คนบ้าบอล

โดย...ทีมข่าวกีฬา

ถือเป็นปีทองของคอบอลบ้านเราอย่างแท้จริง เพราะปีงูเล็กนี้แฟนฟุตบอลชาวไทยจะได้ยลโฉมนักเตะในดวงใจแบบตัวเป็นๆ เนื่องจากเหล่าทีมบิ๊กเนมมีคิวเดินทางมาอุ่นเกือกที่เมืองไทย ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน เริ่มจาก “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (13 ก.ค.), “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี (17 ก.ค.), “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล (28 ก.ค.) และ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลนา (7 ส.ค.) ซึ่งแต่ละทีมล้วนเคยครองเจ้ายุโรปมาแล้วทั้งนั้น

นอกจากความยิ่งใหญ่ที่กล่าวไปแล้ว สโมสรที่เอ่ยมายังเป็นทีมที่มีฐานแฟนคลับมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลกอีกด้วย เมื่อเป็นเช่นนี้ weekly ฉบับนี้ จึงขันอาสาพาไปพบกับคนบ้าบอล...ในบ้านเรา ซึ่งขอบอกว่าดีกรีความคลั่งพวกเขาไม่ได้แพ้พวกต่างชาติเลยทีเดียว

เชียร์สิงห์บลูจนสร้างทีมเอง

เชื่อว่าหลายคนคงมีทีมโปรดของตัวเอง แต่คงมีน้อยคนแน่ที่จะเชียร์ทีมรักจนกระทั่งสามารถสร้างทีมของตัวเองขึ้นมาได้

หนึ่งในนั้นคือ “บิ๊กเน” เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์ศึกฟุตบอล ไทยพรีเมียร์ลีก ปี 2011 ที่เคยเปิดใจไปหลายครั้งแล้วว่า เป็นแฟนคลับ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี มานานแล้ว

“ผมเริ่มชอบ เชลซี มา 10 กว่าปีแล้ว ตั้งแต่ยุคที่ โรแบร์โต ดิ มัตเตโอ ยังเล่นอยู่เลย คงเป็นเพราะชื่นชอบสไตล์การเล่นและผู้บริหารสโมสรก็ทุ่มเทสุดๆ ส่วนนักเตะที่ชอบก็มี จิอันฟรังโก โซลา กับ แฟรงก์ แลมพาร์ด เพราะมีเทคนิคการเล่นสุดยอดและทุ่มเทตลอด แถมเล่นสะอาดไม่มีนอกเกม” นักการเมืองระดับแนวหน้าที่หันมาทำทีมบอลในบ้านเกิด กล่าว

ส่วนเรื่องที่ว่าเอา เชลซี มาเป็นแบบอย่างในการทำทีมนั้น เจ้าของทีม “เซราะกราว” ก็บอกว่าอาจมีส่วนเหมือนกัน เพราะยอดทีมกรุงลอนดอนมีการบริหารจัดการที่ดีมาก (มิน่าเล่า สนามเหย้า “นิวไอ โมบาย สเตเดียม” ดูๆ ก็คล้ายๆ “สแตมฟอร์ด บริดจ์” ในถิ่นผู้ดี สีน้ำเงินเหมือนกันด้วย)

ว่าแล้วอดถามไม่ได้ว่า ในฐานะเป็นแฟนพันธุ์แท้ขนาดนี้ เคยไปอังกฤษเพื่อดูเชลซีแข่งมากี่ครั้งแล้ว และเคยใกล้ชิดนักเตะสิงห์บลูขนาดไหน ก็ได้รับคำตอบว่า ไปดูมานับไม่ถ้วนเลย แต่ไม่เคยไปวุ่นวายเข้าใกล้นักบอล

“ผมไปหลายครั้งจนจำไม่ได้จริงๆ โดยเฉพาะช่วงที่ โจเซ มูรินโญ คุมทีมนั้น ไปบ่อยมาก ส่วนจะให้บอกว่าประทับใจแมตช์ไหนของเชลซีมากที่สุด ก็คงจะบอกไม่ได้เหมือนกัน แต่ช่วง 3 ปีมานี้ที่มาทำทีมของตัวเอง ก็แทบไม่ได้ไปดูที่โน่นเลย”

ต้องยอมรับว่า แฟนคลับอย่าง พี่เน คงไม่เหมือนใคร เพราะพอถูกถามว่ามีรูปที่ใส่เสื้อทีมสิงห์บลูหรือไม่ เพื่อจะขอเอามาลงประกอบเรื่องหน่อย ก็โดนปัดทันที แต่ก็มีเหตุผลที่น่าฟังทีเดียว

“อย่าให้ผมเสียภาพพจน์ดีกว่า (ใส่เสื้อทีมอื่น) เพราะตอนนี้เรามีทีมบุรีรัมย์ฯ เป็นของตัวเอง ต้องทุ่มเทตรงนี้จะดีกว่า”

หากได้คุยกับแฟนพันธุ์แท้ทีมบอลต่างๆ ส่วนใหญ่มักจะเอาของที่ระลึกหรือของสะสมของทีมโปรดออกมาโชว์ด้วยความภาคภูมิใจ แต่สำหรับ พี่เน นายใหญ่แห่งดินแดนปราสาทภาคอีสานแล้ว กลับไม่เป็นเช่นนั้น

“แต่ก่อนสมัยที่ยังไม่มีทีมบุรีรัมย์ฯ ผมจะซื้อเสื้อทีมใหม่ของเชลซีทุกปี แต่ช่วงหลังมานี้ไม่ได้ซื้อเลย มีแต่แฟนผม (ซ้อต่าย) ที่คอยเก็บสะสมของพวกนี้ แต่คงไม่มีเอาออกมาโชว์ให้ถ่ายรูปนะ เพราะเก็บเข้ากรุอยู่ในบ้านที่กรุงเทพฯ แล้วก็ไม่ค่อยได้ไปด้วย ส่วนใหญ่จะอยู่ที่บุรีรัมย์นี่แหละ”

เดอะค็อปแม่ลูกอ่อน

“นิหน่า” สุฐิตา ปัญญายงค์ พิธีกรรายการกีฬาแห่งช่อง 7 สี ทีวีเพื่อคุณ เธอคือเดอะค็อปตัวยงแห่งเมืองไทย ยิ่งพอมาแต่งงาน กับ “แบงค์” พชร ปัญญายงค์ นักจัดรายการสายเศรษฐกิจเลือดหงส์ด้วยแล้ว ทั้งคู่จึงกลายเป็นครอบครัว ลิเวอร์พูล ไปโดยปริยาย ขนาดลูกชายยังมีชื่อว่าน้องแพททริกเลยทีเดียว (มาจากชื่อ แพททริก แบร์เกอร์ มิดฟิลด์ลิเวอร์พูล)

ถึงแม้ผมหยิกตัวเองให้ไม่ถามคำถามยอดฮิตว่า ทำไมถึงตกลงปลงใจมารักลิเวอร์พูล แต่สัญชาตญาณก็พลั้งเผลอออกไปจนได้คำตอบมาเช่นนี้

“ตอนที่นิหน่าเรียนอยู่ ม.3 เพื่อนๆ ในกลุ่มที่สนิทกัน จะคอยมีเรื่องเมาท์ความหล่อของนักฟุตบอลมาให้ได้ยินบ่อยๆ ด้วยความที่กลัวคุยกับเพื่อนไม่รู้เรื่อง

ก็รู้สึกว่า เฮ้ย เราต้องลองดูบ้างแล้ว และเมื่อได้เปิดทีวีดูเกมที่ลิเวอร์พูลแข่ง แล้วมันก็เหมือนโชคชะตาฟ้าลิขิต รู้สึกไอ้กีฬาฟุตบอลนี่มันก็สนุกดีนี่หว่า แล้วก็เลยตั้งเป้าว่าจะเชียร์ทีมเนี้ย

นับแต่นั้นเป็นต้นมา โดยไม่ได้มีปัจจัยเรื่องหน้าตานักฟุตบอลเข้ามาเกี่ยวข้องแต่อย่างไร ไม่เชื่อดูเหล่าสไปซ์บอยสิ ร็อบบี ฟาวเลอร์, สตีฟ แม็คมานามาน, เจมี เรดแนปป์, เจสัน แมคคาเทียร์ โอ้ย! แต่ละคน หล่อๆ เอ้ย!!! ฝีเท้าดีๆ กันทั้งนั้น”

บอกตรงๆ ยุคนั้นค่อนข้างทรมาน เพราะฟุตบอลตอนนั้นยังไม่มีถ่ายทอดสดทุกคู่เหมือนสมัยนี้ จำได้ว่าถ้ามีแข่งวันไหน ก็จะแอบแม่ฟังรายงานสดทางวิทยุ และคอยวิ่งไปซื้อหนังสือพิมพ์กีฬาที่มาขายในโรงเรียน เรียกว่าเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ไปรุมซื้อหนังสือพิมพ์กีฬาเล่มเล็กที่มีอยู่ในแผงจำนวนไม่มาก จนเพื่อนถามว่า นี่แกเล่น (พนัน) บอลหรือเปล่า เราก็เลยบอกไปว่า เปล่าเฟร้ย อ่านเพราะใจรักเพียงอย่างเดียว ฮ่าๆๆ แต่นั่นคือความฝันให้อยากเป็นนักข่าวกีฬาไปโดยไม่รู้ตัว

ระหว่างกำลังคุยออกรสชาติ ยิงคำถามถึงวีรกรรมที่คิดว่าแสบที่สุดในฐานะแฟนบอล ตอนแรกนิหน่าบ่ายเบี่ยง ก่อนเราต้อนจนมุมด้วยคำสารภาพว่า พี่เคยแอบขโมยหญ้าที่แอนฟิลด์มาแล้ว!!!

“จำได้ว่านั่นเป็นครั้งที่ 2 ที่ได้ไปสนามแอนฟิลด์ ไม่ได้มีแมตช์อะไรหรอก ไปแค่ชมเฉยๆ แต่พอเจ้าหน้าที่ห้ามๆๆๆ โน่นนี่นั่นเยอะ เลยนึกสนุกจิ๊กหญ้ามาซะเลย

(อ้าว! แล้วพี่ได้ดูเกมแรกที่นั่นเมื่อไหร่???) ครั้งที่ 3 ล่ะ จะเรียกว่า third time lucky ก็ได้ ตอนนั้นจำได้ว่า เสมอ ฟูแล่ม 00 กว่าจะได้เห็น ลิเวอร์พูล ชนะต่อหน้าจริงๆ ก็ปาเข้าไปครั้งที่ 3 วันนั้นชนะ เอฟเวอร์ตัน 21 รู้สึกฟินเป็นบ้า”

จากนั้นเดอะค็อปสาวรายนี้ก็ตระเวนพาชมบ้าน พอเห็นถึงกับทึ่งไปเหมือนกัน เพราะของที่ระลึกเยอะมาก แถมหลายชิ้นดูท่าว่าจะหายากอีกต่างหาก แต่สุดท้ายเมื่อต้องให้เลือกชิ้นสุดโปรด พี่นิหน่า เลือกเสื้อพร้อมลายเซ็น สตีเวน เจอร์ราร์ด กัปตันทีมชุดนี้นี่เอง

“จริงๆ แล้วมีเสื้อสตีวี่จีพร้อมลายเซ็น 2 ตัวนะ โดยตัวแรกไม่ค่อยภูมิใจเพราะฝากเพื่อนที่ทำงานที่อังกฤษไปขอให้ ความรู้สึกมันเลยยังไม่ฟิน แต่ตัวที่ 2 นี่สิได้จากเจ้าตัวกับมือถึงปลื้มสุดๆ และวันที่ 28 มิ.ย.นี้ก็จะขอทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ใกล้ชิดพี่เจิดอีกครั้ง”

ปิดท้ายด้วยคำถามที่อาจจะสะเทือนใจเหล่าเดอะค็อปสักหน่อยแล้วกัน ช่วยพยากรณ์ให้เราหน่อยว่าอีกกี่ปีหงส์จะกลับมาผงาดในพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง

“สำหรับแชมป์ของลิเวอร์พูล คงต้องรออีกหลายปี กว่าจะสร้างทีมเข้าที่เข้าทาง ตอนนี้คิดว่าหาทางกลับมาแชมเปียนส์ลีกให้ได้ก่อนดีกว่า คนเราเชียร์ก็ต้องยอมรับความจริงว่าลิเวอร์พูลยังต้องการเวลาอีกหลายปีกว่าจะกลับมาบนเส้นทางคว้าแชมป์ แต่ยังไงก็จะเชียร์ อดทนรอได้ฤดูกาลหน้าก็หวังว่าจะกลับมาติดท็อป 4 ก็พอใจแล้ว”

ต้องขอบอกเลยว่าทุกประโยคที่เอื้อนเอ่ยเกี่ยวกับลิเวอร์พูล แววตาของเธอนั้นเต็มไปด้วยประกายทุกครั้ง สิ่งนี้ถือเป็นข้อพิสูจน์ได้ดีว่าเธอนี่แหละคือเดอะค็อปตัวยง

หนุ่มผู้หลงใหลทีมต่างดาว

ธภัทร ตันติกาญจนกุล (เบน) แฟนพันธุ์แท้บาร์เซโลนา ปี 2012

หนุ่มอินดี้ที่คลั่งไคล้ (บ้า) ทีม “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลนา ยักษ์ใหญ่แดนกระทิงดุ จนถึงขั้นได้เป็นแฟนพันธุ์แท้บาร์เซโลนา หนุ่มคนนี้ไม่ธรรมดา (พิเศษใส่ไข่) แน่นอน

บาร์เซโลนา หลายคนอาจจะเรียกว่าทีม “เอเลี่ยน” (นอกโลก) เพราะนักเตะในทีมแต่ละคนเก่งสุดขั้วเกินห้ามใจทั้งนั้น ยากที่จะหาทีมไหนในปฐพีต่อกรได้จริงๆ โดยเฉพาะ ลิโอเนล เมสซี กองหน้าอาร์เจนไตน์ เจ้าของตำแหน่งฟีฟ่าบัลลงดอร์ 4 สมัย เป็นเครื่องการันตีฝีเท้าและความเก่งขั้นเทพ

หนุ่มเบน วัย 26 ปี ชอบบาร์เซโลนา ด้วยเหตุผลที่ว่า หมั่นไส้เพื่อนๆ ที่มักจะเกทับบลัฟแหลกกัน โดยเฉพาะแฟนแมนฯ ยูไนเต็ด และลิเวอร์พูล เลยตัดสินใจเชียร์บาร์เซโลนา ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย

“ช่วงเรียนเพื่อนส่วนใหญ่เชียร์ แมนฯ ยูไนเต็ด กับ ลิเวอร์พูล ผมเบื่อ เลยหาทีมที่ไม่ได้อยู่ในกระแส แบบอินดี้ไปเลย ตอนนั้นชอบ เดโก้ มิดฟิลด์ปอร์โต ที่ได้แชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ปี 2003 เขาย้ายไปอยู่กับบาร์เซโลนา ผมเลยเชียร์บาร์ซ่าตั้งแต่นั้นมา”

หากถามแฟนบอลส่วนใหญ่ชอบนักเตะคนไหนในทีมบาร์เซโลนา ร้อยทั้งร้อย ต้องยกนิ้วให้ ลิโอเนล เมสซี แต่สำหรับแฟนพันธุ์แท้รายนี้ เซอร์จิโอ บุสเกต เป็นนักเตะที่เจ้าตัวปลื้มและชื่นชอบสุดๆ เพราะอย่างว่า ถ้าชอบเหมือนคนอื่นก็ไม่ใช่สไตล์หนุ่มเบนนะสิ

“ผมชอบบุสเกต เป็นนักบอลประเภทปิดทองหลังพระ เขามาจากทีมเยาวชน เล่นบอลฉลาด วิ่งช้า แถมยังผอมอีก แต่ในที่สุดเขาก็พิสูจน์ให้เห็นว่าเขามีฝีเท้าดีที่จะเบียดตำแหน่งตัวจริงของ ยาย่า ตูเร่ ได้ สุดยอดเลยครับคนนี้”

“เจ้าบุญทุ่ม” จัดการสอย เนย์มาร์ กองหน้าทีมชาติบราซิล เข้ามาร่วมงานในคัมป์นูเรียบร้อยโรงเรียนบาร์ซ่า โดยหวังจะให้ผนึกกำลังกับ ลิโอเนล เมสซี โอวววว...คู่แข่งจะหยุดความแรงและเร็วของคู่นี้ได้ คงต้องเอาไม้หน้าสามลงไปด้วย หนุ่มเบนเล่าติดตลก