posttoday

SET อัพไซด์ยังจำกัด พักตัวอยู่ แนะ “Selective Buy” ชู CPALL และ GULF

30 กันยายน 2567

SET อัพไซด์ยังจำกัด หลังไร้ปัจจัยหนุนใหม่ และขาดแรงส่งจากหุ้นขนาดใหญ่ เหตุเม็ดเงินย้ายมาเก็งกำไรหุ้นขนาดกลางและเล็กแทน รวมทั้งดัชนีอยู่ในช่วงพักตัว กลยุทธ์การลงทุน “Selective Buy” แนะนำ CPALL และ GULF

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) ประเมินว่า ตลาดที่ขาดปัจจัยหนุนใหม่ และขาดแรงส่งจากหุ้นขนาดใหญ่ เนื่องจากเม็ดเงินย้ายมาเก็งกำไรในหุ้นขนาดกลาง และเล็ก แทน ทำให้ในช่วงนี้ยังมองดัชนีมี upside จำกัด โดยมีแนวต้าน อยู่ที่ 1,460 และ 1,470 จุด ตามลำดับ และดัชนีอยู่ในช่วงพักตัว โดยมีแนวรับอยู่ที่บริเวณ 1,440 และ 1,435 จุด ตามลำดับ

ทั้งนี้ ช่วงสั้นมอง SET จะยังแกว่งตัว Sideway Up แต่อาจเผชิญแรงขายทำกำไรระยะสั้นเป็นระยะๆ จากปัจจัยภายนอกและจากราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่องในช่วงก่อนหน้า ทั้งนี้ มองว่าตลาดหุ้นไทยจะได้รับแรงหนุนจากทิศทางดอกเบี้ยที่จะกลับเข้าสู่ขาลง (คลัง และ ธปท. จะมีการพูดคุยกันในสัปดาห์นี้) และนโยบายผลักดันแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ รวมทั้งการแข็งค่าของเงินบาทคาดจะยังหมุนการไหลเข้าของ Fund Flow โดยประเมินว่าหาก SET จะปรับขึ้นได้แรง ต้องเกิดจากการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร อสังหาฯ อิเล็กทรอนิกส์ และท่องเที่ยว ขณะที่หุ้นกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนก่อนหน้านี้คาดจะยังให้ผลตอบแทนดีต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการของจีนและสหรัฐ คาดจะยังชะลอตัวลง ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ "Selective Buy“ ใน 3 ธีมที่มีปัจจัยเฉพาะตัว ดังนี้

1. หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากกองทุนวายุภักษ์รอบใหม่ โดยเลือกหุ้น SET100 ที่มีคุณสมบัติ 1) จ่ายเงินปันผลดี ให้ Dividend Yield ขั้นต่ำปีละ 3.5% 2) มี ESG Ratings สูง ตั้งแต่ระดับ A-AAA และ CG ระดับ 5 ดาว และ 3) มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง และผล ประกอบการมีแนวโน้มเติบโตได้ในปี 2025 เลือก KTB BBL BCP ADVANC HMPRO 

2. นักลงทุนที่ต้องการหุ้นเก็งกำไรซึ่งคาดได้อานิสงส์จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง แนะนำ กลุ่มเช่าซื้อ (MTC) กลุ่มอสังหาฯ (AP) กลุ่มค้าปลีก (CPALL) กลุ่มโรงไฟฟ้า (GULF) กลุ่ม REITs (LHHOTEL DIF)

3. นักลงทุนที่ต้องการหุ้นเก็งกำไรซึ่งได้อานิสงส์บวกจากสถานการณ์น้ำท่วม แนะนำ HMPRO GLOBAL CPALL BJC DCC และ TASCO ซึ่งจากสถิติปีที่เกิด La Nina หากลงทุนช่วงครึ่งหลัง ก.ย. และขายต้น พ.ย. คาดหวังจะได้ผลตอบแทนเฉลี่ยราว 5.0%

ขณะที่การแข็งค่าของเงินบาทอย่างรุนแรงในไตรมาส 3/2567 มองจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อหุ้นที่มีรายได้จากการส่งออก แนะนำหลักเลี่ยงการลงทุนช่วงสั้น ได้แก่ TU GFPT และ CBG KCE ส่วนนักลงทุนที่ต้องการเก็งกำไรหุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากค่าเงินบาทแข็งค่า แนะนำ AAV GULF GPSC และ BCP

สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ CPALL กำไรครึ่งหลังปั 2567 คาดจะเติบโต YoY ดีที่สุดในกลุ่มพาณิชย์ โดยไตรมาส 3/2567 คาดกำไรจะเติบโต YoY และ QoQ แรงหนุนจากยอดขายและมาร์จิ้นที่ดีขึ้นจากธุรกิจ CVS และ CPAXT ส่วนไตรมาส 4/2567 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี 2567 จากเข้าสู่ High Season อีกทั้ง Valuation น่าสนใจ โดยซื้อขายที่ PER 67F ระดับ 25 เท่า (-2SD)

GULF ครึ่งหลังปี 2567 คาดกำไรปกติจะเติบโตแกร่งจากกำลังผลิตใหม่ที่เข้ามาเพิ่ม อาทิ โรงไฟฟ้า IPP ใหม่ GDP หน่วยที่ 4 (662.5 MW) และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์หลายโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนา อีกทั้งยังมองบวกต่อดีลควบรวมระหว่าง GULF และ INTUCH นอกจากนี้ ยังได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยเข้าสู่ขาลง และ Valuation น่าสนใจ โดยซื้อขาย PER 24F ที่ 33 เท่า (-1.0 SD)