ยินดีต้อนรับสู่ดินแดนของดูเตอร์เต

สำนักข่าว CNN ได้ทำการสัมภาษณ์ความรู้สึกของชาวเมืองดาเวา ที่มีต่อประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ในฐานะที่ชายผู้นี้เคยเป็นนายกเทศมนตรี และเปลี่ยนแปลงเมืองไปในทิศทางที่ดีขึ้น

เมืองดาเวา เมืองหลักของหมู่เกาะมินดาเนา ทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ คือเมืองที่เข้มแข็ง, ปลอดภัย และภาคภูมิใจกับการที่มีประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต

ดูเตอร์เตเกิดและโตขึ้นที่เมืองนี้ เขาเคยเป็นนายกเทศมนตรีเมืองถึง 7 สมัย ก่อนที่ปัจจุบันจะมาเป็นประธานาธิบดีของฟิลิปปินส์ ในการกลับมาเยือนบ้านเกิดล่าสุด ดูเตอร์เตให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวท้องถิ่นว่า เขาพอใจที่จะนอนบนเตียงที่บ้านเกิดมากกว่า ในพระราชวังมาลานากัง ในกรุงมะนิลา ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของประธานาธิบดี

ท่ามกลางสุนทรพจน์อันก้าวร้าวรุนแรง และเสียงเรียกร้องจากหน่วยงานมนุษยธรรมต่อนโยบายปราบปรามยาเสพติดที่เข้มงวดของเขา แต่ประชาชนในบ้านเกิดก็ยังคงรัก และภูมิใจในตัวดูเตอร์เต

ปัจจุบันบ้านของดูเตอร์เตกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของเมือง รวมไปถึงของที่ระลึกเช่นป้าย และเสื้อยึดที่สกรีนใบหน้าของผู้นำฟิลิปปินส์ ก็สามารถหาซื้อได้ไม่ยากเช่นกัน

สำนักข่าว CNN ได้เดินทางไปยังเมืองดาเวา เพื่อสัมภาษณ์ความคิดเห็นของผู้คนเหล่านี้ ว่าพวกเขาคิดเห็นอย่างไรกับความก้าวหน้าครั้งใหญ่ของอดีตนายกเทศมนตรี ที่ปัจจุบันกลายเป็นประธานาธิบดีแห่งฟิลิปปินส์

Anton Uy นักเรียนวัย 16 ปี

ผมเชื่อว่าดูเตอร์เตสามารถเปลี่ยนแปลงประเทศเราได้ Uy นักเรียนวิศวกรรมวัย 16 ปีกล่าว การเติบโตขึ้นในเมืองดาเวา Uy รู้สึกว่าสถานที่แห่งนี้ปลอดภัย เมื่อมีดูเตอร์เตเป็นนายกเทศมนตรี นอกจากนั้นเขายังนิยามว่าประธานาธิบดีคนนี้เป็นคนที่มุ่งมั่น และกล้าหาญอย่างเหลือเชื่อ

นอกเหนือจากการปราบปรามยาเสพติด และการพัฒนาการศึกษาแล้ว Uy คิดว่า อีกสิ่งหนึ่งที่ฟิลิปปินส์กำลังขาดคือความสามัคคี ซึ่งเขาคิดว่าดูเตอร์เตสามารถเปลี่ยนแปลงมันได้

ประธานาธิบดีของเราไม่เคยยอมแพ้ และเขารู้เสมอว่าต้องทำอะไรเพื่อให้ฟิลิปปินส์ดีขึ้น Uy กล่าว แต่เมื่อถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เช่นที่ฟิลิปปินส์มีต่อจีน และสหรัฐอเมริกา เขาไม่มีความคิดเห็น เนื่องจากไม่ได้ติดตามเรื่องดังกล่าว

อย่างไรก็ดี Uy รู้สึกว่ากระบวนการทำงานของดูเตอร์เตนั้นใสสะอาด ไม่เหมือนกับรัฐบาลชุดผ่านๆมาที่เอาแต่โกงกิน

 

Gary Isla นายธนาคารเกษียณวัย 60 ปี

Isla ตัดสินใจที่จะอาศัยอยู่ในดาเวาจนบั้นปลายชีวิต เขาเชื่อว่าดูเตอร์เตเป็นนายกเทศมนตรีของเมืองที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา และแน่นอนว่าเขาจะเป็นประธานาธิบดีที่ดีด้วย

ตัวเขาจำได้ว่าในสมัยที่ดูเตอร์เตเป็นนายกเทศมนตรี ดูเตอร์เตค่อยๆจัดการปัญหาไปทีละขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นการทุจริตของเจ้าหน้าที่ตำรวจในเมือง ไปจนถึงการจำกัดความเร็วรถยนต์เพื่อแก้ปัญหาอุบัติบนท้องถนน ในความรู้สึกของเขาดูเตอร์เตทำให้เมืองดาเวาเป็นสถานที่ปลอดภัย และน่าอยู่

เราได้เห็นสิ่งที่เขาทำให้เมืองดาเวา และสิ่งที่ดูเตอร์เตพูดล้วนมาจากหัวใจ Isla กล่าว นอกจากนั้นเขายังอธิบายว่าบรรดาสื่อต่างประเทศจะใช้สุนทรพจน์ที่เกรี้ยวกราดของเองในการโจมตีผู้นำฟิลิปปินส์ เมื่อกล่าวถึงการตัดความสัมพันธ์กัยสหรัฐ Isla เชื่อว่านโยบายจริงไม่ใช่การตัดสัมพันธ์แบบเต็มรูปแบบ

 

Jessie Adlao พ่อค้าขายเสื้อยืดรูปดูเตอร์เต

Adlao วิ่งเร่ขายเสื้อยึดสกรีนใบหน้าของดูเตอร์เตไปตามท้องถนนให้แก่นักท่องเที่ยว ในบรรดาสินค้าของเขามีแม่เหล็ก และสติกเกอร์ด้วยเช่นกัน ธุรกิจดังกล่าวเป็นธุรกิจที่ดี และทำเงินให้แก่เขาได้ถึงวันละ 100 ดอลล่าร์สหรัฐ

เช่นเดียวกับผู้อื่นที่โหวตให้ดูเตอร์เต เขาเชื่อหมดหัวใจว่าดูเตอร์เตเป็นคนดี Adlao กล่าวว่า ประธานาธิบดีปฏิบัติต่อทุกคนแบบเท่าเทียมกัน ไม่ว่าคนๆนั้นจะจนหรือรวย

นโยบายปราบปรามยาเสพติดที่เข้มแข็งของดูเตอร์เต คือสิ่งที่ Adlao ประทับใจเป็นพิเศษ

 

Bartender Joseph Repique ชายหนุ่มที่เพิ่งเข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองดาเวาได้ 1 ปี

Repique ตัดสินใจเดินทางมายังเมืองดาเวา เพราะพ่อของเขาเคยอาศัยอยู่ที่นี่เมื่อตอนอายุ 19 ปี และเขาต้องการได้รับประสบการณ์จากเมืองนี้ ซึ่งตัวเขากล่าวว่า เมืองแห่งนี้เป็นสถานที่ที่คุณจะเดินไปไหนมาไหนก็ได้อย่างปลอดภัย ทั้งกลางวัน และกลางคืน

Repique คิดว่านโยบายการปราบปรามยาเสพติดของดูเตอร์เตนั้นเป็นสิ่งที่ดีต่อประเทศนี้ และจะช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ ความยากจนบีบให้คุณเข้าไปยุ่งกับยาเสพติด และยาเสพติดก็จะทำให้คุณยากจนขึ้น เขากล่าว

ตัวเขาไม่ชอบใจที่ประธานาธิบดีเรียกบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐด้วยถ้อยคำหยาบคาย เขาคิดว่าดูเตอร์เตไม่ควรกล่าววาจาเช่นนั้น เพราะเขาคือตัวแทนของประเทศ และคนฟิลิปปินส์เองก็ไม่ได้รู้สึกเช่นนั้นไปซะทุกๆคน พวกเราโอเคกับสหรัฐอเมริกา

 

Susan Medelin เจ้าของธุรกิจ

ในวันสุดท้ายระหว่างการประชุมงานในเมืองดาเวา Medelin และเพื่อนของเธอต้องการที่จะเห็นบ้านของประธานาธิบดี

ตัวเธอค่อนข้างประหลาดใจที่ประธานาธิบดีประกาศแยกตัวจากสหรัฐอเมริกา เพราะในความคิดของเธอนั้น ฟิลิปปินส์ควรที่จะเป็นมิตรกับหลายๆประเทศมากกว่า ไม่ใช่เฉพาะแค่กับสหรัฐอเมริกา

ในฐานะเจ้าของธุรกิจ เธอคาดหวังให้ดูเตอร์เตให้ความสนใจกับการพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่ไปด้วย นอกเหนือจากการปราบปรามยาเสพติดของเขา เมื่อพูดถึงประเด็นวาจาอันเกรี้ยวกราดของประธานาธิบดี เธอให้อภัยเขา เพราะในบางครั้งเธอเองก็โกรธจนควบคุมตัวไม่อยู่เหมือนกัน

เราให้อภัยเขา เพราะคำพูดนั้นเกิดในช่วงที่เขากำลังโกรธ และเขาก็แค่ถ่ายทอดมันออกมา เธอกล่าวก่อนที่จะวิ่งไปถ่ายภาพกับประธานาธิบดี