posttoday

ประเมินเศรษฐกิจลาว 5 ปีข้างหน้า

01 มิถุนายน 2561

โดย...รศ.ดร.อัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษา การค้าระหว่างประเทศมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

โดย...รศ.ดร.อัทธ์ พิศาลวานิช  ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษา การค้าระหว่างประเทศมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

ช่วงที่ผมไปกรุงเวียงจันทน์ สปป.ลาว เมื่อกลางเดือน พ.ค. 2561 ผมพบว่าเวียงจันทน์มีการเปลี่ยนแปลงไปมาก เช่น 1.ช่วงเช้าและเย็นมีรถติดจำนวนมาก (ปี 2560 มีจำนวนรถทุกประเภทในเวียงจันทน์ 8 แสนคัน เฉลี่ยเพิ่มขึ้นเดือนละ 5,000 คัน) 2.การขยายสนามบินใหม่วัดไตเปิดใช้มา 2 เดือน ทำให้สามารถรองรับผู้โดยสาร 3 ล้านคน จากเดิม 1.5 ล้านคน (ยังได้กลิ่นสีใหม่อยู่เลย) 3.ราคาสินค้าแพงขึ้น เพราะสินค้าส่วนใหญ่นำเข้ามาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากประเทศไทย

นอกจากนี้ ค่าเงินกีบ (kip) ของลาวก็อ่อนค่าลง โดยเมื่อปี 2560 ค่าเงินบาทแลกได้ 230 กีบ และต้นปี 2561 ค่าเงินกีบอยู่ที่ 260 กีบต่อ 1 บาท ปัจจุบันแลกกันที่ 250 กีบต่อ 1 บาท 4.ห้างสรรพสินค้ามีมากขึ้น ห้างดังๆ ใหญ่ๆ เกิดขึ้นมากมาย เช่น ห้างเวียงจันทน์ เซ็นเตอร์ ห้างธาตุหลวงพลาซ่า ห้าง I-Tec ช็อปปิ้ง มอลล์ ห้างวิวมอลล์ และห้างเวิร์ดเทรด เซ็นเตอร์ (กำลังก่อสร้างและเป็นห้างที่ใหญ่ที่สุดของลาว) 5.คนที่อยู่ในลาวมีมากขึ้น ประชากรลาว 7 ล้านคน คนจีน 2 ล้านคน คนไทย 1 ล้านคน คนเกาหลี 1 ล้านคน และคนเวียดนามอีก 1 ล้านคน บ่งบอกถึงกำลังซื้อสินค้าในลาวที่มากขึ้นกว่าประชากรของลาว

และสิ่งที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงต่อเศรษฐกิจของลาว อย่างมากก็คือ อีก 3 ปี (หลังปี 2564) ที่รถไฟความเร็วสูงจีน-ลาว จากคุณหมิงถึงเวียงจันทน์ระยะทาง 414 กิโลเมตร ซึ่งเป็นโครงการที่จะเปลี่ยนลาวจาก "Land Locked to Land Linked" ทำให้การเดินทางจากด่านบ่อหาร (Mohan) ไปเวียงจันทน์ใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมง จากเดิมที่ต้องใช้เวลา 2 วัน ปี 2560 นักท่องเที่ยวเข้ามาในลาว 5 ล้านคน หลังรถไฟจีนนักท่องเที่ยวชาวจีนจะเข้ามาปีละ 10-20 ล้านคน มีการคาดการณ์ว่านักศึกษาลาวจะไปเรียนที่ประเทศจีนเพิ่มขึ้นจาก 1 หมื่นคน (2559) เป็น 5 หมื่น-1 แสนคน

ผมได้มีโอกาสคุยกับคุณคุกกี้และทีมงาน ซึ่งทำงานในห้างสรรพสินค้าในกรุงเวียงจันทน์ว่า "ตื่นเต้นกับรถไฟจีนที่กำลังมาหรือไม่" เขาบอกว่าคนทั่วไปเฉยๆ ยกเว้นหน่วยงานรัฐ นักศึกษาและนักธุรกิจและพ่อค้าแม่ค้าที่อยากให้เสร็จเร็วๆ เขาอยากบอกอีกว่าในอนาคตคนลาวแต่งงานกับคนจีนมากขึ้น "ปัจจุบันสาวลาว 100 คน แต่งงานกับคนจีน 70 คน อย่างไรก็ตาม แม้จะแต่งกับคนลาว คนจีนก็คนจีน"

หันมาดูทิศทางการค้าและการลงทุนในลาว ระยะที่ผ่านมาพบว่า ในปี 2558 กับปี 2565 สัดส่วน GDP ของลาว เมื่อเทียบกับ GDP อาเซียนทั้งหมดเพิ่มขึ้น 0.1% มูลค่า GDP เพิ่มเป็น 11.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (จาก 14 พันล้านดอลลาร์ เป็น 26 พันล้านดอลลาร์) โดยเวียดนามเป็นประเทศใน CLMV ที่มีมูลค่าของ GDP และสัดส่วน GDP เพิ่มขึ้นมากที่สุดในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยอัตราการขยายตัวเฉลี่ยของ CLMV อยู่ที่ 6.8% ต่อปี GDP ลาวอยู่ที่ 6.9% ซึ่งอัตราการขยายตัวของ GDP ของลาวใน 5 ปีข้างหน้าจะมีอัตราการขยายตัวสูงกว่าอัตราการขยายเฉลี่ยของอาเซียน

จากข้อมูลปี 2547 ถึง 2559 พบว่า เกือบร้อยละ 70 ของการนำเข้าสินค้าของลาวนั้นมาจากสินค้าของประเทศไทย ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวค่อนข้างมีความผันผวน แต่ในอีก 5 ปีข้างหน้าสัดส่วนการนำเข้าจากประเทศไทยเพิ่มขึ้นใกล้เคียงร้อยละ 70 ในขณะที่สัดส่วนการนำเข้าสินค้าจากประเทศจีนปรับตัวลดลงเล็กน้อย นอกจากนั้นเป็นการนำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ โดยสินค้าในอีก 5 ปีข้างหน้า คนลาวต้องการสินค้าอุปโภคบริโภค ตามด้วยสินค้าประดับยนต์ ผลไม้ปลอดสารพิษ และโคเนื้อพรีเมียม โดยปกติสินค้า 5 อันดับแรกของการนำเข้า ได้แก่ เชื้อเพลิง อุปกรณ์ไฟฟ้า รถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ และเครื่องจักรกล เป็นต้น

กลุ่มธุรกิจและการลงทุนที่รัฐบาลลาวส่งเสริมการลงทุนเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2559 ที่กำหนด 9 ประเภทกิจการที่รัฐบาลส่งเสริมคือ 1.ธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยีสูงในการผลิตสินค้าและแปรรูปรวมถึงการค้าแบบออนไลน์ 2.การทำการเกษตรสะอาด ซึ่งมีการตื่นตัวอย่างมากในเวียงจันทน์ทั้งผู้บริโภคและภาครัฐ โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและออร์แกนิก ธุรกิจนี้เป็นจุดขายที่ให้ต่างประเทศเข้ามาเช่าพื้นที่ในลาว เพื่อปลูกพืชเกษตร เช่น ญี่ปุ่น เป็นต้น 3.อุตสาหกรรมแปรรูปผลิตภัณฑ์กสิกรรมลาว มีวัตถุดิบทางการเกษตรเยอะแต่ยังขาดการแปรรูป ตรงนี้รัฐบาลหวังเพื่อส่งออกไปต่างประเทศมากกว่าที่จะขายในประเทศ เพราะคนลาวยังนิยมอาหารสดมากกว่าอาหารแปรรูป 4.การพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริหารจัดการด้านการท่องเที่ยวและการบริการ 5.ธุรกิจด้านการศึกษาและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์กลุ่มธุรกิจที่น่าสนใจ ได้แก่ กลุ่มวิชาชีพเฉพาะ เช่น ช่างซ่อมประเภทต่างๆ 6.โรงพยาบาลทันสมัย หรือ "โรงหมอ" ที่คนลาวเรียกกัน รวมไปถึงสถานเสริมสวยความงาม 7.สถาบันการเงิน 8.การพัฒนาโครงสร้าง พื้นฐาน กลุ่มนี้เป็นธุรกิจเกี่ยวข้องกับการก่อสร้างทุกประเภทและศูนย์การค้าทันสมัย

สำหรับธุรกิจที่น่าลงทุน ได้แก่ เครื่องจักรการเกษตร รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องสำอาง คอมพิวเตอร์ ของตกแต่งบ้าน ร้านอาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้า วัสดุก่อสร้าง ผลไม้ โคเนื้อพรีเมียม โรงชำแหละมาตรฐาน และฟาร์มออร์แกนิก