แนวโน้มการปรับนโยบายภาษีของทรัมป์ หนุนตลาดหุ้นสหรัฐบวก ทองร่วง

ฝ่ายบริหารของทรัมป์มีแนวโน้มที่จะยกเว้นภาษีเฉพาะภาคส่วนในขณะที่ใช้การเก็บภาษีต่างตอบแทนในวันที่ 2 เมษายน วอลล์สตรีทเจอร์นัล และบลูมเบิร์กรายงาน

 

ขณะที่ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจหลายชุดยังชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลงเนื่องจากความกังวลด้านภาษีเพิ่มขึ้น

 

ข้อมูลในวันจันทร์แสดงให้เห็นว่าดัชนีผลผลิต PMI คอมโพสิตของสหรัฐ ของ S&P Global ซึ่งติดตามภาคการผลิตและบริการเพิ่มขึ้นเป็น 53.5 ในเดือนนี้จาก 51.6 ในเดือนกุมภาพันธ์ ค่าที่อ่านได้สูงกว่า 50 บ่งชี้ถึงการขยายตัว

 

อย่างไรก็ตาม ความกังวลเกี่ยวกับภาษีและการลดการใช้จ่ายภาครัฐยังคงส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น เนื่องจากมาตรการความเชื่อมั่นทางธุรกิจของการสำรวจลดลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นอันดับสองนับตั้งแต่ปี 2022

 

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) เพิ่มขึ้น 597.97 จุดหรือ 1.42% เป็น 42,583.32 จุด

 

ส่วน S&P 500 (.SPX) เพิ่มขึ้น 100.01 จุดหรือ 1.76% เป็น 5,767.57 จุด

 

และ Nasdaq Composite (.IXIC) เพิ่มขึ้น 404.54 จุดหรือ 2.27% เป็น 18,188.59 จุด

 

Nasdaq แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม

 

ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น 1% ในวันจันทร์ เนื่องจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กล่าวว่าเขาจะเก็บภาษี 25% จากประเทศที่ซื้อน้ำมันและก๊าซจากเวเนซุเอลา

 

อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของราคาถูกจำกัดไว้ เนื่องจากสหรัฐฯ ให้เวลาเชฟรอน ผู้ผลิตน้ำมันจนถึงวันที่ 27 พฤษภาคม เพื่อยุติการดำเนินงานด้านน้ำมันและการส่งออกจากเวเนซุเอลา 

 

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 84 เซนต์หรือ 1.2% สู่ 73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 

 

ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบ West Texas Intermediate ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 83 เซนต์หรือ 1.2% อยู่ที่ 69.11 ดอลลาร์

 

ราคาทองคำปรับตัวลดลงในวันจันทร์ เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ในขณะที่นักลงทุนจับตาดูท่าทีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ระมัดระวังมากขึ้นในเรื่องภาษีกับคู่ค้า

 

ราคาทองสปอตร่วงลง 0.6% สู่ระดับ 3,006.84 ดอลลาร์ต่อออนซ์ 

 

ราคาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐฯ ตกลง 0.2% อยู่ที่ 3,015.60 ดอลลาร์