รัฐเตรียมใช้วัคซีนคุมกำเนิดช้างป่า แก้ปัญหารุกพื้นที่เกษตร
รัฐเร่งแก้วิกฤตช้างป่าบุกรุกพื้นที่เกษตร กำหนดมาตรการเร่งด่วน เตรียมใช้วัคซีนคุมกำเนิดควบคุมประชากร หลังพบประชากรช้างป่าเพิ่มขึ้นถึง 7-8% ต่อปี
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เปิดเผยในการตอบกระทู้ถามที่รัฐสภาเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหาช้างป่าบุกรุกพื้นที่ทำกินของประชาชนว่า กระทรวงฯ ได้กำหนดมาตรการเร่งด่วน เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว
ปัจจุบันประเทศไทยมีช้างป่ากว่า 4,000 เชือก โดยมีอัตราการเพิ่มประชากร 7-8% ต่อปี คาดการณ์ว่าในอีก 10 ปีข้างหน้า จำนวนช้างป่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 8,000 เชือก ซึ่งส่งผลให้เกิดการบุกรุกพื้นที่เกษตรกรรมเพิ่มมากขึ้น
มาตรการสำคัญที่กระทรวงฯ จะดำเนินการ ประกอบด้วย การเพิ่มพื้นที่ป่าเพื่อเป็นแหล่งอาหาร การสร้างแนวกันช้าง การจัดชุดเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่า การช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ การจัดการพื้นที่รองรับช้างป่าอย่างยั่งยืนใน 5 กลุ่มป่า และการควบคุมประชากรช้างผ่านการใช้วัคซีนคุมกำเนิด
"วัคซีนคุมกำเนิดที่จะนำมาใช้ไม่ใช่การทำหมัน แต่เป็นการควบคุมฮอร์โมนในช้างเพศเมียที่เคยมีลูกแล้วเท่านั้น โดยมีระยะเวลาการออกฤทธิ์ 7 ปี ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาที่เราสามารถเพิ่มพื้นที่ป่าและแหล่งอาหารให้เพียงพอ" รมว.ทส. กล่าว
นอกจากนี้ กระทรวงฯ ยังได้นำเทคโนโลยีโดรนมาใช้ในการเฝ้าระวังการเคลื่อนที่ของช้างป่า พร้อมทั้งปรับปรุงหลักเกณฑ์การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ทั้งกรณีบาดเจ็บ เสียชีวิต และความเสียหายทางการเกษตร รวมถึงการดูแลเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครที่ปฏิบัติงานในพื้นที่
"หากไม่เร่งแก้ไขปัญหานี้ ในอีก 10-20 ปีข้างหน้า จะกลายเป็นวิกฤตระดับชาติที่ส่งผลกระทบไม่เพียงแค่พื้นที่รอยต่อป่า แต่จะลุกลามถึงเขตเมืองและพื้นที่เกษตรกรรมในวงกว้าง" รมว.ทส. กล่าวทิ้งท้าย