ตลาดหุ้นไทยปิดลบ 6.16 จุด รับแรงกดดันส่งออกไทยหดตัวกว่าคาด
ตลาดหุ้นไทยปิดลบ 6.16 จุด โบรกฯ ชี้รับแรงกดดันส่งออกไทยหดตัวกว่าคาด และขาดดุลการค้ากว่าคาด กระทบดุลบัญชีเดินสะพัดติดลบ กดดันเงินบาทอ่อนค่า เป็นลบต่อกระแสเงินทุนต่างชาติ ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวพรุ่งนี้ 1,520-1,540 จุด
ดัชนีตลาดหุ้นไทย วันนี้ (30 พ.ค.) ปิดตลาดที่ 1,534.81 จุด ปรับลดลง 6.16 จุด หรือปรับลดลง 0.40% มูลค่าการซื้อขาย 46,658.70 ล้านบาท ระหว่างวันขึ้นไปทำระดับสูงสุดที่ 1,545.55 จุด และลงไปต่ำสุดที่ 1,531.30 จุด แบ่งตามประเภทนักลงทุน สถาบันในประเทศ ซื้อสุทธิ 2,007.73 ล้านบาท บัญชี บล. ขายสุทธิ 146.38 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 3,063.57 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปในประเทศ ซื้อสุทธิ 1,202.22 ล้านบาท
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ในช่วงเช้านั้นตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ อย่างไรก็ตามช่วงบ่ายเปิดตัวเข้าสู่แดนลบ คาดว่าเป็นผลจากการที่กระทรวงพาณิชย์รายงานมูลค่าส่งออกประจำเดือน เม.ย. หดตัว 7.6%YoY แย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์กันว่าจะหดตัวเพียง 2%YoY พร้อมกับขาดดุลการค้ากว่า 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แย่กว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ที่ขาดดุลเพียง 450 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งอาจจะกระทบต่อดุลบัญชีเดินสะพัดให้ติดลบและกดดันเงินบาทอ่อนค่า เป็นลบต่อกระแสเงินทุนต่างชาติ
โดยคืนนี้สหรัฐจะกลับมาเปิดทำการปกติ หลังจากผ่านพ้นวันหยุด Memorial Day โดยปัจจัยติดตาม ได้แก่ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากสถาบัน CB Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 99.1 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 101.3 ถือเป็นปัจจัยสะท้อนการอ่อนแอของเศรษฐกิจในสหรัฐ จากฝั่งอุปสงค์
สำหรับแนวโน้มพรุ่งนี้ (31 พ.ค.) ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1,520-1,540 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,295.25 ล้านบาท ปิดที่ 130.00 บาท ลดลง 2.50 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,967.18 ล้านบาท ปิดที่ 63.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,376.35 ล้านบาท ปิดที่ 103.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,353.06 ล้านบาท ปิดที่ 70.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,327.94 ล้านบาท ปิดที่ 96.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท