ตลาดหุ้นสหรัฐกระทบจากความเห็นประธานเฟดเรื่องดอกเบี้ย แต่กลับมายืนแดนบวก

ดาวโจนส์ยังทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกด้วย ดัชนีหุ้นหลักสามดัชนีของสหรัฐฯ มีกำไรเพิ่มขึ้นสำหรับไตรมาสและประจำเดือนนี้

พาวเวลล์กล่าวในการประชุมสมาคมเศรษฐศาสตร์ธุรกิจแห่งชาติในเมืองแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี ว่าเขาเห็นว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกสองครั้ง รวมเป็น 50 จุดพื้นฐาน ในปีนี้จะเป็นไปได้หากเศรษฐกิจพัฒนาตามที่คาดไว้

ผู้ค้าประเมินว่ามีโอกาส 35% ที่ดอกเบี้ยจะลดลง 50 จุดในเดือนพฤศจิกายน ลดลงจากประมาณ 37% ก่อนคำพูดของพาวเวลล์ และ 53% ในวันศุกร์ ตามรายงาน FedWatch Tool ของกลุ่ม CME Group

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) เพิ่มขึ้น 17.15 จุด หรือ 0.04% เป็น 42,330.15 จุด

ดัชนี S&P 500 (.SPX) เพิ่มขึ้น 24.31 จุด หรือ 0.42% ปิดที่ 5,762.48 จุด

และดัชนี Nasdaq Composite (.IXIC) เพิ่มขึ้น 69.58 จุด หรือ 0.38% ปิดที่ 18,189.17 จุด

ราคาน้ำมันมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในวันจันทร์ แต่โดยรวมลดลง 17% ในไตรมาสที่สาม เนื่องจากความกลัวว่าความขัดแย้งที่ขยายวงกว้างขึ้นในตะวันออกกลางอาจทำให้อุปทานน้ำมันดิบลดลงถูกบดบังด้วยความกังวลด้านอุปสงค์ทั่วโลกที่ลดลง

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ล่วงหน้าสำหรับการส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ซึ่งสิ้นสุดในวันจันทร์ ลดลง 21 เซนต์ มาอยู่ที่ 71.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในขณะเดียวกัน สัญญาเบรนต์สำหรับการส่งมอบในเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 27 เซนต์ มาอยู่ที่ 71.81 ดอลลาร์

สัญญาซื้อขายล่วงหน้า West Texas Intermediate (WTI) ลดลงหนึ่งเซนต์มาอยู่ที่ 68.17 ดอลลาร์ ดัชนีอ้างอิงของสหรัฐฯ ร่วงลง 7% ในเดือนกันยายน เป็นการลดลงรายเดือนครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2023 และร่วงลง 16% เป็นการลดลงรายไตรมาสที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสที่สามของปี 2023

ทองคำอ่อนตัวลงในวันจันทร์ หลังจากการขึ้นราคาครั้งประวัติศาสตร์ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการผ่อนคลายทางการเงินของสหรัฐฯ และความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งทำให้ราคาเข้าสู่ไตรมาสที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2020

ราคาทองสปอตลดลง 0.9% อยู่ที่ 2,634.75 ดอลลาร์ต่อออนซ์ 

ราคาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐฯ ลดลง 0.3% อยู่ที่ 2,659.40 ดอลลาร์