โบรกส่องงบไตรมาส 2/67 "OR" ร่วงแรง ? จับตากฏหมายคุมราคาน้ำมัน
3โบรกเกอร์เห็นพ้อง "OR" กำไรไตรมาส 2/2567 อ่อนแรงเหตุ Gross Margin ต่อลิตรลดลง - ปริมาณขายหดตัว และผลงานขาลงต่อเนื่องในไตรมาส 3/2567 พร้อมจับตา "ร่างกฎหมายใหม่" แทน พ.ร.บ.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและการตรึงดีเซล หวั่นฉุดกำไรหุ้นพลังงาน
นับตั้งแต่ราคาหุ้น "บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR" หลุดต่ำกว่าราคาไอพีโอ 18 บาท เมื่อวันที่ 28 พ.ค. 2567ที่ผ่านมา ก็ปล่อยไหลยาวลงมาอย่างต่อเนื่อง และดูเหมือนจะไม่มีอะไรที่จะสามารถยื้อให้ราคากลับขึ้นมายืนเหนือราคาไอพีโอได้ และทำราคาต่ำสุดในช่วงวานนี้(26 ก.ค.67) อยู่ที่ 15.40 บาท ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เข้ามาซื้อขายในตลาดหุ้น
ขณะที่ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น OR วันนี้(30 กรกฎาคม 2567) ณ เวลา 12.15 น. ราคาหุ้น OR อยู่ที่ 15.70 บาท มูลค่าการซื้อขาย 47.89 ล้านบาท ราคาขึ้นสูงสุด 15.70 บาท และลดลงต่ำสุด 15.50 บาท
นายเอกรินทร์ วงษ์ศิริ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ คาดว่า "OR" จะรายงานกำไรในไตรมาส 2/67 ลดลงเหลือ 2.6 พันล้านบาท ลดลง -4.5% YoY , -29% QoQ โดยลดลงคาดว่าจาก Gross Margin ต่อลิตรที่ลดลง 1) คาดปริมาณขายจะอยู่ราว 6.4 พันล้านลิตร ลดลง -2% YoY, -2% QoQ โดยลดลง YoY จากส่วนแบ่งตลาดที่ลดลง
2) Gross Margin ต่อลิตรคาดว่าจะลดลงเหลือ 0.95 บาทต่อลิตร -1% YoY, -15% QoQ โดยลดลงค่อนข้างมาก QoQ จากไตรมาสก่อนมี Stock gain บางส่วน ซึ่งระดับ 0.9-1.0 บาท ถือว่าเป็นระดับปกติของบริษัท
และ 3) ธุรกิจ Lifestyle (Non-Oil) คาด EBITDA ที่ 1.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น +19% YoY, +12% QoQ จากปริมาณขาย Amazon ที่เพิ่มขึ้นมาเป็น 103 ล้านแก้ว และค่าใช้จ่ายที่ปรับลดลง โดยคาดว่า EBITDA Margin จะอยู่สูงที่ราว 30%
ส่วน แนวโน้มกำไรไตรมาส 3/67 คาดว่าจะปรับลดลงตามผลของฤดูกาลที่เป็นช่วงหน้าฝน ซึ่งจะส่งผลต่อปริมาณขายน้ำมันที่คาดว่าจะปรับลดลง ทั้งนี้ ประมาณการในช่วงครึ่งแรกของปี2567 คิดเป็น 49% ของประมาณการทั้งปีของเรา โดยฝ่ายวิเคราะห์ยังคงประมาณการกำไรทั้งปีที่ 1.3 หมื่นล้านบาท แต่มีแนวโน้มที่อาจจะมี downside risk
ดังนั้นคงคำแนะนำ “ซื้อ” คงราคาเป้าหมายปี 2024 ที่ 27 บาท อิง PER 25 เท่า ราคาหุ้น OR ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมาราคาหุ้นปรับลดลงไป -2% ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับ Sector พลังงานระยะสั้นอาจจะได้รับแรงกดดันจากร่างกฎหมายใหม่แทน พ.ร.บ.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและการตรึงดีเซลซึ่งอาจจะมีผลต่อ Gross Margin ของบริษัทได้ ความเสี่ยงคือความผันผวนของราคาน้ำมันและการแพร่ระบาดของ COVID-19
รอดูกฏหมายคุมราคาน้ำมัน
บล.กรุงศรี แนะนำ Neutral ที่ราคาเป้าหมาย 20 บาท มอง Neutral ต่อกำไรสุทธิ 2Q24F ของ OR ที่ 2,494 ลบ. (-9% y-y, -33% q-q) ใกล้เคียงที่เคยประเมิน ลดลง y-y q-q ฉุดจากฝั่ง Mobility ที่เผชิญการแข่งขันสูง และมี stock loss มาฉุดกำไรขั้นต้นต่อลิตร ฝ่ายวิเคราะห์คาด 3Q24F กำไรยังลดลง q-q จากปัจจัยฤดูกาล (หน้าฝน) ที่ส่งให้ปริมาณขายลดลงเล็กน้อย
ทั้งนี้ฝ่ายวิเคราะห์ปรับลดกำไร 2024-2026F ลง -3-7% และปรับ TP24F ลงเป็น 20 บาท/หุ้น ปรับคำแนะนำลงเป็น Neutral จากระยะสั้นขาด catalyst (กำไร 2Q-3Q24F ลด q-q) และมีความไม่ชัดเจนของกฏหมายคุมราคาน้ำมัน
กำไร 2Q24 วูบ
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน แนะนำ“ถือ” ราคาเป้าหมายที่ 16.50 บาท คาดกำไร 2Q24 ของ OR จะลดลงทั้ง qoq และ yoy จากอัตรากำไรทางการตลาดที่ลดลง โดยคาดกำไรสุทธิจะยังเป็นขาลงใน 3Q24 จากปัจจัยฤดูกาล แม้จะสามารถปรับลดค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังไม่สามารถชดเชยกำไรของธุรกิจที่อ่อนแอได้
ฝ่ายวิเคราะห์จึงปรับประมาณการกำไรปกติปี 2024-2025 ลง คงคำแนะนำ “ถือ” ด้วยราคาเป้าหมายที่ 16.50 บาท