posttoday

SET อัพไซด์ถูกจำกัด จับตา GDP จีน แนะ “Selective Buy” ชู BBL และ BDMS

18 ตุลาคม 2567

SET อัพไซด์ถูกจำกัด ในระยะสั้น บริเวณแนวต้านจิตวิทยา 1,500-1,510 จุด ติดตาม GDP จีน เช้านี้ กลยุทธ์การลงทุน “Selective Buy” แนะนำ BBL และ BDMS

          บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) ประเมินว่า SET เริ่มมี upside จำกัด ในระยะสั้น บริเวณแนวต้านจิตวิทยา 1,500-1,510 จุด และแรงขายของนักลงทุนต่างชาติที่ยังมีต่อเนื่องกดดันดัชนี รวมถึงอาจมี sentiment ลบ จากตัวเลข GDP จีน ในไตรมาส 3 ที่จะประกาศเช้านี้ออกมาชะลอตัว ด้านแนวรับอยู่ที่ 1,485 และ 1,475 จุด ตามลำดับ หากต่ำกว่า จะเป็นสัญญาณลบต่อภาพการพักฐาน

          ทั้งนี้ ช่วงสั้นมอง SET ยังแกว่งตัว Sideway Up ได้ แต่ Upside เริ่มจำกัด หลังจากดัชนีหุ้นได้ปรับตัวขึ้นร้อนแรงในช่วงก่อนหน้านี้ อีกทั้งมองตลาดยังรอนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของภาครัฐ ขณะที่ปัจจัย ภายนอกยังมีประเด็นเฉพาะตัว อาทิ การเข้าสู่ฤดูกาลประกาศงบไตรมาส 3/2567 ของ บจ. ในสหรัฐ และยุโรป ส่วนตลาดหุ้นจีนมองเริ่มมีความผันผวนลดน้อยลง ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ "Selective Buy“ ใน 4 ธีมที่มีปัจจัยเฉพาะตัว ดังนี้

          1. Earning Play หุ้นปัจจัยพื้นฐานดีที่กำไรไตรมาส 3/2567 คาดเติบโต YoY และ QoQ เลือก BEM BCH BDMS GULF TRUE AU TNP และระมัดระวังกลุ่มที่มีความเสี่ยงงบแย่กว่าตลาดคาด อาทิ กลุ่มพลังงานและปิโตรฯ, กลุ่มบรรจุภัณฑ์, และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์

          2. ผู้ที่รับความเสี่ยงได้ หากเชื่อ กนง. จะลดดอกเบี้ย เก็งกำไร LHHOTEL DIF CPALL AP SIRI ส่วนกลุ่มเช่าซื้อ (MTC TIDLOR) มองราคาปรับขึ้นสะท้อนความคาดหวังแล้ว แต่หากเชื่อไม่ลดดอกเบี้ย เก็งกำไรหุ้นที่มีหนี้/ต้นทุนรูปดอลลาร์สูง AAV GPSC BCP

          3. หุ้นที่จ่ายปันผลสูงและคาดได้อานิสงส์จากการเป็นเป้าหมายสะสมของกองทุนวายุภักษ์และกองทุนที่ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีช่วงปลายปี แนะนำหุ้นที่ผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตได้ในปี 2568 เลือก KTB BBL ADVANC HMPRO

          4. ราคาน้ำมันดิบ Brent ฟื้นตัวจากความกังวลสถานการณ์ในตะวันออกกลาง โดยประเมินกรอบราคา 75-85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล มองยังสามารถมีหุ้นน้ำมันสำหรับป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ได้ สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูง เลือก PTTEP

          สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ BBL ไตรมาส 3/2567 มีกำไรสุทธิ 1.25 หมื่นล้านบาท เติบโต 6%QoQ และ 10%YoY สูงกว่าเราและตลาดคาด จากำไรจากเครื่องมือการเงินและเงินลงทุน ขณะที่ไตรมาส 4/2567 แม้คาดกำไรลดลง QoQ แต่จะเพิ่มขึ้น YoY หนุนให้ปี 2567 คาดกำไรเติบโต 8%YoY และยังโตต่อ 5%YoY ในปี 2568 ส่วน Valuation มองยังไม่แพงในแง่ PBV เทียบกับ ROE และมีความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ต่ำกว่าธนาคารอื่นๆ

          BDMS มองเป็นหุ้นเด่นกลุ่มการแพทย์ โดยไตรมาส 3/2567 คาดกำไรปกติสร้างสถิติสูงสุดเป็น ประวัติการณ์ที่ราว 4.3-4.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ ขณะที่ทั้งปี 2567 คาดมีกำไรปกติเติบโต 13%YoY สู่ 1.6 หมื่นล้านบาท และยังเติบโตต่ออีก 8%YoY ในปี 2568 อีกทั้ง valuation ยังอยู่ในระดับต่ำที่ PER 67F ระดับ 27 เท่า (-2SD)