posttoday

ภูฏาน ตั้ง CEO ใหม่ พร้อมทีมงาน นำ‘เกเลฟู เมืองแห่งสัมมาสติ’ มุ่งสู่ระดับโลก

07 ตุลาคม 2567

ภูฏานประกาศแต่งตั้งผู้นำเพื่อขับเคลื่อน ‘เกเลฟู เมืองแห่งสัมมาสติ’ เดินหน้าขับเคลื่อนพลังงานสีเขียว พลังงานปลอดคาร์บอน ศูนย์ข้อมูล (Data Centre) และบริษัทพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อก้าวสู่ความโดดเด่นระดับโลก

สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก พระมหากษัตริย์แห่งประเทศภูฏานทรงแต่งตั้งให้ ลิว มัน ลอง (Mun Leong Liew) เข้ารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) แห่ง เกเลฟู เมืองแห่งสัมมาสติ (Gelephu Mindfulness City – GMC) เขตเศรษฐกิจแห่งใหม่ทางตอนใต้ของภูฏาน ซึ่งเป็นนวัตกรรมล่าสุดสำหรับเขตบริหารพิเศษของราชอาณาจักร พร้อมกันนี้ ในฐานะที่สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมีฯ ทรงเป็นประธานคณะกรรมการบริหารของ เมืองแห่งสัมมาสติ จึงทรงแต่งตั้งให้ ลิว มัน ลอง เป็นกรรมการบริหาร ร่วมกับ โจอิชิ “จอย” อิโต (Joichi “Joi” Ito) เผิง ยี่ เอียน (Yee Ean Pang) เซียว เฮียง ลี (Seow Hiang Lee) อรุณ คาปูร์ (Arun Kapur ) และ ลอเรน ช่ง (Lauren Chung) โดยจะมีการประกาศรายชื่อคณะกรรมการบริหารของเมืองเพิ่มเติมในเร็ว ๆ นี้ ขณะเดียวกันสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมีฯ ยังทรงแต่งตั้ง โจอิชิ อิโตะ ให้เป็นประธานของ บริษัท เกเลฟู อินเวสเมนท์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (GIDC) อีกด้วย
 

ภูฏาน ตั้ง CEO ใหม่ พร้อมทีมงาน นำ‘เกเลฟู เมืองแห่งสัมมาสติ’ มุ่งสู่ระดับโลก

กรรมการแต่ละคนที่ได้รับการแต่งตั้งล้วนมีประสบการณ์การทำงานในองค์กรระดับโลกมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ปี โดยการรวมตัวครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อร่วมงานกับชาวภูฏาน รวมถึงพันธมิตรระหว่างประเทศเพื่อสร้าง เกเลฟูฯ ให้เป็นสัญลักษณ์แห่งการพัฒนาอย่างมีสติ ผสมผสานระหว่างโครงสร้างพื้นฐานที่ล้ำสมัยเข้ากับค่านิยมของภูฏาน เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงและขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ทรงประกาศในเดือนธันวาคม 2566 ให้ เกเลฟูฯ เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจระดับโลกที่ออกแบบมาเพื่อกำหนดกรอบหลักการพื้นฐานของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมยุคใหม่
 
ลิว มัน ลอง จะรับหน้าที่เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ โดยอาศัยประสบการณ์อันยาวนานของเขาจากการเป็นหัวเรือใหญ่เรื่องลงทุนและพัฒนาระดับนานาชาติในหลายโครงการ เขามีประสบการณ์ที่แข็งแกร่งในด้านการพัฒนาเมือง โครงสร้างพื้นฐาน และสนามบิน โดยเคยวางแผน และดำเนินโครงการบุกเบิกสู่ตลาดโลกในตำแหน่งผู้นำองค์กรทั้งในบริษัท แคปิตาแลนด์ (CapitaLand) สนามบินชางงี และกลุ่มเซอร์บานา จูรง (Surbana Jurong Group) ในฐานะประธานผู้ก่อตั้ง และซีอีโอของกลุ่มแคปิตาแลนด์ เขาทำให้บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เติบโตจนมีมูลค่าตลาด  12,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และขยายฐานธุรกิจไปยังกว่า 20 ประเทศ ทำให้กลายเป็นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 
 

เมื่อ ลิว มัน ลอง เข้าไปบริหารกลุ่มสนามบินชางงี ความเป็นผู้นำของเขายังทำให้เกิดการสร้าง จูเวิล ชางงี แอร์พอร์ต (Jewel Changi Airport) อาคารหลังใหม่ที่กลายเป็นแลนด์มาร์ค และได้รับการยกย่องในระดับโลก รวมถึงการพัฒนาในด้านอื่น ๆ อีกด้วย
 
นี่จะเป็นโอกาสอันดีที่ทำให้ ลิว มัน ลอง ได้กำหนดวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ โครงการโครงสร้างพื้นฐาน และการลงทุนระดับโลกของ เกเลฟูฯ โดยความสำคัญในการดำรงตำแหน่งของเขาคือการสร้างศักยภาพ และการพัฒนาบุคลากรชาวภูฏานเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการสานต่อตำแหน่งผู้นำของทีม เกเลฟูฯ ในอนาคต
 
ลิว มัน ลองกล่าวว่า “ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งผู้นำ และรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้สร้างทีมที่จะทำให้ เกเลฟู เมืองแห่งสัมมาสติ มีชีวิตชีวาขึ้น โครงการนี้จะนิยามการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนในเมืองแห่งใหม่ และผมก็ตั้งตารอที่จะได้ร่วมมือกับทีมงานจากหลากหลายภาคส่วนซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญมากความสามารถในหลายสาขา ซึ่งต่างมุ่งมั่นเพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมีฯ เราจะร่วมกันสร้างเมืองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแห่งนี้ให้สะท้อนถึงค่านิยมของชาวภูฏาน พร้อมกำหนดอนาคตของการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมีสติในเวลาเดียวกัน”

โจอิชิ “จอย” อิโต ดำรงตำแหน่งเป็นประธานบริษัท เกเลฟู อินเวสเมนท์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (GIDC) เขาจะทำงานร่วมกับชาวภูฏานและชาวต่างชาติเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการลงทุน การเติบโตทางเศรษฐกิจ และการพัฒนาสำหรับองค์กรต่าง ๆ ทั้งในเขตปกครองพิเศษเกเลฟูฯ รวมถึงพื้นที่อื่นๆ ของภูฏาน และทั่วโลก
 
ความรับผิดชอบของ อิโต ยังรวมถึงการทำงานเพื่อเพิ่มการเชื่อมต่อทางดิจิทัลให้กับเมืองแห่งสัมมาสติ และราชอาณาจักรภูฏาน และขับเคลื่อนการลงทุนในแหล่งพลังงานสีเขียว เช่น พลังงานน้ำและพลังงานแสงอาทิตย์ ขณะเดียวกัน บริษัท เกเลฟู อินเวสเมนท์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด จะส่งเสริมการจัดตั้ง และการเติบโตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเพื่อใช้พลังงานปลอดคาร์บอน รวมถึงศูนย์ข้อมูล (Data Centre) และบริษัทพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI)
 
อิโต มีคุณสมบัติเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับตำแหน่งนี้โดยพิจารณาจากประสบการณ์อันกว้างขวางของเขาในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ตำแหน่งปัจจุบันของเขาคือผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีชิบะ (Chiba Institute of Technology) โดยตำแหน่งก่อนหน้าคือผู้อำนวยการห้องปฏิบัติการวิจัย (Media Lab) ที่ สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts Institute of Technology – MIT) ในสหรัฐอเมริกา ทำให้เขาเป็นผู้นำด้านการวิจัยและพัฒนาในด้านต่าง ๆ เช่น พลังงานสีเขียว เอไอ เว็บ3 และบล็อกเชน มากไปกว่านั้น อิโต ยังมีความสัมพันธ์อันกว้างขวางจากงานที่เคยผ่านมือเขามาแล้วหลายองค์กร อาทิ สภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศญี่ปุ่น และองค์กรระหว่างประเทศอย่าง มูลนิธิมอซิลลา (Mozilla Foundation) และ ศูนย์ข้อมูลความเป็นส่วนตัวทางอิเล็กทรอนิกส์ (The Electronic Privacy Information Center – EPIC)
 
“เกเลฟู เมืองแห่งสติ และราชอาณาจักรภูฏานเป็นผู้บุกเบิกด้านการพัฒนาที่มีรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและใส่ใจ บนพื้นฐานของแหล่งพลังงานสีเขียวที่มีอยู่มากมาย และยังถือเป็นผู้ประกอบการที่ขยายขอบเขตในด้านต่าง ๆ เช่น การพัฒนาเอไอ บล็อกเชน และโดรน รวมถึงมีพันธสัญญาในการใช้เทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตของประชากรให้ดียิ่งขึ้น” อิโต กล่าวหลังได้รับการแต่งตั้ง
 
เผิง ยี่ เอียน เข้าร่วมในคณะกรรมการบริหารด้วยผลงานด้านการลงทุนเพื่อการพัฒนาพื้นที่สีเขียวและโครงสร้างพื้นฐานทั่วเอเชีย โดยมีพอร์ตโฟลิโอสูงถึง 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งส่วนใหญ่เน้นไปที่พลังงานหมุนเวียน 

ภูฏาน ตั้ง CEO ใหม่ พร้อมทีมงาน นำ‘เกเลฟู เมืองแห่งสัมมาสติ’ มุ่งสู่ระดับโลก

ปัจจุบัน เผิง ยี่ เอียน ได้เน้นการลงทุนเพื่อความยั่งยืนทางสังคมมากขึ้น ในฐานะผู้ก่อตั้ง และผู้อำนวยการของบริษัทเออร์บินา แคปิตัล (Urbina Capital) อดีตซีอีโอของซูร์บาน่า จูรง แคปิตอล (Surbana Jurong Capital) และผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของเอเชีย (Asian Infrastructure Investment Bank) ความเชี่ยวชาญของเขาจะนำทางให้การพัฒนาเมืองเกเลฟู มีความสอดคล้องกับกลยุทธ์การลงทุนเพื่อความยั่งยืน เพื่อให้แน่ใจว่าการพัฒนาจะมีความรับผิดชอบต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
 
เซียว เฮียง ลี อดีตซีอีโอของกลุ่มสนามบินชางงี จะนำข้อมูลเชิงลึกแบบหาที่ไหนไม่ได้เกี่ยวกับการพัฒนาเมือง และการเชื่อมต่อระหว่างประเทศมาสู่คณะกรรมการบริหาร ด้วยประสบการณ์ที่ดูแลการเติบโตของสนามบินชางงี จนกลายเป็นศูนย์กลางทางการบินที่มีชื่อเสียงระดับโลก และได้รับการขนานนามว่าเป็นสนามบินที่ดีที่สุดในโลกหลายสมัย เซียว เฮียง ลี มีความเข้าใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนอย่างลึกซึ้ง สำหรับการแสวงหาโอกาสเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการเติบโตทางเศรษฐกิจจะเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้ เกเลฟู เมืองแห่งสติ มีขีดความสามารถในการแข่งขันในฐานะศูนย์กลางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค
 
อรุณ คาปูร์ เคยเป็นหัวหน้าในการก่อตั้งสถาบัน ดรุก กยัลโป (Druk Gyalpo’s Institute – DGI) ที่เมืองพาโร ประเทศภูฏาน และมีส่วนสนับสนุนเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับระบบการฝึกอบรมและการศึกษาแก่คณะกรรมการบริหาร เขาจะมีบทบาทสำคัญในการยกระดับทักษะความสามารถของชาวภูฏานเพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำในสถาบันของรัฐและเอกชนในเมืองแห่งสติ ก่อนที่ อรุณ คาปูร์ จะมาร่วมงานกับ สถาบัน ดรุก กยัลโป เขาเคยดำรงตำแหน่งผู้นำในโรงเรียนอันดับต้น ๆ หลายแห่งทั่วประเทศอินเดีย รวมถึงเป็นผู้อำนวยการของเดอะ บริติช สคูล (The British School) และอาจารย์ใหญ่ที่โรงเรียนวสันต์วัลเล่ย์ (Vasant Valley School) ทั้ง 2 วิทยาเขตในนิวเดลี และยังเคยเป็นผู้อำนวยการบริหารของแอพลิเคชั่น Learn Today ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองนิวเดลี
 
ลอเรน ช่ง ซีอีโอประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ เทเนโอ (Teneo) บริษัทที่ปรึกษาซีอีโอระดับโลก เธอจะนำความเชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และกลยุทธ์การสื่อสารมาสู่คณะกรรมการบริหาร ลอเรน เป็นที่ปรึกษาอันน่าเชื่อถือของคณะกรรมการบริษัท ซีอีโอ นักลงทุน รัฐบาล และผู้นำภาคประชาสังคม เธอช่วยให้บุคคลเหล่านี้บรรลุเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ในขณะที่เผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ ภูมิรัฐศาสตร์ กฎระเบียบ สื่อ สังคม เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม ลอเรน จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารที่จำเป็น และการพัฒนาทักษะเพื่อสนับสนุนการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากทั่วโลกที่มีความเกี่ยวข้องกับเมืองแห่งนี้

ผู้ได้รับการแต่งตั้งใหม่ทุกคนจะเข้าร่วมพิธีเปิดในการประชุม Bhutan Innovation Forum ที่เมืองพาโร ประเทศภูฏาน โดย บียาร์เก้ อิงเกลส์ (Bjarke Ingels) ผู้ร่วมก่อตั้ง และผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของกลุ่ม บียาร์เก้ อิงเกลส์ กรุ้ป (Bjarke Ingels Group – BIG) ได้นำเสนอแผนแม่บทแนวคิดสำหรับ เกเลฟู เมืองแห่งสัมมาสติ ให้ทุกคนได้รับทราบ
 
สมาชิกทุกท่านที่ได้รับแต่งตั้ง ล้วนมีความสามารถเฉพาะตัว เป็นทั้งผู้บุกเบิกด้านการพัฒนา เทคโนโลยี และการศึกษา พวกเขาจะร่วมกันวางรากฐานให้ เกเลฟูฯ ก้าวขึ้นมาเป็นต้นแบบระดับโลกด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมที่สอดคล้องกับจิตวิญญาณของมนุษย์ และสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกัน ภูฏานก็ยังคงแสวงหาผู้เชี่ยวชาญที่มีแนวคิดตรงกัน และมีวิสัยทัศน์เพื่อเข้าร่วมโครงการริเริ่มอันล้ำสมัยนี้ มาช่วยขับเคลื่อนยุคใหม่ของการเติบโต และการมีสติสัมปชัญญะสำหรับราชอาณาจักรแห่งนี้ และที่อื่น ๆ ต่อไป