เข็มทิศความหวัง
มีคนมากมายไม่กล้าลุกขึ้นมาทำตามความฝัน เชื่อว่าตัวเองไม่ดีพอ ไม่เก่งพอ ไม่คู่ควร เป็นคนดีต้องทิ้งความต้องการ
โดย...ฐิตินาถ ณ พัทลุง
มีคนมากมายไม่กล้าลุกขึ้นมาทำตามความฝัน เชื่อว่าตัวเองไม่ดีพอ ไม่เก่งพอ ไม่คู่ควร เป็นคนดีต้องทิ้งความต้องการ ทิ้งความฝันของตัวเองไป แล้วดูแลความต้องการของคนอื่นก่อน ความรู้สึกนี้ของหลายคนเกิดจากคำพูดเพียงไม่กี่คำของผู้ใหญ่ ที่เขาฟังตอนเป็นเด็ก แล้วด้วยความเป็นเด็กก็เชื่อตามนั้น
วิธีการทำงานของจิตใจก็คือ เวลาที่คนเชื่ออย่างไร เขาจะมองเห็นข้อมูลต่างๆ ที่มาสนับสนุนความเชื่อของเขาซ้ำๆ จนความเชื่อนั้นแข็งแรงขึ้นมองเห็นแต่สิ่งที่ตรงตามความเชื่อ เพราะมนุษย์มีความต้องการอย่างหนึ่งที่ลึกมากคือ ความต้องการที่จะเป็นฝ่ายถูก แม้สิ่งที่คิดและเชื่อจะไม่เป็นประโยชน์หรือแม้กระทั่งทำร้ายชีวิตตัวเองก็ตาม
เมื่อมีข้อมูลใหม่ที่เข้ามาไม่ตรงกับความเชื่อจิตใจจะมีส่วนที่เรียกว่า Critical Factor หรือตัววิจารณ์คัดกรองคอยปัดข้อมูลใหม่ที่ไม่ตรงกับความเชื่อออกไป บางคนเลิกทำธุรกิจตามความฝันของตัวเอง ด้วยเหตุผลว่าเคยลองแล้วสองครั้งไม่สำเร็จ ตัวเองคงไม่มีความสามารถพอ
บางคนกลัวที่จะมีความรักนั่งโดดเดี่ยวเหงาเล่นเกมในเฟซบุ๊กไปวันๆ ไม่กล้าเปิดใจมองเห็นความรัก เพราะเคยผิดหวังเรื่องความรักมาและเชื่อว่าคนดีๆ ความรักที่มีความสุขไม่มีในโลก บางคนเคยบอกเจ้านายถึงความต้องการของตัวเองเรื่องเงินเดือนและงานที่อยากรับผิดชอบแล้วเจ้านายไม่ให้ ตั้งแต่นั้นมาเขาไม่เคยเรียกร้องอะไรเพื่อตัวเองอีกเลย บางคนเคยเสนอความคิดเห็นกับผู้ใหญ่ตอนตัวเองเป็นเด็กแล้วโดนดุ พอโตขึ้นเขาไม่เคยกล้าเสนอความคิดเห็นอะไรกับที่ประชุมอีกเลย ทันทีที่คนมีความเชื่อเขาจะมองเห็นเหตุผลสนับสนุนความเชื่อตัวเอง
ตอนที่เราเป็นเด็กเราอาจกลัวเสียงดัง กลัวความมืด กลัวผู้ใหญ่ตำหนิ กลัวคำพูดที่คนอื่นตัดสินเรา ว่าเราทำสิ่งนี้เก่ง หรือไม่เก่ง แต่วันนี้เราโตแล้ว เรานอนในห้องปิดไฟคนเดียวได้ เรารู้ดีว่าผู้ใหญ่ก็มีปม มีเหตุผลที่อาจทำให้พูดผิดคิดผิดทำผิด ประเมินสิ่งต่างๆ ผิดได้ เราแต่ละคนสามารถนำความรู้ความเข้าใจแบบผู้ใหญ่ที่เรามีในตอนนี้กลับเข้าไปทำความเข้าใจกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในอดีต คำพูด การกระทำของคนหลายคนในอดีตใหม่
มองสิ่งที่เกิดขึ้นแบบเป็นคนสังเกตการณ์ดูอยู่ห่างๆ เป็นคนสังเกตการณ์ที่มีความรู้มีความสามารถ มีมุมมองความเข้าใจสูงกว่าคนที่กำลังเผชิญหน้ากับสิ่งนั้นอยู่ ใส่ทรัพยากรที่เรามีตอนนี้ ใส่ความรู้ ความเข้าใจความกล้าหาญเข้าไป เราจะพบว่าความรู้สึกของเราต่อเหตุการณ์ต่างๆ ที่เรายืนดูกลับมีมุมมองใหม่ที่ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
ทันทีที่เราเกิดความเข้าใจบางอย่างสว่างวาบขึ้นมาในใจ เราจะพบว่าเหตุการณ์ที่เข้ามาในชีวิตเราต่อจากวัยเด็กมีบางอย่างที่คล้ายคลึงกันและต้องการความเข้าใจอย่างเดียวกัน เพราะโลกต้องการให้เราเข้าใจบางอย่าง เรียนรู้บางอย่าง เพื่อเติบโตและเป็นเราที่ดีที่สุด การที่ในอดีตเราไม่ยอมเข้าใจ ไม่ยอมดึงทรัพยากรด้านดีที่เรามีออกมาใช้ทำความเข้าใจ ทำให้โจทย์เดิมกลับมาซ้ำๆ พอเราเข้าใจก็เหมือนคนสอบผ่านไม่ต้องกลับมาเรียนเรื่องเดิมอีก
จักรวาลถูกสร้างมาอย่างชาญฉลาด วิจิตรประณีตที่สุด มนุษย์แต่ละคนก็เช่นกัน หากจะสร้างเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีเซลล์แต่ละเซลล์ที่ทำงาน ทำหน้าที่ที่ชาญฉลาดเท่ากับทุกเซลล์ของมนุษย์ นักวิทยาศาสตร์พบว่าจะต้องใช้เงินถึง 7 หมื่นล้านบาทเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นหากใครมีคนใกล้ตัวที่คิดว่าตัวเองไม่มีค่าบอกเขาให้เข้าใจใหม่
อนุญาตให้เด็กน้อยในตัวเรายิ้มหัวเราะ มีความสุข กล้าที่จะรัก เป็นอิสระ กล้าตั้งคำถาม วิ่งทำความฝัน จินตนาการของตัวเองให้เป็นจริง เพราะสิ่งดีงามต่างๆ ถูกสร้างขึ้นมาก็เพราะคนหลายคนไม่ยอมถูกจำกัดอยู่แค่ในสิ่งที่โลกบอกว่ามันต้องเป็นอย่างนี้ มีแค่นี้ ทำได้แค่นี้
วันที่คนสร้างคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลกล้าที่จะฝันว่า ทุกคนจะมีคอมพิวเตอร์เป็นของตัวเอง โลกมีความเชื่อว่าอย่างมากก็อาจจะขายได้สักสองเครื่องในอเมริกา
วันที่สองพี่น้องตระกูลไรต์ฝันว่าจะนั่งบนเครื่องที่บินได้อย่างนก โลกหัวเราะเยาะเขา กี่ครั้งที่คนกล้า ผู้กล้าที่กล้าตั้งคำถามใหม่ว่า ทำไมจะไม่ได้ละ แล้วสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ให้มวลมนุษยชาติ
วันนั้นที่เจ้าชายสิทธัตถะกล้าตั้งคำถามว่า ทำไมมนุษยชาติต้องเจ็บปวดทุกข์ทรมานกับความแก่ ความเจ็บ ความตาย ทุกคนเชื่อว่า ต้องยอมจำนน ไม่มีทางที่จะไม่ทุกข์ได้ เป็นไปไม่ได้ เจ้าชายสิทธัตถะตั้งคำถามว่า ทำไมจะไม่ได้เล่าแล้วลงมือหาหนทาง
วันนี้ถามตัวเองมีอะไรที่คุณยอมจำนน เพราะคนรอบข้างบอกว่า ทำไม่ได้ไม่มีทาง ตั้งคำถามใหม่ ทำไมจะไม่ได้ Why Not?
หลักสูตรเข็มทิศจิตใต้สำนึกพัฒนาเด็ก (8-14 ปี) จะจัดในวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 17-18 ธ.ค.นี้ สอบถามรายละเอียดได้ที่โทร. 08-6664-8870, 08-6892-0440 www.compassNLP.com