น เป็นต้น และจะขยายการลงทุนไปสู่กำลังการผลิตที่ 1,100 ล้านชิ้น นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนต่อยอดงานวิจัยและพัฒนาไปสู่ผลิตภัณฑ์ ด้านการแพทย์ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์ และเกิดประโยชน์แก่วงการแพทย์ต่อไป

บีโอไอ เดินหน้าแนวคิด BCG ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืน

บีโอไอ เดินหน้าแนวคิด BCG ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืน