posttoday

ตลท. เพิกถอนหุ้น OISHI ออกจาก SET 6 ก.ย. ซื้อขายวันสุดท้าย 5 ก.ย.นี้

28 สิงหาคม 2566

OISHI ซื้อขายใน SET วันที่ 5 ก.ย.66 เป็นวันสุดท้าย ก่อน ตลท.เพิกถอนจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนตั้งแต่ 6 ก.ย.66 เป็นต้นไป หลังไทยเบฟฯ ทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือ เหตุปริมาณซื้อขายหุ้นมีไม่มาก-เล็งปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจอาหารและกลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แจ้งว่า ตามที่บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ OISHI ได้ขอเพิกถอนหุ้นสามัญของบริษัทจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ นั้น บัดนี้ OISHI ได้ดำเนินการตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์ฯ เรื่องการเพิกถอนหลักทรัพย์จดทะเบียน พ.ศ. 2564 แล้ว 

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 171 (4) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงสั่งเพิกถอนหุ้นสามัญของ OISHI จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 6 ก.ย.2566 เป็นต้นไป โดยหุ้นสามัญของ OISHI จะซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นวันสุดท้ายในวันที่ 5 ก.ย.2566

ก่อนหน้านี้ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) หรือ ไทยเบฟ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท ถือหุ้น จำนวนทั้งสิ้น 298,720,398 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 79.66% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัท) มีความประสงค์ที่จะทำคำเสนอซื้อหุ้นสามัญของบริษัทที่เหลือทั้งหมดจำนวน 76,279,602 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 20.34% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัท เพื่อการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัท จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในราคาเสนอซื้อหุ้นที่ราคา 59.00 บาทต่อหุ้น

ทั้งนี้ ไทยเบฟแจ้งว่าเหตุผลและที่มาของการทำคำเสนอซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทดังกล่าว ดังนี้ 

(ก) ไทยเบฟเล็งเห็นว่าปัจจุบันปริมาณการซื้อขายหุ้นของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีไม่มากนัก ไทยเบฟจึงเห็นว่าการทำคำเสนอซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัท เพื่อเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทในครั้งนี้ จะเป็นการเพิ่มทางเลือกและโอกาสให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยของบริษัทสามารถขายหุ้นของบริษัทได้

(ข) กลุ่มไทยเบฟอยู่ในระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้เกี่ยวกับแผนการปรับโครงสร้างการดำเนินงานและการประกอบธุรกิจของกลุ่มธุรกิจอาหาร และกลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ภายในกลุ่ม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ และ/หรือเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ 

โดยจะดำเนินการจัดกลุ่มธุรกิจอาหาร และกลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งรวมถึงการปรับโครงสร้างของกิจการในเรื่องต่างๆ ซึ่งอาจดำเนินการในลักษณะของการซื้อ จำหน่าย หรือโอนทรัพย์สินหรือสิทธิต่างๆ การควบรวมกิจการ การโอนสิทธิตามสัญญาทางการเงิน การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์หรือแนวทางในการดำเนินธุรกิจ การเปลี่ยนแปลงนโยบายการบริหารงาน การโอนย้ายพนักงาน การกู้ยืม-ให้กู้ยืมเงิน การระดมทุนในรูปแบบต่างๆ เป็นต้น ซึ่งการปรับโครงสร้างที่กล่าวมานี้อาจมีการทำรายการหรือธุรกรรมระหว่างบริษัทกับไทยเบฟ และ/หรือบริษัทในกลุ่มไทยเบฟได้

ทั้งนี้ ไทยเบฟจะพิจารณาดำเนินการตามแผนการดังกล่าวตามความเหมาะสมในอนาคต เนื่องจากแผนการดังกล่าวยังมีความไม่แน่นอน จึงอาจมีการเพิ่มเติม และ/หรือ เปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้น การเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน จะทำให้สามารถเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจัดการกิจการและแผนการปรับโครงสร้างดังกล่าวมากยิ่งขึ้น 

(ค) เนื่องจากบริษัทจะไม่มีสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ อีกต่อไป การดำเนินการดังกล่าวจะยังช่วยลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการเป็นบริษัทจดทะเบียน

อย่างไรก็ตาม ภายหลังการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทจะยังมีสถานะเป็นบริษัทมหาชนจำกัด และจะยังคงปฏิบัติตามกฎหมายและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการดำเนินการตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีต่อไป