แพทองธาร ประกาศใช้ AI หนุนไทยเป็นคลังเก็บอาหารในภูมิภาค

          น.ส.แพทองธาร ชินวัตร กล่าวปาฐกถา ในงาน ASEAN Economic Outlook 2025: The Rise of ASEAN, A Renewing Opportunity ซึ่งจัดขึ้นโดย กรุงเทพธุรกิจ ว่า เมื่อวันที่ 3 ต.ค.2567 ที่ผ่านมา ตนได้มีโอกาสร่วมประชุมระดับผู้นำกรอบความร่วมมือเอเชีย (Asia Cooperation Dialogue: ACD) ครั้งที่ 3 ณ เมืองโดฮา ประเทศกาตาร์ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกลุ่มประเทศภูมิภาคอาเซียน รวมถึงแผนงานที่กำลังดำเนินงานของรัฐบาล  เพื่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกันของนานาๆประเทศ ขณะเดียวกันที่หลายประเทศ ได้แสดงความสนใจเข้ามาลงทุนประเทศไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะการลงทุนในธุรกิจ AI และเทคโนโลยี, health , wellness  รวมถึงบริการต่างๆ ที่ไทยมีศักยภาพเป็นที่ยอมรับทั่วโลก 

          ทั้งนี้หากกล่าวถึงเศรษฐกิจอาเซียนในปัจจุบันมี 10 ประเทศ มีมูลค่า 119 ล้านล้านบาท มีแนวโน้มขยายตัวปีละ 4-5% ต่อเนื่องหลังจากนี้ โดยตลาดอาเซียนเป็นอันดับ 1 ใน 5 ของโลก และพึ่งพาได้ในทุกระยะ และ ในวันพรุ่งนี้(8 ตค.67) ตนจะเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เพื่อประชุม สุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 44 – 45 โดยจะใช้เวทีนี้เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจร่วมกัน โดยจะเน้นใน 4 ประเด็น

          ประเด็นแรก คือ ปลดล็อกข้อกฎหมาย ความยุ่งยาก ต่อการทำธุรกิจ และ ลงทุน เพื่อสนับสนุนการลงทุนระหว่างประเทศ  2. เสนอใช้พื้นที่ประเทศไทย เป็นโซนที่สร้างความสงบสุข เพื่อส่งเสริมการลงทุนให้กับทุกประเทศ เช่น จีน แสดงความสนใจเข้ามาลงทุนในธุรกิจรถอีวี และโซลาร์เซลล์ ล่าสุดบริษัทกูเกิล ประกาศลงทุนในไทยแล้ว ขณะที่หลายประเทศสนใจเข้ามาลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์  

          3.ยกระดับระบบขนส่งในเอเซียนให้เป็นแผนที่เดียวกัน ครอบคลุมทั้ง จีน เวียดนาม กัมพูชา ลาว เมียนมา และไทย เพื่อเป็นประโยชน์ในการส่งออก โดยเฉพาะสินค้าเกษรตรไปจีน โดยขณะนี้เราอยู่ระหว่างพัฒนาโครงการคมนาคมต่างๆ เช่น  รถไฟความเร็วสูง พัฒนาท่าเรือ รถไฟรางคู่ และแลนด์บริดจ์

          หากทุกอย่างเชื่อมต่อกัน จะช่วยหนุนให้การส่งออกของไทยขยายตัวได้เพิ่มขึ้น โดยรัฐบาลจะผลักดันให้เกิดขึ้นอย่างเร็วที่สุด ซึ่งการเชื่อต่อท่าเรือ เช่น อ่าวไทย กับอันดามัน จะช่วยลดค่าใช้จ่าย ต้นทุนของภาคธุรกิจในทุกภาคส่วน

          อนาคตอาเซียนจะเป็นศูนย์กลางการส่งออกอาหาร เรื่องความปลอดภัยของอาหาร หรือ ฟู้ด ซีเคียวริตี้ เป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในประเทศที่มีปัญหาความขัดแย้งภายในประเทศ เขาต้องการพื้นที่เก็บคลังอาหาร ซึ่งประเทศไทยสามารถทำได้ เราจะต้องนำ AI เข้ามาใช้ บริหารจัดการ ทั้งเรื่องการตรวจสอบอาหาร การส่งออกอาหารไปยังประเทศนั้นๆ เพื่อสร้างเป็นมาตรฐานระดับโลก และสามารถเพิ่มรายได้ให้กับคนในประเทศได้ โดยจากการพูดคุยในหลายประเทศ ต่างมีความสนใจทุกประเทศ

ฟู้ด ซีเคียวริตี้ เป็นสิ่งสำคัญ ประเทศที่มีปัญหาความขัดแย้งภายใน ต้องการพื้นที่เก็บคลังอาหารยามจำเป็น ไทยทำได้ทันที เราจะใช้ AI เข้ามาบริหารจัดการสร้างมาตรฐานระดับโลก เพื่อเพิ่มรายได้ให้คนไทย

          4.ปัญหาสิ่งแวดล้อม เป็นโจทย์ที่รัฐบาลต้องเตรียมความพร้อมในการรับมือภาวะโลกเดือด เราจะสร้างความให้กับประชาชนอย่างไร ในการรับมือการเปลี่ยนแปลงที่คาดไม่ถึง รวมถึงแผนการ ป้องกัน และ เยียวยาอย่างไร หรือจะมีการสร้างเขื่อนหรือไม่ 

          ขณะเดียวกันรัฐบาล จะเร่งรัดนโยบายเป้าหมายประเทศไทยไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2050 รัฐบาลจะส่งเสริมการใช้พลังงานทางเลือกเพิ่มขึ้น เช่น การใช้โซล่าร์เซลล์ หรือ พลังงานทางเลือกอื่นๆ เป็นต้น