ทรัมป์แพ้ยกแรก!! ศาลสหรัฐฯ ระงับคำสั่งจำกัดสิทธิการเป็นพลเมืองโดยกำเนิด

จอห์น คูเกนเนอร์ ผู้พิพากษาเขตของสหรัฐฯ ซึ่งตั้งอยู่ในซีแอตเทิล ออกคำสั่งห้ามชั่วคราว ตามคำร้องของรัฐที่นำโดยพรรคเดโมแครต 4 รัฐ ได้แก่ วอชิงตัน แอริโซนา อิลลินอยส์ และออริกอน เพื่อป้องกันไม่ให้ฝ่ายบริหารบังคับใช้คำสั่งดังกล่าว หลังทรัมป์ลงนามคำสั่งดังกล่าวเมื่อวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันแรกที่เขากลับเข้ารับตำแหน่ง

 

ผู้พิพากษา ซึ่งเป็นผู้ได้รับการแต่งตั้งจากอดีตประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกนจากพรรครีพับลิกัน ยัดเยียดความพ่ายแพ้ทางกฎหมายครั้งแรกต่อนโยบายเข้มงวดเกี่ยวกับการอพยพเข้าเมือง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการดำรงตำแหน่งสมัยที่สองของทรัมป์

 

“แน่นอนว่าเราจะอุทธรณ์” ทรัมป์กล่าวถึงคำตัดสินนี้

 

 ภายใต้คำสั่งของทรัมป์ ให้หน่วยงานต่างๆ ของสหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะรับรองความเป็นพลเมืองของเด็กคนใดก็ตามที่เกิดในสหรัฐอเมริกาหลังวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ซึ่งพ่อแม่ไม่ใช่พลเมืองอเมริกันหรือผู้อยู่อาศัยถาวรตามกฎหมาย รวมถึงจะต้องถูกส่งตัวกลับประเทศ และจะถูกขัดขวางไม่ให้ได้รับหมายเลขประกันสังคม สิทธิประโยชน์ต่างๆ จากรัฐบาล 

 

รัฐต่างๆ แย้งว่าคำสั่งของทรัมป์ละเมิดสิทธิที่กำหนดไว้ในมาตราความเป็นพลเมืองของการแก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่ 14 ของรัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกา ซึ่งกำหนดว่าใครก็ตามที่เกิดในสหรัฐอเมริกาจะต้องเป็นพลเมือง

 

เด็กแรกเกิดมากกว่า 150,000 คนจะถูกปฏิเสธการเป็นพลเมืองทุกปี หากคำสั่งของทรัมป์ได้รับอนุญาตให้ยืนหยัด ตามการระบุของรัฐที่นำโดยพรรคเดโมแครต

 

นับตั้งแต่ทรัมป์ลงนามคำสั่งดังกล่าว มีการฟ้องร้องอย่างน้อย 6 คดีเพื่อให้ยกเลิกคำสั่งนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคดีของกลุ่มสิทธิพลเมืองและอัยการสูงสุดจากพรรคเดโมแครตจาก 22 รัฐ

 

อัยการสูงสุดของพรรคเดโมแครตกล่าวว่าความเข้าใจในมาตราความเป็นพลเมืองของรัฐธรรมนูญนั้นได้รับการแก้ไขแล้วเมื่อ 127 ปีที่แล้ว เมื่อศาลฎีกาสหรัฐตัดสินว่า เด็กที่เกิดในสหรัฐอเมริกาโดยพ่อแม่ที่ไม่ใช่พลเมืองมีสิทธิได้รับสัญชาติอเมริกัน

 

การแก้ไขครั้งที่ 14 ซึ่งนำมาใช้ในปี พ.ศ. 2411 หลังสงครามกลางเมืองของสหรัฐอเมริกา ได้ล้มล้างคำตัดสินของศาลฎีกาที่โด่งดังในปี พ.ศ. 2400 ของเดรด สก็อตต์ ซึ่งได้ประกาศว่าการคุ้มครองของรัฐธรรมนูญไม่ได้ใช้กับคนผิวดำที่เป็นทาส