Cybertruck ของ Tesla ทำระยะทางที่ขับได้จริงต่ำกว่าสเป็ค
รถกระบะ Cybertruck ของ Tesla ที่มีราคาแพงกว่าที่คาดไว้ แถมมีระยะการขับขี่ที่ต่ำกว่าที่ อีลอน มัสก์ สัญญาไว้ได้ทำให้บางคนผิดหวังอย่างมาก แต่ก็ทำให้อีกหลายคนหลงใหลด้วยความรู้สึกที่ล้ำสมัยและเหมือน SUV
Cybertruck เริ่มเข้าสู่ตลาดรถกระบะในสหรัฐเพื่อแข่งขันกับ Ford's F150 Lightning, R1T ของ Rivian Automotive's และ Hummer EV ของGeneral Motors ซึ่งช้ากว่ากำหนดสองปี
อเล็กซิส โอฮานเนียน ผู้ร่วมก่อตั้ง Reddit ซึ่งเป็นหนึ่งในลูกค้าชุดแรกที่รับรถเมื่อวันพฤหัสบดีกล่าวว่า Cybertruck ขับและให้ความรู้สึกเหมือนกับรถอเนกประสงค์ Model X ของ Tesla
“ความรู้สึกแรกเกี่ยวกับรถคันนี้ – นุ่มนวล ขับได้เหมือนกับ Model X ของผมมาก มันใหญ่แต่ไม่ได้เทอะทะ” Ohanian กล่าวในขณะที่เขาสตรีมสดการขับ Cybertruck ครั้งแรกของเขาบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X เขาบอกว่าเขาจะเป็น “พ่อสุดเจ๋ง” ไปรับลูกที่โรงเรียน
Cybertruck เริ่มต้นที่ราคา 60,990 ดอลลาร์ (2.12 ล้านบาท) ซึ่งแพงกว่าที่ อีลอน มัสก์ ประกาศไว้ในปี 2019 ถึง 50% นั่นอาจทำให้ความน่าดึงดูดของยานพาหนะน้อยลง หุ้นของ Tesla ลดลงมากกว่า 2% นับตั้งแต่ก่อนการเปิดตัว
ในบรรดาผู้ที่ผิดหวังคือ คริสเตียน คุก ผู้บริหารฝ่ายบริการทางการเงินในเท็กซัส ซึ่งจอง Cybertruck ในปี 2019 หลังจากที่ มัสก์สัญญาว่าจะส่งมอบรถกระบะราคาถูกกว่าและจะเดินทางได้ไกลกว่าด้วยการชาร์จเพียงครั้งเดียว
“ราคาแพงขึ้น แต่ระยะทางที่ขับได้จริงลดลงอย่างมาก” คุก ซึ่งขับรถ Model 3 ยังยืนยันว่าจะยังคงซื้อรถรุ่นนี้ต่อไป
การ์เร็ต เนลสัน นักวิเคราะห์ของ CFRA กล่าวว่าราคาที่สูงมาก จะทำให้ลูกค้าบางส่วนยกเลิกการจอง และคาดว่า Tesla จะปรับราคาตามความต้องการในอนาคต
นักวิเคราะห์ระบุว่า Cybertruck ซึ่งทำจากสเตนเลสสตีลกันกระสุนแวววาว และได้รับแรงบันดาลใจจากเรือดำน้ำที่กลายเป็นรถยนต์จากภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ มีแนวโน้มที่จะช่วยยกระดับแบรนด์ของ Tesla ที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการลดราคาในตลาดรถ EV เมื่อเร็วๆนี้ได้
แต่นักวิเคราะห์บางส่วนกลับมองว่า Cybertruck จะไม่ส่งผลอะไรมากนักต่อการเงินของ Tesla ในปีหน้า จากคาดการณ์ว่าจะมีการส่งมอบ 250 คันในปีนี้ และ 75,000 คันในปีหน้า โดยมองว่าเป้าหมายดังกล่าวเป็นไปได้ยาก
ก่อนหน้านี้ มัสก์ กล่าวว่า Tesla มีแนวโน้มที่จะมีอัตราการผลิต Cybertruck ประมาณ 250,000 คันต่อปีในปี 2568
อย่างไรก็ตาม Tesla ถูกเตือนซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า กำลังจะเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญในการเพิ่มผลิตภัณฑ์ และการเพิ่มขึ้นของกระแสเงินสดอาจจะไม่ถึงกลางปี 2568 ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อความสามารถในการทำกำไร ขณะที่การปรับปรุงแบรนด์จะมีความสำคัญอย่างมากสำหรับ Tesla โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่บริษัทกำลังต่อสู้กับความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่ลดลงรวมถึงการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัท กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ คือ กลุ่มผลิตภัณฑ์รุ่นเก่าซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ขณะที่ยังไม่มีผลิตภัณฑ์ให้ออกสู่ตลาดจนกว่าจะถึงปลายปี 2568 นักวิเคราะห์ระบุ