ช็อตฟีลหน้าหนาว อุณหภูมิในยุโรปเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์

กรมอุตุนิยมวิทยาแห่งเยอรมนีระบุว่าเยอรมันไม่เคยมีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิที่มากขนาดนี้มาก่อน ตั้งแต่มีการบันทึกสถิติในปี 1881 โดยอุณหภูมิในประเทศตอนนี้สูงแตะ 20 องศาเซลเซียส

ทางด้านฝรั่งเศสในช่วง 30-31 ธันวาคม 2022 ส่งท้ายปี ก็ไม่แพ้กัน อุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นแตะ 25 องศาเซลเซียส ส่งผลให้สกีรีสอร์ทหลายแห่งแทบจะร้างจากนักท่องเที่ยว เนื่องจากหิมะเริ่มละลายไปจนหมด เช่นเดียวกับลานสกีในสวิตเซอร์แลนด์ที่ต้องหยุดดำเนินกิจการกันชั่วคราว ส่วนที่เปิดอยู่ก็มีนักท่องเที่ยวเพียงหยิบมือ 

 อุณหภูมิเฉลี่ยของสวิตเซอร์แลนด์ในปี 2022 อยู่ที่ 7.4 องศาเซลเซียส ซึ่งนับว่าเป็นปีที่อุ่นที่สุด แต่ตอนนี้อุณหภูมิกลับเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่า จนแตะ 20.9 องศาเซลเซียสไปแล้ว นักท่องเที่ยวที่เดินทางหวังชื่นชมหิมะและเล่นสกีในสวิตเซอร์แลนด์ต่างแสดงความผิดหวังเมื่อพบว่าหิมะในพื้นที่แห่งนี้เหลือน้อยลงเต็มที ขณะที่กิจการท่องเที่ยวหลายแห่งต้องปรับรูปแบบกิจกรรม แม้นักท่องเที่ยวจะบางตาลงกว่าปกติ 35-40%

ส่วนแดนกระทิงดุสเปน อุณหภูมิที่สนามบินบิลเบาในแคว้นบาสก์แตะ 25.1 องศาเซลเซียส ผู้คนจำนวนมากต่างออกมารับแสงแดดและเดินเล่นเลียบแม่น้ำ Nervion ประหนึ่งว่านี่ไม่ใช่ฤดูหนาว

“ปกติแล้วในเดือนมกราคม ฝนจะตกเยอะมาก ตกตลอด แล้วก็หนาวมาก แต่ตอนนี้มันเหมือนกับเราอยู่ในฤดูร้อนเลย” หนึ่งในประชาชนจากบิลเบากล่าว

นักท่องเที่ยวบางส่วนจะระบุว่าอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นเหมาะกับการทำกิจกรรมกลางแจ้ง แต่ก็รู้ได้ว่าโลกกำลังรวนจากผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม เราอาจสนุกกับกิจกรรมต่างๆแต่ขณะเดียวกันก็มีความกังวลเกิดขึ้นกับสถานการณ์ดังกล่าว

แม้นักวิทยาศาสตร์จะยังไม่ระบุชัดเจนว่าคลื่นความร้อนที่แผ่ปกคลุมไปทั่วยุโรปตลอดช่วงปีใหม่นี้เป็นผลมาจากวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) หรือไม่ แต่ก็เชื่อว่าเหตุการณ์ภูมิอากาศแปรปรวนจะส่งผลระยะยาวสืบเนื่องต่อไปในอนาคต ทั้งยังกระทบต่อพืชพันธุ์และสัตว์ต่างๆที่ต้องตื่นจากการจำศีลไวกว่าปกติ

อย่างไรก็ตามอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นทั่วยุโรปกลับส่งผลดีต่อราคาพลังงาน จากเดิมที่แก๊สทั่วยุโรปมีราคาสูงอันเป็นผลสืบเนื่องจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน แต่เมื่อความต้องการใช้แก๊สของประชาชนลดน้อยลงจากอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น ราคาพลังงานในยุโรปจึงลดลงตามอุปสงค์ของตลาด