ภูกระดึงสั่งปิดพื้นที่ไม่มีกำหนด เหตุช้างป่าทำร้ายนักท่องเที่ยว
อธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งปิดภูกระดึงไม่มีกำหนด เหตุช้างป่าตกมันทำร้ายนักท่องเที่ยวเสียชีวิตยังวนเวียนในพื้นที่ เร่งอพยพนักท่องเที่ยวลงมาทันที
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า จากกรณีช้างป่าทำร้ายนักท่องเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลย จนเสียชีวิต เนื่องจากช้างตกมันตัวดังกล่าว ยังกลับมาวนเวียนบริเวณพื้นที่ท่องเที่ยว
เพื่อความปลอดภัยตนจึงได้สั่งปิดการเข้าพื้นที่อุทยานฯ ภูกระดึง และให้นักท่องเที่ยวทยอยเดินทางกลับออกจากอุทยานฯ ภูกระดึง เพื่อให้เจ้าหน้าที่และนักวิจัยสัตว์ป่าเข้าผลักดันและควบคุมช้างป่าจนกว่าพื้นที่ทั้งหมดจะปลอดภัย
เมื่อถามว่าเป็นการปิดการท่องเที่ยวอุทยานฯ ภูกระดึงเลยหรือไม่ นายอรรถพล กล่าวว่า เป็นการปิดการท่องเที่ยวภูกระดึงเพื่อควบคุมช้างให้ได้ก่อน ที่น่าเป็นห่วงคือช้างตัวที่ก่อเหตุซึ่งยังวนเวียนอยู่รอบๆ บริเวณ จึงให้นักท่องเที่ยวทยอยเดินทางกลับออกจากพื้นที่ และห้ามขึ้นภูกระดึงในช่วงเวลานี้
ทั้งนี้ คาดว่ายังมีนักท่องเที่ยวอยู่บนยอดภูกระดึง ประมาณ 1,000 คน ที่จะต้องทยอยเดินทางกลับลงมา ส่วนจะปิดการท่องเที่ยวบนภูกระดึงไปถึงเมื่อไรนั้น ตนยังตอบไม่ได้ แต่คาดว่าจนกว่าจะควบคุมสถานการณ์ได้
นอกจากนี้ นายอรรถพล เผยว่า ในวันที่ 16 ธ.ค.นี้ ตนมีกำหนดการเดินทางไปยังอุทยานฯ ภูกระดึง เพื่อจัดประชุมเรื่องมาตรการแก้ปัญหาสัตว์ป่าที่ทำให้เกิดผลกระทบกับประชาชนทั่วประเทศ โดยเฉพาะสถานการณ์ช้างป่าทั่วประเทศ จะมีการประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ร่วมกับทุกพื้นที่ จากนั้นจะเดินขึ้นภูกระดึงพร้อมเจ้าหน้าที่ และทีมงานสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า เพื่อติดตามการแก้ปัญหาช้างป่า การเตรียมการป้องกันไฟป่า และสถานการณ์อื่นๆ บนภูกระดึง
กรณีนักท่องเที่ยวหญิงวัย 49 ปี เสียชีวิตจากการถูกช้างป่าทำร้าย บริเวณเส้นทางจากองค์พระพุทธเมตตาไปน้ำตกเพ็ญพบ บนยอดภูกระดึง เมื่อวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบว่าพื้นที่เกิดเหตุมีช้างป่าอาศัยอยู่ประมาณ 5-6 โขลง โดยแต่ละโขลงมีจำนวนสมาชิกเฉลี่ย 5-10 ตัว สำหรับช้างที่ทำร้ายนักท่องเที่ยวนั้น ยังไม่สามารถระบุเพศได้อย่างแน่ชัด แต่จากการประเมินเบื้องต้น คาดว่าช้างมีอายุประมาณ 15-20 ปี และน่าจะเป็นช้างที่แยกตัวออกจากฝูงมาหากินเพียงลำพัง