posttoday

TDRI ชี้ Bitcoin Sandbox เกิดยาก หากใช้เงินดิจิทัลทดแทนเงินบาทเสี่ยงผิดพ.ร.บ.เงินตรา

16 มกราคม 2568

นักวิชาการTDRI แนะรัฐถกธปท.ก่อนเดินหน้า ภูเก็ต Bitcoin Sandbox ชี้นำเงินสกุลดิจิทัลมาชำระค่าสินค้า-บริการแทนเงินสดโดยไม่ผ่านเงินบาท อาจผิดพ.ร.บ.เงินตรา แต่หากทำเพื่ออำนวยความสะดวกโดยนำเงินดิจิทัลแลกเป็นเงินบาทสามารถทำได้ แต่ไม่ส่งผลกระตุ้นเศรษฐกิจ

ดร.นณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโสจากสถาบันการวิจัยเพื่อพัฒนาประเทศไทย (TDRI) กล่าวถึงกรณี นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เสนอให้มีการทดสอบนำเงินสกุลดิจิทัล (Cryptocurrency) มาชำระค่าสินค้าและบริการแทนเงินสด โดยใช้ ภูเก็ต เป็น  “Bitcoin Sandbox” ว่าการใช้เงินดิจิทัลมาชำระค่าสินค้าและบริการ เคยมีการทดลองโดยธุรกิจ exchange ซึ่งอาศัยความร่วมมือกับธุรกิจ เช่น อสังหาริมทรัพย์ 

โดยมองว่า รูปแบบการให้บริการไม่ได้มีความโดดเด่นอะไร คือ ธุรกิจ exchange รับเงินดิจิทัลมาแปลงเป็นเงินบาท หักค่าธรรมเนียมแล้วก็จ่ายเงินบาทให้ธุรกิจ จึงไม่ได้ถือเป็นการเอาเงินดิจิทัลมาใช้ในระบบเศรษฐกิจ แต่เป็นแต่การอำนวยความสะดวกทางการเงินมากกว่า เหมือนคนรวยที่มีเงินสกุลต่างชาติที่หากจะมาซื้อสินค้าและบริการในไทยก็ต้องแลกเงินกับศูนย์แลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศก่อน

ปัญหาตัวนึงก็คือ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) น่าจะมองว่าการเอื้ออำนวยความสะดวกแบบนี้เป็นการสนับสนุนให้ใช้เงินดิจิทัลแข่งกับเงินบาท จึงออกประกาศห้ามไม่ให้ธุรกิจ exchange ทำกิจกรรมในลักษณะนี้ ทำให้ปัจจุบันก็จะไม่เห็นมีการซื้อขายสินค้าโดยเงินดิจิทัล

อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลต้องการทำก็ต้องพุดคุยกับธปท. ซึ่งส่วนตัวมองว่าการเอื้ออำนวยแบบนี้อาจจะไม่ได้ส่งผลมากมายแบบการยอมรับให้มีการใช้เงินดิจิทัลใช้ชำระหนี้ได้ตามกฏหมาย 

ทั้งนี้ โดยธรรมชาติเงินที่ใช้เป็นสื่อกลางควรจะต้องมีราคาที่คงตัว ไม่ผันผวนมากหรือมีมูลค่าเพิ่มหรือลดไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง ซึ่งจะทำให้ผู้ซื้อผู้ขายอยากจะสะสม ถ้ามูลค่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หรือปฏิเสธรับหากมูลค่ามีแนวโน้มลดลง ทำให้มองว่าแม้ว่าจะยอมให้ใช้ได้แบบอำนวยความสะดวกก็ไม่น่าจะเป็นที่นิยมเท่าใดนัก และไม่ส่งผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างชัดเจน 

ถ้าคิดว่าราคาจะเพิ่ม หรือความเสี่ยงของเงินสกุลอื่นๆจะต้องใช้เงินดิจิทัลในแง่ของการสะสมมูลค่า หรือก็คือ ไม่ได้เอามาซื้อขายทั่วๆไป แต่ให้ซื้อเก็บยาวแบบทองคำ/เพชร ซึ่งระบบซื้อขายแบบนี้มีอยูแล้วในปัจจุบัน

ขึ้นกับว่ากิจกรรมที่อยากทำใน sandbox จะเน้นแค่อำนวยความสะดวก คือ รับแลกเงินดิจิทัลมาเป็นบาท แต่ยังคงซื้อขายด้วยบาทเป็นหลัก แบบนี้ทำได้ง่ายกว่า แค่แก้ประกาศ หรือ จะเป็นการซื้อขายแลกเปลี่ยนกันโดยตรงในรูปแบบเงินดิจิทัลโดยไม่ผ่านเงินบาทเลย ซึ่งแบบนี้น่าจะผิดพระราชบัญญัติเงินตรา และทำได้ยาก

นอกจากนี้ในส่วนของภาคธุรกิจเอง มองว่าความต้องการใช้เงินสดก็เป็นประเด็นที่สำคัญ และยิ่งทำให้เอาเงินสกุลดิจิทัลมาใช้หมุนเวียนจริงได้ยาก ดังนั้นที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง คาดว่า จะเห็นการ Sandbox ใช้เงินคริปโตฯในไทย ภายในปี 2568 นั้น ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้

จะเกิดขึ้นได้ภายในปีนี้มั้ย เป็นเรื่องเดายาก แต่น่าจะไม่ได้ จะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก คือต้องแก้ประกาศ ธปท.อย่างที่บอก ถ้าถามว่าเกี่ยวกับพ.ร.บ.เงินตราของธปท.มั้ย ผมมองว่าเกี่ยวน้อยหากทำแค่อำนวยความสะดวก แต่ถ้าจะให้นำมาใช้แบบเป็นล่ำเป็นสันจะเกี่ยวมากและเกิดขึ้นยากมากๆ

สำหรับ พระราชบัญญัติเงินตรา ของธปท.ระบุว่า เงินสกุลหลักของประเทศ จะต้องมีสกุลเดียว คือ เงินบาท ซึ่งออกโดย ธปท. และยอมรับให้เป็นเงินที่สามารถใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย โดยปัจจุบัน ธปท.ยังไม่ให้การยอมรับ Cryptocurrency เป็นตัวกลางการชำระเงินขณะนี้ เนื่องจากมองว่า มีความเสี่ยงเรื่องความผันผวนของมูลค่า

ทั้งนี้ Cryptocurrency เป็นเงินตราอิเล็กทรอนิกส์สกลุเงินสมมุติ ที่ถูกสร้างในรูปแบบดิจิทัล เพื่อใช้เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ โดยไม่ได้ขึ้นอยู่กับสกุลใดๆ ไม่มีรูปร่าง ไม่สามารถจัดต้องได้เหมือนธบัตรหรือเหรียญทั่วไป เป็นสกุลเงินที่ใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ มีหลายสกุล เงินสกุลดิจิทัลแรกคือ Bitcoin ถูกสร้างขึ้นมาปี 2552